นศ.แห่ร้องปวีณา โดนตุ๋นฝึกงานในสิงคโปร์!
5 นักศึกษามหาวิทยาลัยดัง รวมตัวร้องมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ หลังถูกบริษัทจัดหางานหลอกไปทำงานในสิงคโปร์ช่วงปิดเทอมใหญ่ แต่กลับปลอมแปลงเอกสารการศึกษา จนถูกกระทรวงแรงงานสิงคโปร์จับ ไล่ออก และส่งกลับไทย สูญเงินคนละหลายหมื่นบาท ขณะที่ยังมีอีกร่วม 50 ชีวิต ถูกกักตัวยึดพาสปอร์ต วอนช่วยด้านคดีและเร่งประสานกระทรวงการต่างประเทศนำตัวกลับไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่าที่สำนักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 5 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้แก่ ม.ศิลปากร ม.เนชั่น ม.เชียงใหม่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อร้องเรียนกรณีถูกบริษัทแห่งหนึ่งหลอกลวงไปฝึกงานที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเรียกเก็บเงินค่าโครงการฝึกงานคนละ 25,000-29,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับทำงานได้ไม่ครบกำหนดสามเดือนตามที่ตกลงไว้ และมีบางคนถูกยึดพาสปอร์ตจนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้
ทั้งนี้ นางสาวชลิดา นนทเปารยะ นศ.จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาได้เปิดหางานจากหน้าเว็บไซต์หนึ่ง และสมัครตามขั้นตอนกำหนด โดยเสียเงินค่าโครงการรอบแรก 5,000 บาท รอบที่สองจ่ายเงินไปอีก 24,000 บาทถ้วน จากนั้นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปเอง โดยเดินทางวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าทำงานที่ Royal@Queen Hotel แต่ทำงานได้แค่วันเดียวก็ทราบว่ามี นศ.ฝึกงานที่อื่นถูกจับกุม แต่นายหน้าที่สิงคโปร์บอกให้ทำงานไปก่อน รอให้เขาจัดการเรื่องที่เกิดปัญหาแล้วจะมาประชุมสรุปเรื่องที่ Royal@Queen ซึ่งทำงานต่อได้ 5 วัน จึงขอดูเอกสารตัวเองกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงแรม พบว่าชื่อมหาวิทยาลัยของตัวเองผิดไปจากความจริง จึงขอถ่ายเอกสารดังกล่าวมา และทำงานต่อไปจนครบ 7 วัน นายหน้าที่สิงคโปร์ถึงมาเรียกประชุมทั้งเด็กฝึกงานและสถานประกอบการ ได้ข้อสรุปว่าให้เด็กฝึกงานทุกคนออกจากการทำงานแล้วบินกลับประเทศไทยเลย และบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดของนายหน้าสิงคโปร์และโรงแรม นายหน้าสิงคโปร์บอกว่าจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินขากลับให้ แต่ค่าเสียหายต้องไปเรียกเอาจากบริษัทที่ประเทศไทย สรุปแล้วอยู่ฝึกงานได้แค่ 7 วัน ได้รับเงินค่าจ้าง 155 ดอลลาร์สิงคโปร์ ตามจำนวนวันที่ทำงาน
เช่นเดียวกับนางสาวชฎารัตน์ เลิศประกายทรัพย์ นศ.จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ที่กล่าวว่ารู้จักกับบริษัทหางานเดียวกันนี้เพราะเข้ามาประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัย จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่าน่าจะไว้ใจได้ และตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฝึกงานที่ประเทศสิงคโปร์กับบริษัทนี้ โดยชำระค่าโครงการเป็นเงิน 25,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องบิน และเดินทางวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มทำงานที่โรงแรม Marriott Singapore ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ได้เกือบ 1 เดือน จึงทราบเรื่อง นศ.ถูกจับกุม เพราะเอกสารด้านการศึกษาผิดจากความจริง เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ก็สิ้นสุดจากการทำงานทันที เพราะถูกไล่ออก เนื่องจากเอกสารด้านการศึกษามีปัญหา และเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักศึกษาที่มาร้องทุกข์ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มี นศ.ถูกกักตัวอยู่ที่กระทรวงแรงงานสิงคโปร์อีกราว 50 คน ไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงอยากให้มูลนิธิปวีณาฯเข้าไปช่วยเหลือด้วย
