สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ต้องลอง
เอาเงิน 1 หมื่นบาท มาลองซื้อซัก 1 ตัว
ราคาหุ้นควรอยู่ระหว่าง 5-30 บาท หุ้นพวกนี้ถ้าเจ็บ จะไม่หนัก มีประเด็นเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมที่มาแรงยิ่งดี ท่องเที่ยว ก่อสร้าง ICT อย่าเอาทีวีดิจิตอลมารวมมันเสี่ยงไป เสาอากาศยังไม่ได้ตั้งกันเลย
ถ้าต่ำกว่า 5 บาท หวาดเสียวมาก เวลา swing มันมากเกินไป
ซื้อหุ้นมันไม่ยาก มันยากที่ 1.จะซื้อตัวไหน 2.ราคาไหน 3.ขายเมื่อไหร่ ถ้าหาได้ 3 อย่างก็จบหลักสูตร
ซื้อเสร็จแล้วค่อยอ่านหนังสือ ก็ได้
buffetology ขายอยู่ se-ed ลองหาดู
ทำไมให้ซื้อก่อนค่อยอ่านหนังสือ เพราะ การอ่านหนังสือมันเหมือนกันอ่านกระดาษคู่มือขับรถ อ่านไป 1 ปีเต็มก็ขับรถไม่เป็น
ถ้าไม่ลองขับเลย มันจะเฉี่ยวบ้าง ชนบ้าง แต่สัญชาติญาณเราจะบอกได้ ว่าอันตรายมันเป็นไง
ซื้อน้อยๆ ถือนานๆ อ่านเยอะๆ
เอาเงิน 1 หมื่นบาท มาลองซื้อซัก 1 ตัว
ราคาหุ้นควรอยู่ระหว่าง 5-30 บาท หุ้นพวกนี้ถ้าเจ็บ จะไม่หนัก มีประเด็นเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมที่มาแรงยิ่งดี ท่องเที่ยว ก่อสร้าง ICT อย่าเอาทีวีดิจิตอลมารวมมันเสี่ยงไป เสาอากาศยังไม่ได้ตั้งกันเลย
ถ้าต่ำกว่า 5 บาท หวาดเสียวมาก เวลา swing มันมากเกินไป
ซื้อหุ้นมันไม่ยาก มันยากที่ 1.จะซื้อตัวไหน 2.ราคาไหน 3.ขายเมื่อไหร่ ถ้าหาได้ 3 อย่างก็จบหลักสูตร
ซื้อเสร็จแล้วค่อยอ่านหนังสือ ก็ได้
buffetology ขายอยู่ se-ed ลองหาดู
ทำไมให้ซื้อก่อนค่อยอ่านหนังสือ เพราะ การอ่านหนังสือมันเหมือนกันอ่านกระดาษคู่มือขับรถ อ่านไป 1 ปีเต็มก็ขับรถไม่เป็น
ถ้าไม่ลองขับเลย มันจะเฉี่ยวบ้าง ชนบ้าง แต่สัญชาติญาณเราจะบอกได้ ว่าอันตรายมันเป็นไง
ซื้อน้อยๆ ถือนานๆ อ่านเยอะๆ
สมาชิกหมายเลข 1395114 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4129532 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6478453 ถูกใจ, Lylee138 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4646218 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3845871 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6268389 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6225709 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4934549 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2352321 ถูกใจรวมถึงอีก 84 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 27
อันนี้ขออธิบายสำหรับมือใหม่สุดๆเลยนะคะ
