สวัสดีคะเพื่อนๆชาวพันทิป นี่เป็นกระทู้แรกของเราผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยนะคะ
เรื่องราวที่เราจะเล่านี้เกิดขึ้นมาประมาณปีกว่าๆแล้วคะ
หลายคนที่เคยผ่านการประชุมเชียร์ก็คงจะสงสัยว่ามีไปทำไม
ฉันเองในตอนนั้นก็เข้าอย่างนี้เช่นกัน
รู้เพียงว่าต้องมีพี่โหดๆ มาว๊ากๆ
ก่อนจะเข้าประชุมเชียร์จะมีพี่ๆปี2 มาซ้อมร้องเพลงมหาลัย
ฉันเองก็ร้องๆไป เขาให้ร้องก็ร้อง
แค่มีเพื่อนมาก็มา อารมณ์ก็ตามเพื่อนนะคะ
จนถึงวันประชุมเชียร์จริง......
ก็มีพี่ปี2มาดูแลตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติน่าจะเป็นรังสีที่แอบอำมหิตหน่อยๆในบริเวณโดยรอบ
สักพักพี่ปีสองก็ออกไปโดยบอกให้พวกฉันปี1 เข้าแถวรอไว้
ตอนนั้นเริ่มรู้ละ ว่าต้องเจออะไรแน่
ตึก ตึก ตึก
เสียงเดินดังเป็นสเต็ป มาจากทางด้านหลัง
เพียงไม่นานก็มีบุคคลใส่นักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าเดินมาอยู่ตรงหน้า
(ประชุมเชียร์วันแรกของฉันให้มาประชุมเชียร์รวมกันทั้งภาคก่อนที่วันถัดมาจะแยกเป็นสาขา)
หลังจากแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อย พี่ๆตรงหน้าก็บอกกฎระเบียบที่ต้องทำในมหาวิทยาลัย
ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังหรอก เมื่อยก็เมื่อนเพราะยืนอยู่ ตาก็มองหาว่าคนไหนจะเป็นพี่สตาร์ฟเราบ้างน้อ
"ยืนตรงด้วยคะ" เสียงจิกๆดังมาจากข้างแถว
(ด่าตูปะเนี่ย ร้อนตัวไปก่อนเลยยืนตรงๆ)
พอคุยเสร็จก็เริ่มการประชุมเชียร์ที่แท้จริงละจ้าาาา
"ปี1 ปี1 ฟังคำเรียกแถว หน้ากระดานเรียง7" เสียงดังมาจากอีกฟากที่เราเดินอยู่ พวกเราก็วิ่งไปแล้วจัดแถวใหม่
จัดยังไม่ทันเสร็จก็มีอีกคนหนึ่งเรียกอีกจากอีกฝั่งหนึ่ง
สรุปวันนั้นวิ่งทั้งวัน
วันต่อมาฉันก็ยังมาเข้าประชุมเชียร์อยู่ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นกิจกรรมบังคับ
คงเป็นเพราะมีเพื่อนมา
และอีกเหตุผลหนึ่ง
คือ พี่สตาร์ฟที่ยืนอยู่ข้างหน้าฉันในวันแรกของการประชุมเชียร์
ไม่เข้าใจว่าจะทำหน้านิ่งไปไหน
แต่ในใจตอนนั้นก็ภาวนาให้เขาอยู่สาขาฉันด้วยเถอะ