ด้านนางปวีณากล่าวว่า กรณีนี้กระทรวงแรงงานที่สิงคโปร์กำหนดรับนักศึกษาฝึกงานในประเทศไทย เฉพาะ 3 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.สงขลานครินทร์เท่านั้น แต่นายหน้าไม่ได้บอกความจริงกับนักศึกษา และบริษัทมีการปลอมแปลงเอกสารของนักศึกษาบางราย โดยใช้ชื่อมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ที่สิงคโปร์รับรองให้ฝึกงานได้ เท่าที่ทราบเมื่อนักศึกษากว่า 80 คน ทำสัญญากับบริษัทนายหน้าดังกล่าว และเดินทางไปฝึกงานส่วนใหญ่ที่โรงแรมในสิงคโปร์ แต่เมื่อกระทรวงแรงงานสิงคโปร์มาตรวจสอบ ปรากฏว่าเอกสารการศึกษาไม่ตรงตามข้อกำหนด นักศึกษาไทยจึงถูกนำตัวไปสอบปากคำและถูกกักตัวไว้ที่กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ อีกส่วนหนึ่งบริษัทนายหน้าได้ให้นักศึกษาลาออกจากที่ทำงานและกลับประเทศไทยทันที ซึ่งมูลนิธิจะประสานเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีและเร่งช่วยเหลือนักศึกษาที่ตกค้างอยู่ในประเทศสิงคโปร์อีก 50 ชีวิตต่อไป
จากนั้นนางปวีณาได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก. และรักษาการ ผบก.ป. เพื่อให้รับแจ้งความในคดีดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.ต.นรบุญได้มอบหมาย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. ดำเนินการ ซึ่ง พ.ต.อ.อัคราเดชได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนชำนาญการ กก.1 บก.ป. เป็นผู้รับแจ้งความ
http://www.thairath.co.th/content/428018
--------------------
เราก้เป็นคนหนึ่งที่สนใจจะไปฝึกงาน จากข่าวไม่ได้บอกชื่อบริษัท แต่ถ้าฟังจากรายการข่าว 3 มิติ
http://www.krobkruakao.com/รายการข่าวย้อนหลัง-ตอน/43/31246/06/2014/ข่าว-3-มิติ-หลอกนักศึกษาไปทำงานสิงคโปร์--เปิดขบวนการนำเข้าข้าวโพดเถื่อน.html
จะรู้ว่า ทางการสิงคโปร์กำหนดให้นักศึกษาฝึกงานต้องมาจาก มธ จฬ และ มอ. เท่านั้น แต่เราไม่ใช่ค่ะ
บริษัทที่มาชักชวนเรามีรายละเอียดเหมือนกับข่าวทุกประการ(เท่าที่จำได้) 1. เงินเดือน 12,000++ 2. งานโรงแรม 5 ดาว 3. เงินโครงการ 40,000 4. ให้ตั๋วไปอย่างเดียว กลับให้เราหาเอง 5.เป็นโครงการ internship ไม่เรียกว่า Work and Travel ค่ะ แต่หลังจากเราส่ง resume ไป (pdf) และได้คุยทางโทรศัพท์คร่าวๆข้างต้น เราก้ว่ามันไม่คุ้มเลยปฏิเสธไป และตอนแรกเราก้สมัครเพราะอยากฝึกงานให้ตรงกับสาขาที่เราเรียนมากกว่า แต่งานที่เค้าเสนอเป็นงานแม่บ้าน แม่ครัว ล้างถ้วยชามในครัวไรพวกนี้ค่ะ เลยไม่เอาดีกว่า (เกือบบบบบไป ฟิ้ววว) ส่วนสาเหตุว่าทำไมเราถึงกล้าที่จะไปในตอนแรก เพราะว่าบริษัทนี้ส่งคนมาพูดในงานเลี้ยงปัจฉิมนิเทศที่จัดโดยมหาวิทยาลัยของเจ้าของกระทู้ คิดดูค่ะ ทั้งอาจารย์ คณะบดี นักศึกษาปีสุดท้ายเกือบพันคน มันดูน่าเชื่อถือมาก! เราไม่มั่นใจ 100% นะคะ ว่าบริษัทที่เรารู้จักนี้เป็นบริษัทเดียวกับในข่าวแต่ถ้านั่นเป็นกฎหมายของสิงคโปร์ว่าอนุญาตินศ.จาก 3 แห่งเท่านั้น... งั้นเราก็....
เพื่อนๆคิดว่าไงคะ?