1. ขั้นแรกนะคะ ต้องเปิดพอร์ตก่อนวิธีเลือกบริษัทโบรกเกอร์ก็เลือกตามความสะดวกในการโอนเงินเลยก็ได้ค่ะ บริษัทโบรกเกอร์ที่พ่วงธนาคาร ก็เช่น บัวหลวง Ksec แต่บัวหลวงจะมีอบรมให้ความรู้มือใหม่มากกว่าค่ะ
2.บัญชีหุ้นมี 2 ประเภทคือ Cash balance กับบัญชี ATS , Cash balance คือคุณต้องโอนเงินเข้าไปฝากไว้ในพอร์ตหุ้นก่อน และซื้อหุ้นได้ในวงเงินของคุณเท่านั้น สำหรับมือใหม่แล้วถือว่าดีไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการโอนเงินเข้าไปเติมในพอร์ตภายหลังจากการซื้อขาย มีเงินเท่าไหนลงทุนเท่านั้นค่ะ
ส่วนบัญชี ATS คือคุณมีสิทธิซื้อหุ้นก่อนแล้วโอนเงินไปจ่ายภายหลัง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องวางหลักประกันสูงกว่าตอนเปิดบัญชี
3.หลังจากคุณมีพอร์ตหุ้นเป็นของตัวเองแล้ว โหลดโปรแกรม Streaming ค่ะ มีทั้งใน Ios และ android เรียนรู้วิธีการ คี คำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง เวลาซื้อกับขายอย่ากดสลับกันนะคะ มือเก่าแล้วยังเคยกดผิด
4.ขั้นต้นจำนวนหุ้นขั้นตำ่ในการซื้อขายคือ 100 หุ้น เช่นหุ้น ราคา 3 บาท ซื้อ 100 หุ้น เป็นเงิน 300 บาท ฉะนั้นคุณมีเงินน้อยก็เล่นหุ้นได้ค่ะ แต่ต้องเช็คค่า Commission ด้วยนะคะ ถ้าเล่นน้อยไปกำไรไม่คุ้มค่า Commission
5.วิธีการเลือกหุ้นขึ้นต้น กรณีผุ้ไม่เคยเรียนเทคนิคมาหรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจการมาก่อน ให้ลองเลือกหุ้น จาก SET 50 ดูค่ะ อาจจะดูรายชื่อหุ้นจาก www.settrade.com เพื่อให้ไปศึกษากิจการให้รู้จักตัวย่อหุ้นเบื้องต้น หรืออาจจะดูจากหมวดอุตสาหกรรมเพื่อให้เข้าใจว่าหุ้นอะไรอยุ๋หมวดไหน หากกรณีเพิ่งเริ่มลงทุนจริง เลือกหุ้นที่เป็นที่รู้จักดีก่อน เช่น ADVANC DTAC CPALL PTT BGH (ตัวอย่างนะคะไม่ได้พูดว่าตอนนี้ควรลงทุนหุ้นเหล่านี้ มีอีกหลายปัจจัยในการเลือกลงทุนคะ)
6.เมื่อคุณรุ้จักหุ้นพื้นฐานดีแล้วคุณต้องรู้ว่าช่วงเวลานี้ ควรลงทุนหรือไม่ในภาพใหญ่ เช่น ดัชนี SET จะไปต่อไหม ในจุดนี้น่าลงทุนไหม หรือควรรอให้ปรับฐานก่อน เพราะส่วนใหญ่หุ้นที่มี Market cap สูงๆจะอ้างอิงดัชนี SET เป็นหลัก ภาพรวมSETลงหุ้นลง SET ขึ้นหุ้นขึ้น การรู้ภาพใหญ่ช่วยตัดความเสี่ยงในการลงทุนไปมากค่ะ ลงทุนหุ้นดีผิดจังหวะก็ขาดทุนค่ะ ไม่พูดถึงมุมมองปัจจุบันนะคะเพราะมีหลากหลายความคิดเห็นว่าดัชนีจะไปต่อหรือไม่
7.พอรู้ภาพรวมดัชนีแล้วก็ต้องรู้จักหุ้นรายตัว ส่วนนี้ต้องศึกษาค่ะ เช่น หุ้นมีปันผล หุ้นนี้ P/E เท่าไหร่ เพื่อดูว่าหุ้นถูกหรือแพง
8.จัดพอร์ต หากพอร์ตเล็กอาจลงทุนหุ้น 3-5 ตัวที่อยู่คนละหมวดอุตสาหกรรม ทำไมต้องคนละหมวดอุตสาหกรรม??? เพื่อกระจายความเสี่ยงค่ะ เกิดมีข่าวร้ายต่อหนึ่งหมวดอุตสาหกรรม คุณจะได้ไม่ขาดทุนทั้งพอร์ต
