สวัสดีค่ะ ไม่ได้ตั้งกระทู้มานานมากกกก อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ไปวิ่งงาน “8th Hatyai International Marathon 2014” เมื่อ25พค.ที่ผ่านมา มาราธอนแรกในชีวิต
งานนี้เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจลงระยะฟูลมาราธอน (42.195กม.) ก่อนหน้านี้ก็ลงมินิบ้าง ฮาฟบ้าง หลังจากลงงานวิ่งมาได้ปีกว่า (ลงงานวิ่งครั้งแรก เป็นระยะมินิ...ในงานวันจักรี 56) ตัดสินใจจะลงก็เดือนมีนา...มีเวลาซ้อมอยู่เกือบ3เดือน แรกๆวิ่งแค่18โล ก็แทบแย่ ขาล้าไปหมด ยกไม่ค่อยขึ้น หลังจากนั้นก็ขยับมา 21โล, 25โล ... จนถึง 35โล (ก่อนถึงวันแข่ง ซ้อม30โลไปได้2รอบ และ 35โล แค่รอบเดียวสองอาทิตย์สุดท้ายก่อนถึงวันงาน)
ก่อนวันงานไม่กี่วัน ก็เพิ่งทราบว่า งานนี้ไม่ใช้ชิพจับเวลา (Champion chip) ในทุกระยะการแข่งขัน สอบถามจากผู้จัดงานโดยตรงก็ได้รับคำตอบว่า ปีที่แล้วเกิดปัญหา เพราะผลของชิพจับเวลาออกล่าช้า ทำให้เกิดปัญหาในการส่งผลการตัดสินล่าช้าไปด้วย (ปีที่แล้ว อาศัยการตัดสินจากชิพจับเวลาล้วนๆ ไม่มีการแจกป้ายอันดับ ซึ่งสนามอื่นๆ เค้าก็ใช้ทั้งชิพจับเวลา และ การแจกป้ายอันดับกันนะ)...เลยต้องรอผลชิพก่อน ถึงจะประกาศอันดับการแข่งขันได้ ปีนี้ตัดปัญหาโดยการยกเลิกการใช้ชิพจับเวลาในทุกระยะการแข่งขัน ก็โอเคค่ะ ไม่มีชิพก็ไม่มี ยังไงก็ซ้อมมาแล้ว สมัครไปแล้ว จองตั๋ว-โรงแรมไปแล้ว ยอมรับการตัดสินใจของทีมผู้จัด แต่ก็แอบเสียดายนิดนึงว่า มาราธอนแรกของเรา...จะไม่มีผลปรากฏในChampion chip Thailand จะนำผลไปใช้ qualify ในสนามอื่นๆที่ต้องการใช้ผล ก็ไม่ได้เลย
และแล้วก็ถึงวัน....วันที่รอคอยหลังจากมุ่งมั่นซ้อมมาหลายเดือน ตื่นตี3กว่าตี4 เพื่อออกไปซ้อมวิ่งแต่เช้า ตั้งแต่สวนเริ่มเปิดยันแดดออก วันนี้แล้วสินะที่จะต้องวิ่งระยะ 42.195โล (อีก7โล ที่ยังไม่เคยวิ่งถึงมาก่อนเลยในชีวิต) ตื่นเต้นค่ะ แล้วก็ลุ้นด้วยว่า ระยะ7โลที่เหลือนั้น สภาพจะเป็นยังไง ปล่อยตัวตี3ครึ่ง คนที่ลงระยะฟูลก็เริ่มมารอที่จุดปล่อยตัวตั้งแต่ตี3.20 คนวิ่งระยะนี้เป็นผู้ชายซะส่วนมาก ผู้หญิงไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เสียงแตรปล่อยตัวดังขึ้น...ก็เริ่มวิ่งด้วยเพซที่ช้ากว่าตอนซ้อมมาก (เพซ7) เนื่องจากกลัวว่าแรงจะหมดซะก่อน อากาศวิ่งต่างจังหวัดนี่ สดชื่นแบบนี้นี่เอง วิ่งในเมืองสิบโลกว่าๆ ก็ออกถนนใหญ่ ตามทางยังมืดสนิท ... เวลาที่หลายคนคงหลับสนิทอยู่บนเตียงนุ่มๆ... แต่ก็มีคนจำนวนนึงที่ยอมแลก เพียงเพื่อจะวิ่งในระยะที่ว่ากันว่า เกินขีดจำกัดของคน บางจุดไม่มีไฟถนน (หลายโลอยู่เหมือนกัน) ผู้จัดก็แก้ปัญหาโดยการตั้งเทียนตามทางวิ่ง โรแมนติกมากค่ะ...