หลอกนักศึกษาไทยไปฝึกงานที่สิงคโปร์
5 นักศึกษามหาวิทยาลัยดัง รวมตัวร้องมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ หลังถูกบริษัทจัดหางานหลอกไปทำงานในสิงคโปร์ช่วงปิดเทอมใหญ่ แต่กลับปลอมแปลงเอกสารการศึกษา จนถูกกระทรวงแรงงานสิงคโปร์จับ ไล่ออก และส่งกลับไทย สูญเงินคนละหลายหมื่นบาท ขณะที่ยังมีอีกร่วม 50 ชีวิต ถูกกักตัวยึดพาสปอร์ต วอนช่วยด้านคดีและเร่งประสานกระทรวงการต่างประเทศนำตัวกลับไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ว่าที่สำนักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 5 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้แก่ ม.ศิลปากร ม.เนชั่น ม.เชียงใหม่ ม.ราชภัฏจันทรเกษม ม.ศรีนครินทรวิโรฒ เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อร้องเรียนกรณีถูกบริษัทแห่งหนึ่งหลอกลวงไปฝึกงานที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเรียกเก็บเงินค่าโครงการฝึกงานคนละ 25,000-29,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับทำงานได้ไม่ครบกำหนดสามเดือนตามที่ตกลงไว้ และมีบางคนถูกยึดพาสปอร์ตจนไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้
ทั้งนี้ นางสาวชลิดา นนทเปารยะ นศ.จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาได้เปิดหางานจากหน้าเว็บไซต์หนึ่ง และสมัครตามขั้นตอนกำหนด โดยเสียเงินค่าโครงการรอบแรก 5,000 บาท รอบที่สองจ่ายเงินไปอีก 24,000 บาทถ้วน จากนั้นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางไปเอง โดยเดินทางวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าทำงานที่ Royal@Queen Hotel แต่ทำงานได้แค่วันเดียวก็ทราบว่ามี นศ.ฝึกงานที่อื่นถูกจับกุม แต่นายหน้าที่สิงคโปร์บอกให้ทำงานไปก่อน รอให้เขาจัดการเรื่องที่เกิดปัญหาแล้วจะมาประชุมสรุปเรื่องที่ Royal@Queen ซึ่งทำงานต่อได้ 5 วัน จึงขอดูเอกสารตัวเองกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงแรม พบว่าชื่อมหาวิทยาลัยของตัวเองผิดไปจากความจริง จึงขอถ่ายเอกสารดังกล่าวมา และทำงานต่อไปจนครบ 7 วัน นายหน้าที่สิงคโปร์ถึงมาเรียกประชุมทั้งเด็กฝึกงานและสถานประกอบการ ได้ข้อสรุปว่าให้เด็กฝึกงานทุกคนออกจากการทำงานแล้วบินกลับประเทศไทยเลย และบอกว่านี่ไม่ใช่ความผิดของนายหน้าสิงคโปร์และโรงแรม นายหน้าสิงคโปร์บอกว่าจะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินขากลับให้ แต่ค่าเสียหายต้องไปเรียกเอาจากบริษัทที่ประเทศไทย สรุปแล้วอยู่ฝึกงานได้แค่ 7 วัน ได้รับเงินค่าจ้าง 155 ดอลลาร์สิงคโปร์ ตามจำนวนวันที่ทำงาน
เช่นเดียวกับนางสาวชฎารัตน์ เลิศประกายทรัพย์ นศ.จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ที่กล่าวว่ารู้จักกับบริษัทหางานเดียวกันนี้เพราะเข้ามาประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัย จึงค่อนข้างเชื่อมั่นว่าน่าจะไว้ใจได้ และตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฝึกงานที่ประเทศสิงคโปร์กับบริษัทนี้ โดยชำระค่าโครงการเป็นเงิน 25,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องบิน และเดินทางวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มทำงานที่โรงแรม Marriott Singapore ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ได้เกือบ 1 เดือน จึงทราบเรื่อง นศ.ถูกจับกุม เพราะเอกสารด้านการศึกษาผิดจากความจริง เมื่อวันที่ 20 พ.ค. และเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ก็สิ้นสุดจากการทำงานทันที เพราะถูกไล่ออก เนื่องจากเอกสารด้านการศึกษามีปัญหา และเดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักศึกษาที่มาร้องทุกข์ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มี นศ.ถูกกักตัวอยู่ที่กระทรวงแรงงานสิงคโปร์อีกราว 50 คน ไม่สามารถเดินทางกลับได้ จึงอยากให้มูลนิธิปวีณาฯเข้าไปช่วยเหลือด้วย