อันนี้เขียนวิธีการศึกษาคร่าวๆค่ะ สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของดัชนีก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อหุ้นรายตัว หุ้นปั่น หุ้นมีข่าว หุ้นมาร์เกตติ่งเชียร์ อันนี้ใช้วิจารณาณให้มากๆค่ะ สำหรับคนไม่รุ้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูที่ละขั้นนะคะ ส่วนคนที่เล่นมาก่อนเล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไปคะ อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนต้องใช้เวลา เริ่มอย่างระวังดีกว่า หากมีคำถามสอบถามได้ Facebook : singletrader
1. ขั้นแรกนะคะ ต้องเปิดพอร์ตก่อนวิธีเลือกบริษัทโบรกเกอร์ก็เลือกตามความสะดวกในการโอนเงินเลยก็ได้ค่ะ บริษัทโบรกเกอร์ที่พ่วงธนาคาร ก็เช่น บัวหลวง Ksec แต่บัวหลวงจะมีอบรมให้ความรู้มือใหม่มากกว่าค่ะ
2.บัญชีหุ้นมี 2 ประเภทคือ Cash balance กับบัญชี ATS , Cash balance คือคุณต้องโอนเงินเข้าไปฝากไว้ในพอร์ตหุ้นก่อน และซื้อหุ้นได้ในวงเงินของคุณเท่านั้น สำหรับมือใหม่แล้วถือว่าดีไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการโอนเงินเข้าไปเติมในพอร์ตภายหลังจากการซื้อขาย มีเงินเท่าไหนลงทุนเท่านั้นค่ะ
ส่วนบัญชี ATS คือคุณมีสิทธิซื้อหุ้นก่อนแล้วโอนเงินไปจ่ายภายหลัง ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องวางหลักประกันสูงกว่าตอนเปิดบัญชี
3.หลังจากคุณมีพอร์ตหุ้นเป็นของตัวเองแล้ว โหลดโปรแกรม Streaming ค่ะ มีทั้งใน Ios และ android เรียนรู้วิธีการ คี คำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง เวลาซื้อกับขายอย่ากดสลับกันนะคะ มือเก่าแล้วยังเคยกดผิด
4.ขั้นต้นจำนวนหุ้นขั้นตำ่ในการซื้อขายคือ 100 หุ้น เช่นหุ้น ราคา 3 บาท ซื้อ 100 หุ้น เป็นเงิน 300 บาท ฉะนั้นคุณมีเงินน้อยก็เล่นหุ้นได้ค่ะ แต่ต้องเช็คค่า Commission ด้วยนะคะ ถ้าเล่นน้อยไปกำไรไม่คุ้มค่า Commission
5.วิธีการเลือกหุ้นขึ้นต้น กรณีผุ้ไม่เคยเรียนเทคนิคมาหรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจการมาก่อน ให้ลองเลือกหุ้น จาก SET 50 ดูค่ะ อาจจะดูรายชื่อหุ้นจาก www.settrade.com เพื่อให้ไปศึกษากิจการให้รู้จักตัวย่อหุ้นเบื้องต้น หรืออาจจะดูจากหมวดอุตสาหกรรมเพื่อให้เข้าใจว่าหุ้นอะไรอยุ๋หมวดไหน หากกรณีเพิ่งเริ่มลงทุนจริง เลือกหุ้นที่เป็นที่รู้จักดีก่อน เช่น ADVANC DTAC CPALL PTT BGH (ตัวอย่างนะคะไม่ได้พูดว่าตอนนี้ควรลงทุนหุ้นเหล่านี้ มีอีกหลายปัจจัยในการเลือกลงทุนคะ)