แต่อารมณ์ตอนนั้น คิดแค่ว่า...ตอนนี้เหลืออีกกี่โลแล้ว วิ่งไปได้ประมาณ18โล ก็เริ่มเจอแนวหน้าสวนกลับมาแล้ว ...พระเจ้า...นี่วิ่งมาราธอนกันหรอเนี่ย สับกันซะยังกับวิ่งแค่ร้อยเมตร แนวหน้าที่เห็นส่วนมากเป็นต่างชาติค่ะ ดำกันมาเลย (คาดว่าคงเป็นเคนย่าแน่ๆ) ผ่านไปเกือบสิบคนกว่าจะเจอคนไทยสวนมาซะที ตบมือ ส่งสัญญาณให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และวิ่งต่อ วิ่งๆไปก็นับคนด้วยค่ะ ว่ารุ่นอายุเรามีสวนไปกี่คนแล้ว จะติดถ้วยกะเค้ามั้ย....ถึงจุดกลับตัว มีคนนำอยู่ 8คน (เฉพาะ ญ รุ่น30-39)
ผ่านไปเกินครึ่งทาง แต่แรงกลับเหลือเกินครึ่ง เลยเริ่มวิ่งด้วยเพซที่เร็วขึ้น เหนื่อยค่ะ เหงื่อเยอะมาก ไม่เคยเหงื่อออกเยอะขนาดนี้มาก่อน (แบบว่า กางเกงบิดแล้วน้ำออกมาชุ่มเลย) แม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังส่งยิ้ม ทักทาย ให้กำลังใจกับคนที่วิ่งสวนมาเป็นระยะ แซงขึ้นมาเรื่อยๆ จนรู้ว่าตอนนี้ติดถ้วยแล้วแน่ๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าลำดับที่เท่าไหร่ (งานนี้แจกถ้วย7ถ้วย ในทุกรุ่นอายุของผู้หญิง)
ผ่านโลที่35 ไปแล้ว ...ระยะวัดใจแล้ว อีก7โลกว่าๆที่เหลือ ขาตึงมากค่ะ หนัก มีหยุดเดินบ้างตามจุดให้น้ำ (แรกๆไม่ได้หยุดเลย รับน้ำแบบวิ่งตลอด) แรงเหลือเยอะ...แต่ขามันล้า ก็พยายามวิ่งจ็อก หยุดยืดบ้างเล็กน้อย พอเหลืออีก2โลสุดท้าย (ตอนนั้นวิ่งไปแล้ว 40.5โล) เนื่องจากแรงเหลือเยอะ เลยวิ่งกดไปเพซ6เลย วิ่งแซงมาเรื่อยๆ จนเข้าเส้นชัย และตามคาด....ติดถ้วยจริงๆ ได้รับป้ายอันดับ 5 มาค่ะ จบด้วยเวลา 4.50.16ชม. (งานนี้ไม่มีชิพจับเวลา แต่เราใช้ไนกี้แอพ เลยรู้ว่าเข้ามาเวลาเท่าไหร่)
งานนี้มีแจกใบประกาศหลังจากเข้าเส้นชัยเลย มีโต๊ะนั่งเขียน นั่งพริ้นท์รูปกันอยู่ตรงนั้นเลย ยืดเหยียดนิดหน่อยและเดินหาของกิน...ขาไม่ล้าเท่าที่คิด ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย แค่ตึง...เหมือนผ่านการวิ่งยาวมา ...แค่นั้น... แต่แรงยังเหลือเพียบ กะแรงไม่ถูกกับมาราธอนครั้งแรก ตอนนี้เริ่มสนุกกับมาราธอนแล้ว ...สนามต่อไปวิ่งที่ไหนดีน้า... ชอบระยะนี้เข้าซะแล้วซิ แต่ขี้เกียจตรงที่ต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาซ้อมยาวเนี่ยแหละ
