[๒๑๖] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
วิตก ๒ ประการ คือ
เขมวิตก ๑ วิเวกวิตก ๑
ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นไปเนืองๆ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระตถาคต
มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
.....วิตกนี้นั่นแลของพระตถาคตนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่าเราจะไม่เบียดเบียนสัตว์อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคงให้ลำบากด้วยการกระทำนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระตถาคตผู้
มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด
.....วิตกนี้นั่นแลของพระตถาคตนี้ ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่า อกุศลเราละได้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะเหตุนั้นแล แม้เธอทั้งหลายก็จงเป็นผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียนอยู่เถิด
....วิตกนี้นั่นแลของเธอทั้งหลายนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
จักเป็นไปเนืองๆ ว่า เราทั้งหลายจะไม่เบียดเบียนสัตว์ อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคงให้ลำบากด้วยการกระทำนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัดอยู่เถิด
....วิตกนี้นั่นแลของเธอทั้งหลายนั้น ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด
จักเป็นไปเนืองๆ ว่า อะไรชื่อว่าอกุศล อกุศลอะไรๆ ที่เราทั้งหลายยังละไม่ได้แล้ว เราทั้งหลายจะละอกุศลอะไร ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
วิตก ๒ ประการ
ของพระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้าผู้ครอบงำมารอันผู้อื่นไม่พึงครอบงำได้ ย่อมเป็นไปเนืองๆ
พระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้านั้นได้แสดงเขมวิตกข้อที่ ๑ ลำดับนั้นได้ประกาศวิเวกวิตกข้อที่ ๒
เรากล่าวมุนีผู้บรรเทาความมืด ผู้ถึงฝั่ง ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง ผู้ถึงคุณอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพึงถึง
ผู้มีความชำนาญ ผู้ไม่มีอาสวะ ผู้ข้ามวัฏทุกข์อันเป็นยาพิษ ผู้น้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา
ผู้ทรงไว้ซึ่งร่างกายอันมีในที่สุดนั้นแลว่า ผู้ละมารผู้ถึงฝั่งแห่งชรา พระผู้มีพระภาคผู้มีปัญญาดี มีพระจักษุรอบคอบ
ผู้ปราศจากความโศก ขึ้นสู่ปราสาทอันสำเร็จด้วย (ปัญญา) ธรรม ย่อมพิจารณาเห็นหมู่ชนผู้ยังข้ามความโศกไม่ได้
ผู้ถูกชาติและชราครอบงำ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนยอดภูเขาหิน พึงเห็นหมู่ชนได้โดยรอบฉะนั้น ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑
-----------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๑๐๔ - ๕๑๔๑. หน้าที่ ๒๒๕ - ๒๒๖.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=5104&Z=5141&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=216
วิตก ๒ ประการของพระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้า
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
วิตก ๒ ประการ คือ เขมวิตก ๑ วิเวกวิตก ๑
ของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมเป็นไปเนืองๆ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระตถาคตมีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
.....วิตกนี้นั่นแลของพระตถาคตนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่าเราจะไม่เบียดเบียนสัตว์อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคงให้ลำบากด้วยการกระทำนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
พระตถาคตผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด
.....วิตกนี้นั่นแลของพระตถาคตนี้ ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด ย่อมเป็นไปเนืองๆ ว่า อกุศลเราละได้แล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เพราะเหตุนั้นแล แม้เธอทั้งหลายก็จงเป็นผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียนอยู่เถิด
....วิตกนี้นั่นแลของเธอทั้งหลายนั้น ผู้มีความไม่เบียดเบียนเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน
จักเป็นไปเนืองๆ ว่า เราทั้งหลายจะไม่เบียดเบียนสัตว์ อะไรๆ ผู้สะดุ้งหรือผู้มั่นคงให้ลำบากด้วยการกระทำนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัดอยู่เถิด
....วิตกนี้นั่นแลของเธอทั้งหลายนั้น ผู้มีความสงัดเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความสงัด
จักเป็นไปเนืองๆ ว่า อะไรชื่อว่าอกุศล อกุศลอะไรๆ ที่เราทั้งหลายยังละไม่ได้แล้ว เราทั้งหลายจะละอกุศลอะไร ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
วิตก ๒ ประการ
ของพระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้าผู้ครอบงำมารอันผู้อื่นไม่พึงครอบงำได้ ย่อมเป็นไปเนืองๆ
พระตถาคตผู้เป็นพระพุทธเจ้านั้นได้แสดงเขมวิตกข้อที่ ๑ ลำดับนั้นได้ประกาศวิเวกวิตกข้อที่ ๒
เรากล่าวมุนีผู้บรรเทาความมืด ผู้ถึงฝั่ง ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง ผู้ถึงคุณอันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพึงถึง
ผู้มีความชำนาญ ผู้ไม่มีอาสวะ ผู้ข้ามวัฏทุกข์อันเป็นยาพิษ ผู้น้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา
ผู้ทรงไว้ซึ่งร่างกายอันมีในที่สุดนั้นแลว่า ผู้ละมารผู้ถึงฝั่งแห่งชรา พระผู้มีพระภาคผู้มีปัญญาดี มีพระจักษุรอบคอบ
ผู้ปราศจากความโศก ขึ้นสู่ปราสาทอันสำเร็จด้วย (ปัญญา) ธรรม ย่อมพิจารณาเห็นหมู่ชนผู้ยังข้ามความโศกไม่ได้
ผู้ถูกชาติและชราครอบงำ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่บนยอดภูเขาหิน พึงเห็นหมู่ชนได้โดยรอบฉะนั้น ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
-----------------
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๑๐๔ - ๕๑๔๑. หน้าที่ ๒๒๕ - ๒๒๖.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=5104&Z=5141&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=216