ด้านนางปวีณากล่าวว่า กรณีนี้กระทรวงแรงงานที่สิงคโปร์กำหนดรับนักศึกษาฝึกงานในประเทศไทย เฉพาะ 3 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.สงขลานครินทร์เท่านั้น แต่นายหน้าไม่ได้บอกความจริงกับนักศึกษา และบริษัทมีการปลอมแปลงเอกสารของนักศึกษาบางราย โดยใช้ชื่อมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ที่สิงคโปร์รับรองให้ฝึกงานได้ เท่าที่ทราบเมื่อนักศึกษากว่า 80 คน ทำสัญญากับบริษัทนายหน้าดังกล่าว และเดินทางไปฝึกงานส่วนใหญ่ที่โรงแรมในสิงคโปร์ แต่เมื่อกระทรวงแรงงานสิงคโปร์มาตรวจสอบ ปรากฏว่าเอกสารการศึกษาไม่ตรงตามข้อกำหนด นักศึกษาไทยจึงถูกนำตัวไปสอบปากคำและถูกกักตัวไว้ที่กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ อีกส่วนหนึ่งบริษัทนายหน้าได้ให้นักศึกษาลาออกจากที่ทำงานและกลับประเทศไทยทันที ซึ่งมูลนิธิจะประสานเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีและเร่งช่วยเหลือนักศึกษาที่ตกค้างอยู่ในประเทศสิงคโปร์อีก 50 ชีวิตต่อไป
จากนั้นนางปวีณาได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก. และรักษาการ ผบก.ป. เพื่อให้รับแจ้งความในคดีดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.ต.นรบุญได้มอบหมาย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. ดำเนินการ ซึ่ง พ.ต.อ.อัคราเดชได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวนชำนาญการ กก.1 บก.ป. เป็นผู้รับแจ้งความ
http://www.thairath.co.th/content/428018
--------------------
เราก้เป็นคนหนึ่งที่สนใจจะไปฝึกงาน จากข่าวไม่ได้บอกชื่อบริษัท แต่ถ้าฟังจากรายการข่าว 3 มิติ
http://www.krobkruakao.com/รายการข่าวย้อนหลัง-ตอน/43/31246/06/2014/ข่าว-3-มิติ-หลอกนักศึกษาไปทำงานสิงคโปร์--เปิดขบวนการนำเข้าข้าวโพดเถื่อน.html
จะรู้ว่า ทางการสิงคโปร์กำหนดให้นักศึกษาฝึกงานต้องมาจาก มธ จฬ และ มอ. เท่านั้น แต่เราไม่ใช่ค่ะ
บริษัทที่มาชักชวนเรามีรายละเอียดเหมือนกับข่าวทุกประการ(เท่าที่จำได้) 1. เงินเดือน 12,000++ 2. งานโรงแรม 5 ดาว 3. เงินโครงการ 40,000 4. ให้ตั๋วไปอย่างเดียว กลับให้เราหาเอง 5.เป็นโครงการ internship ไม่เรียกว่า Work and Travel ค่ะ แต่หลังจากเราส่ง resume ไป (pdf) และได้คุยทางโทรศัพท์คร่าวๆข้างต้น เราก้ว่ามันไม่คุ้มเลยปฏิเสธไป และตอนแรกเราก้สมัครเพราะอยากฝึกงานให้ตรงกับสาขาที่เราเรียนมากกว่า แต่งานที่เค้าเสนอเป็นงานแม่บ้าน แม่ครัว ล้างถ้วยชามในครัวไรพวกนี้ค่ะ เลยไม่เอาดีกว่า (เกือบบบบบไป ฟิ้ววว) ส่วนสาเหตุว่าทำไมเราถึงกล้าที่จะไปในตอนแรก เพราะว่าบริษัทนี้ส่งคนมาพูดในงานเลี้ยงปัจฉิมนิเทศที่จัดโดยมหาวิทยาลัยของเจ้าของกระทู้ คิดดูค่ะ ทั้งอาจารย์ คณะบดี นักศึกษาปีสุดท้ายเกือบพันคน มันดูน่าเชื่อถือมาก! เราไม่มั่นใจ 100% นะคะ ว่าบริษัทที่เรารู้จักนี้เป็นบริษัทเดียวกับในข่าวแต่ถ้านั่นเป็นกฎหมายของสิงคโปร์ว่าอนุญาตินศ.จาก 3 แห่งเท่านั้น... งั้นเราก็....
เพื่อนๆคิดว่าไงคะ?