ผมเห็นคนส่วนมากโดยเฉพาะผู้หญิงยังใช้ค่า BMI วัดอยู่เลยว่าอ้วนหรือไม่อ้วนแต่สำหรับผมว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่นะครับเพราะมันมีข้อยกเว้นเยอะโดยเฉพาะกับคนเล่นกล้ามและคนตั้งท้อง ผมเป็นคนหนึ่งที่เล่นกล้ามค่า BMI เกินมาตรฐานแต่ไม่อ้วน ไม่มีพุง สำหรับผมนะวิธีที่จะดูว่าตัวเองอ้วนหรือไม่อ้วนแบบง่ายที่สุด คือ แก้ผ้าส่องกระจกหรือไม่ก็แก้ผ้าให้เพื่อนดูแล้ววิจารณ์ ถ้าอยากจะรู้ละเอียดก็วัดเปอร์เซนต์ สัดส่วนกล้ามเนื้อกับไขมัน ผมเป็นคนเล่นกล้ามมานานรูปร่างจะออกไปทาง V-Shape ขนาดเอวปกตินี่แหละแต่หลังจะกว้างกว่าคนทั่วไปพอสมควรทำให้หาซื้อเสื้อใส่ยากเพราะเสื้อผู้ชายส่วนใหญ่ออกแบบมาเป็นแบบทรงกระบอกพอใส่แล้วมันจะคับที่หลังแล้วเอวมันจะโล่งๆใส่แล้วไม่สวยเลยต้องไปตัดเสื้อที่ร้านซัก 5-6 ตัวและที่เหลือคือใส่เสื้อคนอ้วนไปเลย ลองคิดสภาพดูผมแค่เป็นคนล่ำๆตัวใหญ่พอใส่เสื้อคนอ้วนแล้วส่องกระจกคือไม่ต่างจากคนอ้วนเลยมันเห็นเหมือนมีพุงเลยทั้งๆที่ไม่มีพุงแค่หน้าไม่บวมเหมือนคนอ้วนก็เท่านั้น ถ้าผมใส่เสื้อคนอ้วนไปแบบนั้นตอนไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลผมจะเข้าข่ายคนอ้วนเลยหรือเปล่า ถ้าใช้ค่า BMI ผมเข้าข่ายคนอ้วนแน่นอน
ทุกวันนี้วงการแพทย์ยังใช้ค่า BMI วัดว่าใครผอมหรืออ้วนหรือโอกาสเสี่ยงเป็นโรคต่างๆมั้ยครับ