คนที่ฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหาร = บาป , คนที่กินเนื้อสัตว์แต่ไม่ได้ฆ่า = ไม่บาป ... คือใครเป็นคนแต่งขึ้นมาอ่ะ

กระทู้คำถาม
1. คนที่ฆ่าสัตว์เพื่อทำอาหารหรือให้คนอื่นทาน = บาป
2. คนที่กินเนื้อสัตว์แต่ไม่ได้ฆ่า = ไม่บาป

คือได้ยินพวกผู้ใหญ่พูดแบบนี้มาหลายคนละ คืออยากรู้ว่าต้นกำเนิดใครเป็นคนแต่งกฏนี้ขึ้นมาอ่ะ หรือเทวดาคนไหนเป็นคนแต่ง ???

บอกตรงๆคือตั้งแต่เด็กๆเราฟังแล้วมันรู้สึกไม่แฟร์อ่ะ .. ที่เราได้กินเนื้อสัตว์เพราะไม่ใช่คนเค้าอุตส่าห์ฆ่าให้เรากินหรอ? ทำไมบาปต้องตกให้เค้าเพียงผู้เดียวด้วย

ใครเก่งๆเรื่องศาสนาพุทธ ช่วยอธิบายหน่อย และช่วยบอกด้วย ว่ากฏนี้ใครเป็นคนแต่งขึ้นมา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ศาสนาพุทธ ถือว่าการฆ่าสัตว์ เป็นบาป ไม่ว่าจะฆ่าเพราะอะไร
คนฆ่าไม่ได้ โดนบังคับให้ทำแต่ฆ่าเพราะต้องการเนื้อมาขาย
เรียกว่าตัดสินใจฆ่เอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนซื้อ

ส่วนคนกินเนื้อสัตว์ กินโดยไม่สนใจว่าเนื้อมาจากไหนเขาแค่
อยากกินเนื้อ ถ้าไม่มีเขาก็แค่ไปซื้อย่างอื่นกิน สัตว์เมื่อตายแล้ว
ก็เป็นแค่ซาก เหมือนกับซากพืช ซากสัตว์ ดังนั้นกินอะไรก็เหมือน
กัน

ถ้าถึงขนาดไปสั่งฆ่า เช่นไปจองหรือชี้ว่าจะเอาตัวนี้นั่นแหละ
ถึงจะกลายเป็นผู้จ้างวาน

มันชัดเจนอยู่แล้ว มีแต่คนคิดมากนั่นแหละที่พยายามให้มันเกี่ยว
ส่วนใครกำหนด ไม่มีใครกำหนด มันเป็นของมันอย่างนี้ เหมือน
โลกหมุน น้ำไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำ การโคจรของดวงดาวมันก็เป็น
ธรรมดาของมัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่