ประชุมเชียร์วันต่อไปจะได้เจอกันอีก><
เป็นครั้งแรกที่โชคเข้าข้างฉัน
วันที่สองของการประชุมเชียร์ เจอพี่เขาอีกแล้ว
วันนี้ต่างจากเมื่อวานเพราะจำนวนคนน้อยลงเนื่องจากแยกกันแต่ละสาขา
ประชุมเชียร์วันนี้มีกิจกรรมให้ทำไม่ใช่แค่การวิ่งเข้าแถว
ทุกๆกิจกรรมที่พี่ให้ทำล้วนผ่านมาจากความคิด การลองทำมาแล้วว่าปลอดภัยกับน้อง
และกิจกรรมนั้นช่วยสร้างความคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
การที่พวกเรามาอยู่รวมกันในสาขานี้ ต่างคนก็ต่างที่มา ต่างโรงเรียน
ต่างคนต่างมีอีโก้ ต่างคนต่างไม่ยอมกัน
การประชุมเชียร์จึงมีกิจกรรมที่ช่วยรวมพวกเรา เพื่อให้พวกเรารวมเป็นหนึ่ง
อีกทั้งยังช่วยปรับความคิด ทัศนคติ ของใครก็ไม่รู้ที่มาอยู่รวมกันในสาขานี้
ฉันชอบอยู่วันหนึ่งที่พี่ให้ร้องเพลงประจำภาควิชา
ทุกๆประโยคที่ฉันร้องตามทำให้ฉันขนลุกมาก
เพราะมีความหมายและตอกย้ำว่าฉันมาทำอะไร เรียนอะไร
และทำเพื่อใคร
เวลาประชุมเชียร์แม้จะไม่นานแต่ก็ช่วยสร้างอะไรหลายๆอย่างให้กับฉัน
และฉันคิดว่าเพื่อนๆที่มาก็คงจะได้รับเช่นกัน
ความรักในตัวพี่ปีสอง(เพราะพี่ปีสองเป็นคนดูแลตลอดและคอยรับผิดให้ด้วย)
ความศรัทธาในตัวเอง
ความรักเพื่อน
ประชุมเชียร์ไม่ใช่กิจกรรมที่มีไว้สำหรับพี่รังแกน้อง
แต่เป็นกิจกรรมที่สร้างคนให้ขึ้นมาดูแลภาควิชานี้ต่อไป
ถ้าแค่เรียนๆแล้วให้จบๆไปก็ทำได้ แต่คุณไม่มีทางมีความภาคภูมิใจนี้เลยเพราะคุณไม่ได้สร้างมันขึ้นมา
(ภาคเราเป็นภาควิชาใหม่ ก่อตั้งยังไม่ถึง10ปี)
แต่ก็มีหลายอย่างนะที่ฉันไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับประชุมเชียร์
พี่ทำไมไม่ยิ้มคะ
ปล.ตอนหน้าจะมาเล่าเกี่ยวกับความรักของฉันนะ
จากใจน้องปี1ถึงพี่สตาร์ฟ
เรื่องราวที่เราจะเล่านี้เกิดขึ้นมาประมาณปีกว่าๆแล้วคะ
หลายคนที่เคยผ่านการประชุมเชียร์ก็คงจะสงสัยว่ามีไปทำไม
ฉันเองในตอนนั้นก็เข้าอย่างนี้เช่นกัน
รู้เพียงว่าต้องมีพี่โหดๆ มาว๊ากๆ
ก่อนจะเข้าประชุมเชียร์จะมีพี่ๆปี2 มาซ้อมร้องเพลงมหาลัย
ฉันเองก็ร้องๆไป เขาให้ร้องก็ร้อง
แค่มีเพื่อนมาก็มา อารมณ์ก็ตามเพื่อนนะคะ
จนถึงวันประชุมเชียร์จริง......