6.เมื่อคุณรุ้จักหุ้นพื้นฐานดีแล้วคุณต้องรู้ว่าช่วงเวลานี้ ควรลงทุนหรือไม่ในภาพใหญ่ เช่น ดัชนี SET จะไปต่อไหม ในจุดนี้น่าลงทุนไหม หรือควรรอให้ปรับฐานก่อน เพราะส่วนใหญ่หุ้นที่มี Market cap สูงๆจะอ้างอิงดัชนี SET เป็นหลัก ภาพรวมSETลงหุ้นลง SET ขึ้นหุ้นขึ้น การรู้ภาพใหญ่ช่วยตัดความเสี่ยงในการลงทุนไปมากค่ะ ลงทุนหุ้นดีผิดจังหวะก็ขาดทุนค่ะ ไม่พูดถึงมุมมองปัจจุบันนะคะเพราะมีหลากหลายความคิดเห็นว่าดัชนีจะไปต่อหรือไม่
7.พอรู้ภาพรวมดัชนีแล้วก็ต้องรู้จักหุ้นรายตัว ส่วนนี้ต้องศึกษาค่ะ เช่น หุ้นมีปันผล หุ้นนี้ P/E เท่าไหร่ เพื่อดูว่าหุ้นถูกหรือแพง
8.จัดพอร์ต หากพอร์ตเล็กอาจลงทุนหุ้น 3-5 ตัวที่อยู่คนละหมวดอุตสาหกรรม ทำไมต้องคนละหมวดอุตสาหกรรม??? เพื่อกระจายความเสี่ยงค่ะ เกิดมีข่าวร้ายต่อหนึ่งหมวดอุตสาหกรรม คุณจะได้ไม่ขาดทุนทั้งพอร์ต
อันนี้เขียนวิธีการศึกษาคร่าวๆค่ะ สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของดัชนีก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อหุ้นรายตัว หุ้นปั่น หุ้นมีข่าว หุ้นมาร์เกตติ่งเชียร์ อันนี้ใช้วิจารณาณให้มากๆค่ะ สำหรับคนไม่รุ้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูที่ละขั้นนะคะ ส่วนคนที่เล่นมาก่อนเล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไปคะ อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนต้องใช้เวลา เริ่มอย่างระวังดีกว่า หากมีคำถามสอบถามได้ Facebook : singletrader
สมาชิกหมายเลข 7552399 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7656163 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2815716 ถูกใจ, Lylee138 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4646218 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3845871 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5435721 ถูกใจ, แฝดผู้พี่ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1167738 ถูกใจ, Bauhinia ถูกใจรวมถึงอีก 6 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 21
เล่นเป็นเล่นเก่ง ก็อาจขาดทุนได้ครับ ถ้าเจอแต่พวกเก๋าที่อยู่ข้างใน แต่เท่าที่รู้ จะมีเม่าเข้ามารายวันหลายราย ซึ่งก็คือกำเงินมาแบ่งคนเก๋า ที่เขาหาได้วันละ 4000-5000 บาทแล้วเลิก ส่วนเม่าก็ตายไป เม่านี่หมายถึงรู้มากด้วยนะแต่ผมไม่บอกละกันว่าแพ้ได้ไง ให้เฝ้าคอม ดูกราฟเป็นด้วยเอ้า แต่พอท่านตายก้มีเม่าใหม่มา ผมยกตัวอย่างแบบนี้ละกัน
1. เม่าเก่งมากอยากลองวิชา และมีเงิน 30000 บาท
2. เม่าอ่านเรื่องหุ้นมา 3เดือน และลงเล่นโปรแกรมจนเชี่ยวชาญ เรียกได้ว่าติด1-5 ของผู้ชนะเลย
3. เม่ามั่นใจลองสนาม โดยขอเฝ้าหุ้น5 ตัว กดไป30000 บาทหมด