และแล้ว....ก็ถึงเวลาที่จะขึ้นรับถ้วย.... ปัญหาเกิดตรงที่ คนที่ได้อันดับป้ายที่7ในกลุ่มรุ่นอายุของเรา ดันได้รับป้ายอันดับover allที่13มาด้วย ทั้งๆที่อันดับป้ายที่2-6ในกลุ่มรุ่นอายุ ไม่มีใครได้รับป้ายอันดับover all เลย ดีที่คนที่ได้ป้ายอันดับที่2ยอมรับว่า คนที่ได้ป้ายอันดับ7 เข้ามาก่อน เลยมีการแลกป้ายอันดับกัน (คนที่ได้ป้ายอันดับ7 จริงๆควรได้ป้ายอันดับ2...งงกันมั้ยอ่า) คิดว่ามีการยื่นป้ายอันดับให้ผิดตอนที่เข้าเส้นชัย แทนที่จะให้เบอร์2 ดันยื่นเบอร์7 ให้แทน แต่ก็ตกลงกันได้ในกลุ่ม ทำให้ลำดับเลื่อนกัน....สรุปเราเลยได้ลำดับที่6 ได้ป้ายที่6กลับบ้านมาแทน
ตอนที่เรียกขึ้นเวที....เกิดปัญหาอีกแล้วค่ะ ได้รับแจ้งว่า หาถ้วยรุ่น ญ 30-39ปีไม่เจอ หากันอยู่พักใหญ่...ตอนนั้นนักวิ่งที่จะรับถ้วยทั้งหมดก็อยู่กันบนเวที งงๆกันว่าเกิดอะไรขึ้น และก็มีคนมาบอกว่า ถ้วยรุ่นนี้ไม่มี เนื่องจากส่งมาให้ไม่ครบ (แอบสงสัยว่า คนรับถ้วย ไม่ตรวจเช็คถ้วยกันเลยหรอ ถึงปล่อยให้ไม่มีถ้วยรุ่นนี้ได้ ทั้งๆที่คนวิ่งรุ่นนี้เยอะกว่ารุ่นอื่นๆอีก และคนจัดถ้วยบนเวทีไม่ได้เช็คอีกรอบหรอ ถึงไม่รู้ว่าถ้วยมีไม่ครบทุกรุ่น) แต่ก็ไม่เป็นไร....เขียนที่อยู่ทิ้งไว้ รอให้ส่งถ้วยมาให้ที่บ้าน คิดแง่ดี...ก็ดีที่ไม่ต้องหอบขึ้นเครื่องมาเอง แต่ก็เสียดายว่าแทนที่จะได้ถือถ้วยถ่ายเอาบรรยากาศในงาน บนเวทีก็เป็นแค่การรับถ้วยหลอกๆ เอาของรุ่นอื่นมาให้รับ รับแล้วก็โดนยึดคืน
หลังจากกลับมาถึงกทม. ก็ส่งเมลติดต่อกลับ ส่งถึงคนที่เคยติดต่อตอนที่สมัคร (ตอนสมัครโอนเงินผ่านธนาคาร แล้วก็ส่งเมลไปหาเพื่อยืนยันการสมัคร) โดยหัวข้อของเมลก็ย้ำนะคะ ว่าถ้วยรุ่น30-39ปี และวันอังคารก็ได้รับเมลตอบกลับมาว่า คนที่รับผิดชอบได้ส่งถ้วยกลับมาให้แล้ว.....ก็รอจนถึงเย็นวันพฤหัส...ก็ได้ถ้วยค่ะ
....แต่ (อีกรอบ) ผิดรุ่นอายุ!!! กลายเป็นได้ถ้วยของรุ่น 50-59 (ไม่ใช่น้า....เราเพิ่ง30+แค่นั้นเอง) อึ้งเลยค่ะ งงกับคนส่งถ้วย ก็รู้อยู่ว่าต้องส่งถ้วยรุ่นไหนมาให้ ทั้งๆที่ผิดรุ่นก็ยังส่งมาให้??? พยายามติดต่อกลับ ทั้งโทร และ ส่งเมลกลับไปถาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมาจากทางผู้จัดเลยค่ะ ว่าจะแก้ปัญหากับถ้วยที่ส่งมาให้ผิดรุ่นนี้ยังไง
ถ้วยรางวัล...ถือเป็นรางวัลสำหรับนักวิ่ง เป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับความพากเพียรในการซ้อม ในการวิ่งในสนามจริง ระยะ42.195km เวลาเกือบ5ชม.ที่วิ่งตลอด ผลที่ได้คือถ้วยรางวัลที่ไม่ใช่รุ่นที่วิ่งจริง?!?!
