[Spoil]Yandere Kanojo 63-64 "เหตุผลและการตัดสินใจ"

ยุ่งวุ่นวายจนดองสปอยล์มาสองตอนติดเลย =3=

ย้อนความตอนที่แล้ว
เมื่ออาซามิผิดหวังกับรักแรกอันแสนปวดร้าว เธอก็ได้มาพบกับโซสึเกะ หนุ่มที่ผู้ใหญ่ได้จัดหามาให้




โซสึเกะบอกกับอาซามิว่าอันที่จริงเขานั้นเคยได้พบเธอมาก่อนแล้ว เมื่อครั้งตอนกินเลี้ยงของบริษัทที่บ้านใหญ่
ตัวเขาเองก็ประทับใจอาซามิอยู่ไม่น้อยทีเดียว
พออาซามิถามว่ารู้เรื่องของเธอแล้วใช่มั้ย โซสึเกะตอบไปตามตรงว่ารู้มาอยู่เหมือนกัน แต่อาซามิอย่าคิดมากไปเลย
เพราะเขาเอง ตอนสมัยเรียนก็อกหักรักคุดมาสามครั้ง สองครั้งแรกเป็นการปฏิเสธเมื่อตอนไปสารภาพรัก
ส่วนอีกหนึ่งคน คบกันได้ไม่ถึงครึ่งปี สาวเจ้าก็ขอบอกเลิกเพราะโซสึเกะน่าเบื่อเกินไป...
จากการพบกันครั้งแรก อาซามิคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แปลกดี


เหมือนเรื่องราวจะคลี่คลายแต่กลายเป็นว่าอาซามิกลับอุ้มท้องลูกของอาคางาวะอยู่
แต่กว่าจะรู้เรื่องนี้ก็หลังจากที่ไล่เขาออกไประยะหนึ่งแล้ว เมื่ออาโออิรู้ข่าวเข้าก็รีบมาถามไถ่อาซามิถึงร่างกายของเธอ
พอรู้ว่าเป็นเรื่องจริง อาซามิจึงออกปากว่าจะลาออกจากโรงเรียน เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ก็ขอให้คอยช่วยเหลือเธอด้วย

อาโออิกลับโมโหยิ่งกว่าเดิม ถามอาซามิว่าคิดจะให้กำเนิดลูกของผู้ชายเฮงซวยแบบนั้นงั้นเหรอ
แต่เมื่ออาซามิถามกลับว่าจะให้ทำยังไง อาโออิได้แต่อึกอัก
อาซามิก็รู้ตัวดีว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรถามอาโออิ แต่ตัวเธอก็ทำได้เพียงแต่ร้องขอความเห็นใจเท่านั้น

ด้านอาโออิเห็นน้องสาวตัดสินใจแบบนั้นแล้ว ก็ได้แต่ตีโพยตีพายว่าเก็บเด็กเอาไว้ แล้วทางบ้านโซสึเกะจะว่ายังไง
เพราะทางบ้านนั้น รับรู้และยอมรับเรื่องของอาซามิแล้ว แต่ถ้าถึงขนาดนี้ เรื่องการแต่งงานอาจจะเป็นโมฆะไปก็ได้
อาโออิขอให้อาซามิคิดดูดีๆอีกครั้ง เพราะยังไงอาคางาวะก็ไม่มีทางจะกลับมาอยู่แล้ว
ถึงอาซามิจะปฏิเสธว่าจะไม่ใช่เหตุผลนั้น แต่อาโออิขอให้นึกถึงตระกูลทานากะกับอาสึมะที่อาจจะเสียหายและเสียใจด้วย