4. เม่าเล่นไป1 วัน มีซื้อมีขาย แต่เม่า เหลือเงินที่พอท 22000 ตอนปิดหุ้น
5. เม่างง อะไรวะ ตูก็ซื้อถูกจังหวะขายถูกจังหวะนี่ ไหงขาดทุน
ผมเฉลยคร่าวๆนะครับ ทู้นี้อาจถูกลบเพราะขัดใครหลายคนที่มีผลประโยชน์กินเม่า
ที่โพสนี่คือเม่ารายวัน รายสัปดาห์นะครับ ไม่ได้พูดถึง คนซือ้หุ้นดีดีและรอกินยาวลุกหลาน เพราะอันนั้นเล่นง่ายไป
แต่มันไม่ค่อยมีเล่น เช่น ปตท มาและจากไปเมือ่นานละ ตอนนี้คงไม่ทันราคาสูงเกิน
เฉลยต่อ โบรกเก้อเอาไปกินไงครับ 0.2% ซื้อ และอีก0.2% ตอนขาย รวม0.4%
และหุ้นไทยนี่แปลก แกว่งเกิน 0.5 เพื่อกำไรหักส่วนจ่ายโบรกเก้อ มันมีน้อยมาก
ผมดูคร่าวๆ 20 ตัวอาจเจอ2 ตัว ที่เลหือซื้อไปขาดทุน ยกเว้นรอขึ้นเกิน0.4% ซึ่งบอกได้เลยเสี่ยงเมือ่เจอมือเก๋ามือปั่น
พิมพ์เท่านี้ละกัน ก็อยากบอกโลกไมไ่ด้สวย นะครับเดินได้แต่ต้อง วิเคราะห์เก่งมือไว ถ้าความรุ้เท่ากัน
1. เม่าเก่งมากอยากลองวิชา และมีเงิน 30000 บาท
2. เม่าอ่านเรื่องหุ้นมา 3เดือน และลงเล่นโปรแกรมจนเชี่ยวชาญ เรียกได้ว่าติด1-5 ของผู้ชนะเลย
3. เม่ามั่นใจลองสนาม โดยขอเฝ้าหุ้น5 ตัว กดไป30000 บาทหมด
4. เม่าเล่นไป1 วัน มีซื้อมีขาย แต่เม่า เหลือเงินที่พอท 22000 ตอนปิดหุ้น
5. เม่างง อะไรวะ ตูก็ซื้อถูกจังหวะขายถูกจังหวะนี่ ไหงขาดทุน
ผมเฉลยคร่าวๆนะครับ ทู้นี้อาจถูกลบเพราะขัดใครหลายคนที่มีผลประโยชน์กินเม่า
ที่โพสนี่คือเม่ารายวัน รายสัปดาห์นะครับ ไม่ได้พูดถึง คนซือ้หุ้นดีดีและรอกินยาวลุกหลาน เพราะอันนั้นเล่นง่ายไป
แต่มันไม่ค่อยมีเล่น เช่น ปตท มาและจากไปเมือ่นานละ ตอนนี้คงไม่ทันราคาสูงเกิน
เฉลยต่อ โบรกเก้อเอาไปกินไงครับ 0.2% ซื้อ และอีก0.2% ตอนขาย รวม0.4%
และหุ้นไทยนี่แปลก แกว่งเกิน 0.5 เพื่อกำไรหักส่วนจ่ายโบรกเก้อ มันมีน้อยมาก
ผมดูคร่าวๆ 20 ตัวอาจเจอ2 ตัว ที่เลหือซื้อไปขาดทุน ยกเว้นรอขึ้นเกิน0.4% ซึ่งบอกได้เลยเสี่ยงเมือ่เจอมือเก๋ามือปั่น
พิมพ์เท่านี้ละกัน ก็อยากบอกโลกไมไ่ด้สวย นะครับเดินได้แต่ต้อง วิเคราะห์เก่งมือไว ถ้าความรุ้เท่ากัน
yoonnoi ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3540564 ถูกใจ, heavenpig ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1216317 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 787259 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1966107 สยอง, เข้ามากดปุ่ม ทึ่ง
ความคิดเห็นที่ 1
ผมเริ่มจากอ่านการ์ตูน www.maoinvestor.com
แล้วก็ไปอ่าน "เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยาก"
จากนั้นก็เลือกแนวทางการเล่นครับของผมชอบเทคนิคแต่ไม่มีเวลาเลยแบ่งเล่นแบบไฮบริดแทน