ก็มีพี่ปี2มาดูแลตามปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติน่าจะเป็นรังสีที่แอบอำมหิตหน่อยๆในบริเวณโดยรอบ
สักพักพี่ปีสองก็ออกไปโดยบอกให้พวกฉันปี1 เข้าแถวรอไว้
ตอนนั้นเริ่มรู้ละ ว่าต้องเจออะไรแน่
ตึก ตึก ตึก
เสียงเดินดังเป็นสเต็ป มาจากทางด้านหลัง
เพียงไม่นานก็มีบุคคลใส่นักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าเดินมาอยู่ตรงหน้า
(ประชุมเชียร์วันแรกของฉันให้มาประชุมเชียร์รวมกันทั้งภาคก่อนที่วันถัดมาจะแยกเป็นสาขา)
หลังจากแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อย พี่ๆตรงหน้าก็บอกกฎระเบียบที่ต้องทำในมหาวิทยาลัย
ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังหรอก เมื่อยก็เมื่อนเพราะยืนอยู่ ตาก็มองหาว่าคนไหนจะเป็นพี่สตาร์ฟเราบ้างน้อ
"ยืนตรงด้วยคะ" เสียงจิกๆดังมาจากข้างแถว
(ด่าตูปะเนี่ย ร้อนตัวไปก่อนเลยยืนตรงๆ)
พอคุยเสร็จก็เริ่มการประชุมเชียร์ที่แท้จริงละจ้าาาา
"ปี1 ปี1 ฟังคำเรียกแถว หน้ากระดานเรียง7" เสียงดังมาจากอีกฟากที่เราเดินอยู่ พวกเราก็วิ่งไปแล้วจัดแถวใหม่
จัดยังไม่ทันเสร็จก็มีอีกคนหนึ่งเรียกอีกจากอีกฝั่งหนึ่ง
สรุปวันนั้นวิ่งทั้งวัน
วันต่อมาฉันก็ยังมาเข้าประชุมเชียร์อยู่ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นกิจกรรมบังคับ
คงเป็นเพราะมีเพื่อนมา
และอีกเหตุผลหนึ่ง
คือ พี่สตาร์ฟที่ยืนอยู่ข้างหน้าฉันในวันแรกของการประชุมเชียร์
ไม่เข้าใจว่าจะทำหน้านิ่งไปไหน
แต่ในใจตอนนั้นก็ภาวนาให้เขาอยู่สาขาฉันด้วยเถอะ
ประชุมเชียร์วันต่อไปจะได้เจอกันอีก><
เป็นครั้งแรกที่โชคเข้าข้างฉัน
วันที่สองของการประชุมเชียร์ เจอพี่เขาอีกแล้ว
วันนี้ต่างจากเมื่อวานเพราะจำนวนคนน้อยลงเนื่องจากแยกกันแต่ละสาขา
ประชุมเชียร์วันนี้มีกิจกรรมให้ทำไม่ใช่แค่การวิ่งเข้าแถว
ทุกๆกิจกรรมที่พี่ให้ทำล้วนผ่านมาจากความคิด การลองทำมาแล้วว่าปลอดภัยกับน้อง
และกิจกรรมนั้นช่วยสร้างความคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
การที่พวกเรามาอยู่รวมกันในสาขานี้ ต่างคนก็ต่างที่มา ต่างโรงเรียน
ต่างคนต่างมีอีโก้ ต่างคนต่างไม่ยอมกัน
การประชุมเชียร์จึงมีกิจกรรมที่ช่วยรวมพวกเรา เพื่อให้พวกเรารวมเป็นหนึ่ง
อีกทั้งยังช่วยปรับความคิด ทัศนคติ ของใครก็ไม่รู้ที่มาอยู่รวมกันในสาขานี้
ฉันชอบอยู่วันหนึ่งที่พี่ให้ร้องเพลงประจำภาควิชา
ทุกๆประโยคที่ฉันร้องตามทำให้ฉันขนลุกมาก
เพราะมีความหมายและตอกย้ำว่าฉันมาทำอะไร เรียนอะไร
และทำเพื่อใคร
เวลาประชุมเชียร์แม้จะไม่นานแต่ก็ช่วยสร้างอะไรหลายๆอย่างให้กับฉัน
และฉันคิดว่าเพื่อนๆที่มาก็คงจะได้รับเช่นกัน
ความรักในตัวพี่ปีสอง(เพราะพี่ปีสองเป็นคนดูแลตลอดและคอยรับผิดให้ด้วย)
ความศรัทธาในตัวเอง
ความรักเพื่อน
ประชุมเชียร์ไม่ใช่กิจกรรมที่มีไว้สำหรับพี่รังแกน้อง
แต่เป็นกิจกรรมที่สร้างคนให้ขึ้นมาดูแลภาควิชานี้ต่อไป
ถ้าแค่เรียนๆแล้วให้จบๆไปก็ทำได้ แต่คุณไม่มีทางมีความภาคภูมิใจนี้เลยเพราะคุณไม่ได้สร้างมันขึ้นมา
(ภาคเราเป็นภาควิชาใหม่ ก่อตั้งยังไม่ถึง10ปี)
แต่ก็มีหลายอย่างนะที่ฉันไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับประชุมเชียร์
พี่ทำไมไม่ยิ้มคะ
ปล.ตอนหน้าจะมาเล่าเกี่ยวกับความรักของฉันนะ