"ตามที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 4/2557 มีมติให้ช่อง 3 สิ้นสุดหน้าที่การเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป หรือ FREE TV นับแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2557 ส่งผลให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมไม่สามารถเผยแพร่สัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ได้อีกต่อไปนั้น
บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานในการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ช่อง 3 ให้บริการกิจการโทรทัศน์ตามที่ได้รับสิทธิจากสัญญาสัมปทานระหว่างช่อง 3 กับ อสมท. มาเป็นระยะเวลา 44 ปี โดยช่อง 3 มีสิทธิตามกฎหมายในการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ FREE TV ผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบการใช้คลื่นความถี่ ระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียม โดยสิทธิตามสัญญาสัมปทานของช่อง 3 ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุดังกล่าว ช่อง 3 จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า มติของ กสท. ข้างต้น ซึ่งมีผลเป็นการระงับสิทธิของช่อง 3 ในการเผยแพร่รายการผ่านทางระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก เป็นคำสั่งของหน่วยงานราชการที่ขัดกับสิทธิจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการรับสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ผ่านเสาอากาศ ไม่สามารถรับชมข้อมูลข่าวสารทางรายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบเสาอากาศ ระบบเคเบิล หรือระบบทีวี บอกรับสมาชิกได้อีกต่อไป
ช่อง 3 ได้คำนึงถึงความเสียหายในประการนี้เป็นอย่างดี จึงได้ขอรับความคุ้มครองจากศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติของ กสทช. อันเป็นมติที่ขัดแย้งต่อสิทธิของช่อง 3 ที่ได้รับการรับรองสิทธิตามสัญญาสัมปทานและกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงขอให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมยังคงสามารถเผยแพร่รายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบดาวเทียมและเคเบิลได้ต่อไป ซึ่งโดยท้ายที่สุด ผลคำพิพากษาของคดีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสาธารณชนโดยทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ มิได้ฟ้องร้องคดีเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกเลิกประกาศของ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (MUST CARRY) ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกท่านยังคงสามารถให้บริการกิจการโทรทัศน์ได้ตามปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบ หรือความเสียหายแต่อย่างใด
ท้ายนี้ช่อง 3 ขอเรียนว่า ช่อง 3 ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบโทรทัศน์สู่ระบบดิจิตอลเป็นอย่างดี แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อดำเนินการตามพันธกิจที่ได้มอบให้แก่ผู้รับชมรายการโทรทัศน์ทุกท่าน ช่อง 3 จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามสัญญาสัมปทานเพื่อให้ประชาชนทุกท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และให้คุณค่าสูงสุดต่อไป"
หนังสือชี้แจงรายละเอียดการดำเนินคดีปกครองในกรณีการระงับการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 (must carry)
"ตามที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 4/2557 มีมติให้ช่อง 3 สิ้นสุดหน้าที่การเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป หรือ FREE TV นับแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2557 ส่งผลให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมไม่สามารถเผยแพร่สัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ได้อีกต่อไปนั้น
บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานในการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ช่อง 3 ให้บริการกิจการโทรทัศน์ตามที่ได้รับสิทธิจากสัญญาสัมปทานระหว่างช่อง 3 กับ อสมท. มาเป็นระยะเวลา 44 ปี โดยช่อง 3 มีสิทธิตามกฎหมายในการเผยแพร่รายการโทรทัศน์ FREE TV ผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบการใช้คลื่นความถี่ ระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียม โดยสิทธิตามสัญญาสัมปทานของช่อง 3 ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ด้วยเหตุดังกล่าว ช่อง 3 จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า มติของ กสท. ข้างต้น ซึ่งมีผลเป็นการระงับสิทธิของช่อง 3 ในการเผยแพร่รายการผ่านทางระบบเคเบิล หรือระบบดาวเทียมแบบบอกรับสมาชิก เป็นคำสั่งของหน่วยงานราชการที่ขัดกับสิทธิจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาในการรับสัญญาณโทรทัศน์ช่อง 3 ผ่านเสาอากาศ ไม่สามารถรับชมข้อมูลข่าวสารทางรายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบเสาอากาศ ระบบเคเบิล หรือระบบทีวี บอกรับสมาชิกได้อีกต่อไป
ช่อง 3 ได้คำนึงถึงความเสียหายในประการนี้เป็นอย่างดี จึงได้ขอรับความคุ้มครองจากศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติของ กสทช. อันเป็นมติที่ขัดแย้งต่อสิทธิของช่อง 3 ที่ได้รับการรับรองสิทธิตามสัญญาสัมปทานและกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงขอให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวี หรือทีวีดาวเทียมยังคงสามารถเผยแพร่รายการโทรทัศน์ของช่อง 3 ผ่านทางระบบดาวเทียมและเคเบิลได้ต่อไป ซึ่งโดยท้ายที่สุด ผลคำพิพากษาของคดีดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสาธารณชนโดยทั่วไป ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ มิได้ฟ้องร้องคดีเพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งยกเลิกประกาศของ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (MUST CARRY) ดังนั้น ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ทุกท่านยังคงสามารถให้บริการกิจการโทรทัศน์ได้ตามปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบ หรือความเสียหายแต่อย่างใด
ท้ายนี้ช่อง 3 ขอเรียนว่า ช่อง 3 ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบบโทรทัศน์สู่ระบบดิจิตอลเป็นอย่างดี แต่เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อดำเนินการตามพันธกิจที่ได้มอบให้แก่ผู้รับชมรายการโทรทัศน์ทุกท่าน ช่อง 3 จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามสัญญาสัมปทานเพื่อให้ประชาชนทุกท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และให้คุณค่าสูงสุดต่อไป"