อยากบ่นดังๆถึงผู้จัดงานหน่อยนะคะ
- ใช้ชื่อจัดงานว่า International แต่ไม่ใช้ชิพจับเวลา ไม่เคยเห็นงานอินเตอร์ที่ไหนเป็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ จะอ้างว่าเกิดปัญหาปีที่แล้ว เลยไม่ใช้ชิพในรายการนี้....ปีนี้ไม่ใช้ชิพแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาที่ไม่น่าเกิด ตั้งแต่การแจกป้ายอันดับ (งงค่ะ ว่าผิดได้ยังไง กะแค่การแจกเบอร์ให้คนที่เข้าลำดับ1-7) จะใช้คำว่าอินเตอร์เพราะมีต่างชาติมาวิ่งกันเยอะ การจัดการดำเนินงานควรจะอินเตอร์ตามชื่อด้วยนะคะ
- ถ้วยที่ควรจะมีอยู่บนเวทีตั้งแต่แรก (ไม่ได้ตรวจเช็คกันเลยหรอคะ ว่าถ้วยรุ่นอายุนี้ไม่มีอยู่บนเวที)
- ก่อนที่จะส่งถ้วยทางไปรษณีย์มาให้ ผู้ส่งก็น่าจะรู้นี่คะ ว่าต้องส่งถ้วยของรุ่นอายุ30-39มาให้ ทำไมยังเกิดการส่งถ้วยที่ไม่ตรงรุ่นอายุมาให้หล่ะคะ
ปล. อยากจะติเพื่อก่อนะคะ ให้นำไปปรับปรุงในการจัดงานปีหน้า และอยากให้นำเอาชิพจับเวลามาใช้ในการแข่งขันปีหน้าด้วยค่ะ
ปล2. พยายามติดต่อกลับไปทางผู้จัดแล้วตั้งแต่วันพฤหัสหลังจากที่ได้ถ้วย โทรไปตามเบอร์ที่อยู่บนกล่องจม.(ปิดเครื่อง) และ ส่งเมลไป ผ่านมา2วัน ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆกลับมาเลยค่ะ
HATYAI Marathon (42.195KM) ประสบการณ์มาราธอนแรกกับความไม่ประทับใจที่ได้รับ
งานนี้เป็นครั้งแรกที่ตัดสินใจลงระยะฟูลมาราธอน (42.195กม.) ก่อนหน้านี้ก็ลงมินิบ้าง ฮาฟบ้าง หลังจากลงงานวิ่งมาได้ปีกว่า (ลงงานวิ่งครั้งแรก เป็นระยะมินิ...ในงานวันจักรี 56) ตัดสินใจจะลงก็เดือนมีนา...มีเวลาซ้อมอยู่เกือบ3เดือน แรกๆวิ่งแค่18โล ก็แทบแย่ ขาล้าไปหมด ยกไม่ค่อยขึ้น หลังจากนั้นก็ขยับมา 21โล, 25โล ... จนถึง 35โล (ก่อนถึงวันแข่ง ซ้อม30โลไปได้2รอบ และ 35โล แค่รอบเดียวสองอาทิตย์สุดท้ายก่อนถึงวันงาน)
ก่อนวันงานไม่กี่วัน ก็เพิ่งทราบว่า งานนี้ไม่ใช้ชิพจับเวลา (Champion chip) ในทุกระยะการแข่งขัน สอบถามจากผู้จัดงานโดยตรงก็ได้รับคำตอบว่า ปีที่แล้วเกิดปัญหา เพราะผลของชิพจับเวลาออกล่าช้า ทำให้เกิดปัญหาในการส่งผลการตัดสินล่าช้าไปด้วย (ปีที่แล้ว อาศัยการตัดสินจากชิพจับเวลาล้วนๆ ไม่มีการแจกป้ายอันดับ ซึ่งสนามอื่นๆ เค้าก็ใช้ทั้งชิพจับเวลา และ การแจกป้ายอันดับกันนะ)...เลยต้องรอผลชิพก่อน ถึงจะประกาศอันดับการแข่งขันได้ ปีนี้ตัดปัญหาโดยการยกเลิกการใช้ชิพจับเวลาในทุกระยะการแข่งขัน ก็โอเคค่ะ ไม่มีชิพก็ไม่มี ยังไงก็ซ้อมมาแล้ว สมัครไปแล้ว จองตั๋ว-โรงแรมไปแล้ว ยอมรับการตัดสินใจของทีมผู้จัด แต่ก็แอบเสียดายนิดนึงว่า มาราธอนแรกของเรา...จะไม่มีผลปรากฏในChampion chip Thailand จะนำผลไปใช้ qualify ในสนามอื่นๆที่ต้องการใช้ผล ก็ไม่ได้เลย