จนกระทั่งอาสึมะเข้ามาให้อาโออิหยุดเสียที


อาสึมะพูดถึงเรื่องวันที่เขาคุยกับอาคางาวะ
และเมื่อรู้ว่าอาคางาวะไม่ได้คิดดูดำดูดีทั้งตัวอาสึมะและอาซามิเลย จึงต่อยหน้ามันไป
อันที่จริงแล้ว อาสึมะก็ได้ยินผ่านหูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาซามิกับอาคางาวะอยู่เหมือนกัน
แต่เขาไม่ได้รู้ถึงจิตใจของอาคางาวะ จึงไม่ได้สั่งหยุดความสัมพันธ์ของบทั้งสอง
เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่อาสึมะต้องรับผิดชอบเหมือนกัน
เขาจึงต้องขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องลูกสาว ในฐานะพ่อคนได้
อาสึมะถามอาซามิอีกครั้ง ว่ายังรักอาคางาวะอยู่รึเปล่า

เธอตอบได้แต่ว่าไม่รู้จริงๆ เธอไม่เข้าใจว่าเธอไม่ดีตรงไหน
ตอนนี้เธอรู้เพียงว่าเธอถูกทอดทิ้งหักหลัง เธอเกลียดเขาคนนั้น
แต่ถึงอย่างนั้น เด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ไม่ได้มีความผิดอะไร
เธอไม่รู้ว่าจะรักเด็กคนนี้ได้รึเปล่า...เธออาจจะเกลียดเขาเหมือนพ่อผู้ให้กำเนิดก็ได้
หรือบางที ในใจของเธอยังรู้สึกอยากจะเชื่อใจเขาอยู่ก็ได้

แต่ยังไง เธอก็กลัวที่ว่าจะต้องเสียใจและทำเป็นว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น


เมื่ออาสึมะได้ยินแบบนั้นแล้ว จึงบอกให้อาซามิวางใจ เพราะยังไงเด็กในท้องก็ถือว่าเป็นหลานคนหนึ่ง
ส่วนเรื่องการหมั้นหมาย เขาจะเป็นคนคุยเอง เพราะเดิมทีการเจรจานี้ก็มีไว้เพื่อให้อาซามิรู้สึกดีขึ้น
ตัวอาสึมะอยากให้ทั้งอาโออิและอาซามิมีความสุขถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
เพราะผู้เป็นแม่ของทั้งสองได้พูดเอาไว้เช่นนี้เหมือนกัน

อาสึมะได้คุยเรื่องนี้กับโซสึเกะ ทำให้รู้ว่าแม่ของทั้งสองได้เสียชีวิต
หลังจากให้กำเนิดสองแฝดได้ไม่นาน เพราะร่างกายอ่อนแอ
อาสึมะถามอีกฝ่ายว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้ โซสึเกะยังยืนกรานคำเดิมว่าไม่คิดจะถอนหมั้นหรืออะไรทั้งสิ้น
เขาได้รู้ว่าเธอนั้นเจ็บปวดกับบาดแผลในอดีต แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ถึงแม้ว่าจะคิดกังวลทางฝ่ายพ่อแม่ของตนบ้างก็ตาม แต่อาสึมะว่าเขาจะเป็นคนเจรจาเอง
เพราะนี่ถือเป็นความรักของพ่อแม่ เพื่อลูกๆแล้ว ถึงจะให้เสียสละชีวิตที่เหลืออยู่ เขาก็ยอม


เธอรู้เรื่องชีวิตภายนอกตระกูลของทานากะจากพ่อของเธอ ว่าทานากะมีชีวิตที่สุขสบายดี
เธอจึงไม่อยากให้เขามาเกี่ยวข้องกับตระกูล
เพราะหากมาเป็นทายาทแล้ว ก็ต้องทำตามที่พี่ชายของเธอต้องการ
ต้องทิ้งทั้งเพื่อนรักหรือคนรักอย่างเรย์นะไป
เธอจึงไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นพันธะให้ทานากะยึดติดกับตระกูลและทำให้ต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมา
เรย์นะจึงเข้าใจว่าที่อาซามิตั้งใจทำตัวเย็นชาให้ทานากะรังเกียจ


"พูดไปก็อาจจะเหมือนกับคำแก้ตัว ตอนที่เจอหน้ากับเด็กคนนั้นแล้ว ฉันกลัวที่จะให้ความรักกับเขา
กลัวว่าตัวมานาบุจะซ้อนทับของเงาอาคางาวะมาโมรุ กลัวว่ามานาบุอาจจะทำอะไรเลวร้ายกับโซสึเกะหรือมายามิก็ได้..."