เทคนิค - หาอ่านตามเวบนี้ แต่แค่ดูแนวทาง
เน้นคุณค่า - อ่านซีรีย์ของ ดร.นิเวศน์
อ่านมาพอควรราวๆสามเดือนก็เริ่มเปิดพอร์ทหาประสบการณ์จริงกับเงินจำนวนน้อยๆครับ ผมเลือด บัวหลวง BLS เพราะไม่มีขั้นต่ำ (แต่มีอีกหลายเจ้า)
วางแผนไว้คร่าวๆว่าเรียนป.เอกจบปีหน้าจะเริ่มเทรดเต็มกำลังครับ
ปล.ขอขอบคุณ BCH ที่จ้างมาทำงานจนมีเวลาอ่านความรู้เกี่ยวกับหุ้นมากมายครับ
แล้วก็ไปอ่าน "เล่นหุ้นออนไลน์ไม่ยาก"
จากนั้นก็เลือกแนวทางการเล่นครับของผมชอบเทคนิคแต่ไม่มีเวลาเลยแบ่งเล่นแบบไฮบริดแทน
เทคนิค - หาอ่านตามเวบนี้ แต่แค่ดูแนวทาง
เน้นคุณค่า - อ่านซีรีย์ของ ดร.นิเวศน์
อ่านมาพอควรราวๆสามเดือนก็เริ่มเปิดพอร์ทหาประสบการณ์จริงกับเงินจำนวนน้อยๆครับ ผมเลือด บัวหลวง BLS เพราะไม่มีขั้นต่ำ (แต่มีอีกหลายเจ้า)
วางแผนไว้คร่าวๆว่าเรียนป.เอกจบปีหน้าจะเริ่มเทรดเต็มกำลังครับ
ปล.ขอขอบคุณ BCH ที่จ้างมาทำงานจนมีเวลาอ่านความรู้เกี่ยวกับหุ้นมากมายครับ
Lylee138 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4248614 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1216317 ถูกใจ, ผู้ชายทาสแมว ถูกใจ, เข้ามากดปุ่ม ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2641476 ถูกใจ, อย่าเคืองผมเลย ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 2125957 ถูกใจ, Ellelmo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 823922 ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 161
ถ้ายังไม่มีความรู้ เราแนะนำให้หาความรู้เพิ่มเติมก่อนนะคะ การที่เราลงเงินจำนวนหนึ่งเพื่อไปเล่นหุ้น โดยที่เราไม่มีความรู้อะไรเลย โอกาสที่จะขาดทุนมีสูงมาก ถ้าศึกษาด้วยตัวเองแล้วยังไม่เข้าใจ ก็ลองไปสมัครเรียนคอร์สเรียนเกี่ยวกับการเทรดหุ้นลองดูนะคะ เดี๋ยวนี้สถาบันเยอะมาก
แต่ตอนเลือกเรียนต้องเลือกดีๆนะคะ เพราะบางสถาบันคนที่สอนก็รู้ไม่จริง รู้แค่เบสิคแล้วก็เอาข้อมูลที่เราสามารถหาได้ทั่วไปมาสอน พอไปเทรดจริงเจอปัญหาแก้ไขไม่ได้ สุดท้ายก็ขาดทุนเหมือนเดิม
เราว่าหลักๆ ควรเลือกสถาบันที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง เพื่อที่จะได้ข้อมูลรีวิวของคนที่เคยเรียน ว่าสไตล์การสอนหรือเทคนิคที่เขาสอนเหมาะกับเราหรือไม่ รวมไปถึงราคาคอร์สเรียนสมเหตุสมผลกับจำนวนหรือเนื้อหาที่เขาสอนเราหรือไม่