และแล้วก็ถึงวัน....วันที่รอคอยหลังจากมุ่งมั่นซ้อมมาหลายเดือน ตื่นตี3กว่าตี4 เพื่อออกไปซ้อมวิ่งแต่เช้า ตั้งแต่สวนเริ่มเปิดยันแดดออก วันนี้แล้วสินะที่จะต้องวิ่งระยะ 42.195โล (อีก7โล ที่ยังไม่เคยวิ่งถึงมาก่อนเลยในชีวิต) ตื่นเต้นค่ะ แล้วก็ลุ้นด้วยว่า ระยะ7โลที่เหลือนั้น สภาพจะเป็นยังไง ปล่อยตัวตี3ครึ่ง คนที่ลงระยะฟูลก็เริ่มมารอที่จุดปล่อยตัวตั้งแต่ตี3.20 คนวิ่งระยะนี้เป็นผู้ชายซะส่วนมาก ผู้หญิงไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เสียงแตรปล่อยตัวดังขึ้น...ก็เริ่มวิ่งด้วยเพซที่ช้ากว่าตอนซ้อมมาก (เพซ7) เนื่องจากกลัวว่าแรงจะหมดซะก่อน อากาศวิ่งต่างจังหวัดนี่ สดชื่นแบบนี้นี่เอง วิ่งในเมืองสิบโลกว่าๆ ก็ออกถนนใหญ่ ตามทางยังมืดสนิท ... เวลาที่หลายคนคงหลับสนิทอยู่บนเตียงนุ่มๆ... แต่ก็มีคนจำนวนนึงที่ยอมแลก เพียงเพื่อจะวิ่งในระยะที่ว่ากันว่า เกินขีดจำกัดของคน บางจุดไม่มีไฟถนน (หลายโลอยู่เหมือนกัน) ผู้จัดก็แก้ปัญหาโดยการตั้งเทียนตามทางวิ่ง โรแมนติกมากค่ะ...แต่อารมณ์ตอนนั้น คิดแค่ว่า...ตอนนี้เหลืออีกกี่โลแล้ว วิ่งไปได้ประมาณ18โล ก็เริ่มเจอแนวหน้าสวนกลับมาแล้ว ...พระเจ้า...นี่วิ่งมาราธอนกันหรอเนี่ย สับกันซะยังกับวิ่งแค่ร้อยเมตร แนวหน้าที่เห็นส่วนมากเป็นต่างชาติค่ะ ดำกันมาเลย (คาดว่าคงเป็นเคนย่าแน่ๆ) ผ่านไปเกือบสิบคนกว่าจะเจอคนไทยสวนมาซะที ตบมือ ส่งสัญญาณให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และวิ่งต่อ วิ่งๆไปก็นับคนด้วยค่ะ ว่ารุ่นอายุเรามีสวนไปกี่คนแล้ว จะติดถ้วยกะเค้ามั้ย....ถึงจุดกลับตัว มีคนนำอยู่ 8คน (เฉพาะ ญ รุ่น30-39)
ผ่านไปเกินครึ่งทาง แต่แรงกลับเหลือเกินครึ่ง เลยเริ่มวิ่งด้วยเพซที่เร็วขึ้น เหนื่อยค่ะ เหงื่อเยอะมาก ไม่เคยเหงื่อออกเยอะขนาดนี้มาก่อน (แบบว่า กางเกงบิดแล้วน้ำออกมาชุ่มเลย) แม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังส่งยิ้ม ทักทาย ให้กำลังใจกับคนที่วิ่งสวนมาเป็นระยะ แซงขึ้นมาเรื่อยๆ จนรู้ว่าตอนนี้ติดถ้วยแล้วแน่ๆ แต่ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าลำดับที่เท่าไหร่ (งานนี้แจกถ้วย7ถ้วย ในทุกรุ่นอายุของผู้หญิง)