ทานากะที่รับรู้ทุกอย่างหลังประตูบานนั้นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...

ตอน 64


ทานากะที่รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ขอให้เรย์นะกลับคุณตากลับบ้าน
ก่อนที่จะกลับ เรย์นะไม่โวยจะแอบแขวะชิราโทริว่าทำอะไร กับแซะอาโออิไปเล็กน้อย
ส่วนอาสึมะก็หยิบอะไรบางอย่างมาจากที่บ้านใหญ่ด้วย


พอมาถึงบ้าน สองตาหลานนั่งจับเข่าคุยจนเกือบจะมีเรื่อง
เพราะทานากะถามว่าทำไมถึงไม่บอกเรื่องนี้กับเขา
แต่เรย์นะยกหม้อแกงกะหรี่มาห้ามศึกซะก่อน

ระหว่างที่กินข้าวกัน อาสึมะอธิบายถึงเรื่องอาซามิว่า อาซามิเป็นแค่ผู้หญิงคนนึง ที่ต้องอยู่ในหลายสถานะ
ทั้งลูกสาวของอาสึมะ แม่ของทานากะ ภรรยาของโซสึเกะ แม่ของมายามิ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะทำได้ทุกอย่าง
จึงขอให้ช่วยเข้าใจเธอด้วย

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว อาสึมะก็โยนจดหมายเจ้าปัญหาเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนให้ทานากะ
และบอกว่าอยากจะทำอะไรกับมันก็เชิญ ทานากะเองก็ไม่รู้ว่าอ่านตอนนี้จะได้เรื่องอะไร
ด้านเรย์นะที่นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องแม่และพ่อของทานากะ ทั้งเรื่องตัวทานากะ
จนมาถามทานากะว่า พ่อของเขาเป็นคนยังไง แต่ทานากะก็ไม่รู้เหมือนกัน
จนเรย์นะเกิดปรี๊ดแตก ว่าเป็นพ่อภาษาอะไร
ทิ้งลูกชายตั้ง17ปีแบบไม่มาดูหน้าดูตากันซักนิด ถ้าเจอหน้ากันก็ขอตั๊นซักหมัด


เรย์นะสังเกตว่าที่จดหมายนั่นมีที่อยู่ หากตามที่อยู่นั้นไปก็น่าจะได้เจอและจะได้ต่อยหน้าจริงๆซักที
อีกทั้งยังไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นอาคางาวะได้แต่งงานกับใครไปรึเปล่า และถ้าเจอก็จะขอต่อยซักที(ต่อยเยอะจังนะ เรย์น้าา)
นอกจากว่าต่อยไม่ต่อยแล้ว ยังไงก็ควรจะไปเจอหน้าซักครั้งนึง เพราะเธอรู้สึกว่ายังขาดอะไรบางอย่างไป
และหากได้เจอก็จะได้ตัดสินเจ้าตัวได้ด้วย ว่าเป็นคนยังไงกันแน่


ทานากะก็ตกลงตามนั้น เพราะมีเรื่องอยากจะถามเหมือนกันรวมถึงขอร้องให้เรย์นะไปด้วย
ซึ่งเรย์นะพร้อมอยู่แล้ว ทานากะจึงตัดสินใจจะไปกันวันสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
แต่เรย์นะคิดว่าจะตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆ ไปพรุ่งนี้มันนี่แหละ...ซึ่งวันพรุ่งนี้ยังเป็นวันธรรมดา...



ใจเร็ว ใจร้อนสไตล์เรย์นะจริงๆ แต่แบบนี้ก็ดีนะ ให้จบๆเคลียร์ๆไปเลยว่าพ่อของทานากะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

ส่วนตัวแอบคิดว่าถ้ายังไม่ตาย และแต่งงานมีลูกไป
บุกเจอวันธรรมดาแบบนี้ คงได้คลาดกับน้องบุญธรรมที่(น่าจะ)ยังเป็นนักเรียนแหงแซะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่