อย่างของเรา เราสมัครเป็นรายเดือน เดือนนึงไม่ถึงสองพัน มันเรียกว่าคอร์ส CSI Pack ของสมาคม http://csisociety.com ที่นี่มันรวมวีดีโอการลงทุนเยอะแยะเลย และอาจารย์ส่วนใหญ่ที่สอนก็เป็นอาจารย์ดังๆทั้งนั้น สไตล์การสอนของเขาก็โอเคเลย จำนวนคอร์สเรียนมีให้เลือกเยอะมาก อยู่ที่บ้านก็เรียนได้เลย เพราะออนไลน์ แถมพอสมัครรายเดือน เราก็สามารถเรียนได้ไม่อั้นแล้วแต่ที่เราอยากจะเรียน ตามจำนวนคอร์สที่มีให้ แถมเท่าที่เราสังเกต คอร์สใหม่ๆจะมาบ่อยมาก ซึ่งมันเป็นผลดีกับเรา ที่จะได้อัพเดทความรู้เทคนิคใหม่ๆข่าวสารใหม่ๆ
ตอนนี้เราเรียนกับ CSI มาได้ประมาณ 3 เดือน สกิลในการเทรดหุ้นของเราดีขึ้นเยอะมาก จากแต่ก่อนที่ต้องยอม Cut loss เดี๋ยวนี้แทบไม่มีเลย รวมกำไรจากหุ้นก็ยังติดบวกอยู่ทุกเดือน ไม่เหมือนแต่ก่อนเดี๋ยวได้ๆเสียๆ สุดท้ายรวมทั้งเดือนขาดทุนซะงั้น
ยังไงเจ้าของกระทู้ก็ลองตัดสินใจดูนะคะ พยายามหาข้อมูลเยอะๆอย่าเพิ่งใจร้อน เอาให้ชัวร์ก่อนค่อยลงทุน โดยค่อยๆเริ่มจากยอดเงินน้อยๆ ถ้ามั่นใจมากขึ้นก็ค่อยๆเพิ่มไป จะดีกว่าคะ
แต่ตอนเลือกเรียนต้องเลือกดีๆนะคะ เพราะบางสถาบันคนที่สอนก็รู้ไม่จริง รู้แค่เบสิคแล้วก็เอาข้อมูลที่เราสามารถหาได้ทั่วไปมาสอน พอไปเทรดจริงเจอปัญหาแก้ไขไม่ได้ สุดท้ายก็ขาดทุนเหมือนเดิม
เราว่าหลักๆ ควรเลือกสถาบันที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง เพื่อที่จะได้ข้อมูลรีวิวของคนที่เคยเรียน ว่าสไตล์การสอนหรือเทคนิคที่เขาสอนเหมาะกับเราหรือไม่ รวมไปถึงราคาคอร์สเรียนสมเหตุสมผลกับจำนวนหรือเนื้อหาที่เขาสอนเราหรือไม่
อย่างของเรา เราสมัครเป็นรายเดือน เดือนนึงไม่ถึงสองพัน มันเรียกว่าคอร์ส CSI Pack ของสมาคม http://csisociety.com ที่นี่มันรวมวีดีโอการลงทุนเยอะแยะเลย และอาจารย์ส่วนใหญ่ที่สอนก็เป็นอาจารย์ดังๆทั้งนั้น สไตล์การสอนของเขาก็โอเคเลย จำนวนคอร์สเรียนมีให้เลือกเยอะมาก อยู่ที่บ้านก็เรียนได้เลย เพราะออนไลน์ แถมพอสมัครรายเดือน เราก็สามารถเรียนได้ไม่อั้นแล้วแต่ที่เราอยากจะเรียน ตามจำนวนคอร์สที่มีให้ แถมเท่าที่เราสังเกต คอร์สใหม่ๆจะมาบ่อยมาก ซึ่งมันเป็นผลดีกับเรา ที่จะได้อัพเดทความรู้เทคนิคใหม่ๆข่าวสารใหม่ๆ
ตอนนี้เราเรียนกับ CSI มาได้ประมาณ 3 เดือน สกิลในการเทรดหุ้นของเราดีขึ้นเยอะมาก จากแต่ก่อนที่ต้องยอม Cut loss เดี๋ยวนี้แทบไม่มีเลย รวมกำไรจากหุ้นก็ยังติดบวกอยู่ทุกเดือน ไม่เหมือนแต่ก่อนเดี๋ยวได้ๆเสียๆ สุดท้ายรวมทั้งเดือนขาดทุนซะงั้น
ยังไงเจ้าของกระทู้ก็ลองตัดสินใจดูนะคะ พยายามหาข้อมูลเยอะๆอย่าเพิ่งใจร้อน เอาให้ชัวร์ก่อนค่อยลงทุน โดยค่อยๆเริ่มจากยอดเงินน้อยๆ ถ้ามั่นใจมากขึ้นก็ค่อยๆเพิ่มไป จะดีกว่าคะ
แสดงความคิดเห็น
การเริ่มต้นเล่นหุ้น
ถ้าสนใจที่จะเล่นหุ้นค่ะ แต่ไม่มีความรู้ค่ะ ถ้าหากการเริ่มต้นเล่นหุ้น เริ่มตั้ง 0 เลยค่ะ
ใครพอจะใจดี แนะนำบ้างค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