ผ่านโลที่35 ไปแล้ว ...ระยะวัดใจแล้ว อีก7โลกว่าๆที่เหลือ ขาตึงมากค่ะ หนัก มีหยุดเดินบ้างตามจุดให้น้ำ (แรกๆไม่ได้หยุดเลย รับน้ำแบบวิ่งตลอด) แรงเหลือเยอะ...แต่ขามันล้า ก็พยายามวิ่งจ็อก หยุดยืดบ้างเล็กน้อย พอเหลืออีก2โลสุดท้าย (ตอนนั้นวิ่งไปแล้ว 40.5โล) เนื่องจากแรงเหลือเยอะ เลยวิ่งกดไปเพซ6เลย วิ่งแซงมาเรื่อยๆ จนเข้าเส้นชัย และตามคาด....ติดถ้วยจริงๆ ได้รับป้ายอันดับ 5 มาค่ะ จบด้วยเวลา 4.50.16ชม. (งานนี้ไม่มีชิพจับเวลา แต่เราใช้ไนกี้แอพ เลยรู้ว่าเข้ามาเวลาเท่าไหร่)
งานนี้มีแจกใบประกาศหลังจากเข้าเส้นชัยเลย มีโต๊ะนั่งเขียน นั่งพริ้นท์รูปกันอยู่ตรงนั้นเลย ยืดเหยียดนิดหน่อยและเดินหาของกิน...ขาไม่ล้าเท่าที่คิด ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลย แค่ตึง...เหมือนผ่านการวิ่งยาวมา ...แค่นั้น... แต่แรงยังเหลือเพียบ กะแรงไม่ถูกกับมาราธอนครั้งแรก ตอนนี้เริ่มสนุกกับมาราธอนแล้ว ...สนามต่อไปวิ่งที่ไหนดีน้า... ชอบระยะนี้เข้าซะแล้วซิ แต่ขี้เกียจตรงที่ต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาซ้อมยาวเนี่ยแหละ
และแล้ว....ก็ถึงเวลาที่จะขึ้นรับถ้วย.... ปัญหาเกิดตรงที่ คนที่ได้อันดับป้ายที่7ในกลุ่มรุ่นอายุของเรา ดันได้รับป้ายอันดับover allที่13มาด้วย ทั้งๆที่อันดับป้ายที่2-6ในกลุ่มรุ่นอายุ ไม่มีใครได้รับป้ายอันดับover all เลย ดีที่คนที่ได้ป้ายอันดับที่2ยอมรับว่า คนที่ได้ป้ายอันดับ7 เข้ามาก่อน เลยมีการแลกป้ายอันดับกัน (คนที่ได้ป้ายอันดับ7 จริงๆควรได้ป้ายอันดับ2...งงกันมั้ยอ่า) คิดว่ามีการยื่นป้ายอันดับให้ผิดตอนที่เข้าเส้นชัย แทนที่จะให้เบอร์2 ดันยื่นเบอร์7 ให้แทน แต่ก็ตกลงกันได้ในกลุ่ม ทำให้ลำดับเลื่อนกัน....สรุปเราเลยได้ลำดับที่6 ได้ป้ายที่6กลับบ้านมาแทน
ตอนที่เรียกขึ้นเวที....เกิดปัญหาอีกแล้วค่ะ ได้รับแจ้งว่า หาถ้วยรุ่น ญ 30-39ปีไม่เจอ หากันอยู่พักใหญ่...ตอนนั้นนักวิ่งที่จะรับถ้วยทั้งหมดก็อยู่กันบนเวที งงๆกันว่าเกิดอะไรขึ้น และก็มีคนมาบอกว่า ถ้วยรุ่นนี้ไม่มี เนื่องจากส่งมาให้ไม่ครบ (แอบสงสัยว่า คนรับถ้วย ไม่ตรวจเช็คถ้วยกันเลยหรอ ถึงปล่อยให้ไม่มีถ้วยรุ่นนี้ได้ ทั้งๆที่คนวิ่งรุ่นนี้เยอะกว่ารุ่นอื่นๆอีก และคนจัดถ้วยบนเวทีไม่ได้เช็คอีกรอบหรอ ถึงไม่รู้ว่าถ้วยมีไม่ครบทุกรุ่น) แต่ก็ไม่เป็นไร....เขียนที่อยู่ทิ้งไว้ รอให้ส่งถ้วยมาให้ที่บ้าน คิดแง่ดี...ก็ดีที่ไม่ต้องหอบขึ้นเครื่องมาเอง แต่ก็เสียดายว่าแทนที่จะได้ถือถ้วยถ่ายเอาบรรยากาศในงาน บนเวทีก็เป็นแค่การรับถ้วยหลอกๆ เอาของรุ่นอื่นมาให้รับ รับแล้วก็โดนยึดคืน
หลังจากกลับมาถึงกทม. ก็ส่งเมลติดต่อกลับ ส่งถึงคนที่เคยติดต่อตอนที่สมัคร (ตอนสมัครโอนเงินผ่านธนาคาร แล้วก็ส่งเมลไปหาเพื่อยืนยันการสมัคร) โดยหัวข้อของเมลก็ย้ำนะคะ ว่าถ้วยรุ่น30-39ปี และวันอังคารก็ได้รับเมลตอบกลับมาว่า คนที่รับผิดชอบได้ส่งถ้วยกลับมาให้แล้ว.....ก็รอจนถึงเย็นวันพฤหัส...ก็ได้ถ้วยค่ะ
....แต่ (อีกรอบ) ผิดรุ่นอายุ!!! กลายเป็นได้ถ้วยของรุ่น 50-59 (ไม่ใช่น้า....เราเพิ่ง30+แค่นั้นเอง) อึ้งเลยค่ะ งงกับคนส่งถ้วย ก็รู้อยู่ว่าต้องส่งถ้วยรุ่นไหนมาให้ ทั้งๆที่ผิดรุ่นก็ยังส่งมาให้??? พยายามติดต่อกลับ ทั้งโทร และ ส่งเมลกลับไปถาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมาจากทางผู้จัดเลยค่ะ ว่าจะแก้ปัญหากับถ้วยที่ส่งมาให้ผิดรุ่นนี้ยังไง
ถ้วยรางวัล...ถือเป็นรางวัลสำหรับนักวิ่ง เป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับความพากเพียรในการซ้อม ในการวิ่งในสนามจริง ระยะ42.195km เวลาเกือบ5ชม.ที่วิ่งตลอด ผลที่ได้คือถ้วยรางวัลที่ไม่ใช่รุ่นที่วิ่งจริง?!?!
อยากบ่นดังๆถึงผู้จัดงานหน่อยนะคะ
- ใช้ชื่อจัดงานว่า International แต่ไม่ใช้ชิพจับเวลา ไม่เคยเห็นงานอินเตอร์ที่ไหนเป็นแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ จะอ้างว่าเกิดปัญหาปีที่แล้ว เลยไม่ใช้ชิพในรายการนี้....ปีนี้ไม่ใช้ชิพแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาที่ไม่น่าเกิด ตั้งแต่การแจกป้ายอันดับ (งงค่ะ ว่าผิดได้ยังไง กะแค่การแจกเบอร์ให้คนที่เข้าลำดับ1-7) จะใช้คำว่าอินเตอร์เพราะมีต่างชาติมาวิ่งกันเยอะ การจัดการดำเนินงานควรจะอินเตอร์ตามชื่อด้วยนะคะ
- ถ้วยที่ควรจะมีอยู่บนเวทีตั้งแต่แรก (ไม่ได้ตรวจเช็คกันเลยหรอคะ ว่าถ้วยรุ่นอายุนี้ไม่มีอยู่บนเวที)
- ก่อนที่จะส่งถ้วยทางไปรษณีย์มาให้ ผู้ส่งก็น่าจะรู้นี่คะ ว่าต้องส่งถ้วยของรุ่นอายุ30-39มาให้ ทำไมยังเกิดการส่งถ้วยที่ไม่ตรงรุ่นอายุมาให้หล่ะคะ
ปล. อยากจะติเพื่อก่อนะคะ ให้นำไปปรับปรุงในการจัดงานปีหน้า และอยากให้นำเอาชิพจับเวลามาใช้ในการแข่งขันปีหน้าด้วยค่ะ
ปล2. พยายามติดต่อกลับไปทางผู้จัดแล้วตั้งแต่วันพฤหัสหลังจากที่ได้ถ้วย โทรไปตามเบอร์ที่อยู่บนกล่องจม.(ปิดเครื่อง) และ ส่งเมลไป ผ่านมา2วัน ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆกลับมาเลยค่ะ