มีใครเชื่อเรื่องพรหมลิขิตบ้างคะ? เราคนหนึ่งไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิตเลย คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าเพราะคิดว่าพรหมลิขิตมันจะมีแต่ในหนังจนกระทั่ง...
เรื่องราวที่เราจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านทุกคนช่วยบอกเราหน่อยนะคะ มันเป็นพรหมลิขิตหรือเรื่องบังเอิญกันแน่
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ สวัสดีค่ะ เราชื่อนีน (นามแฝง) ปัจจุบันอายุ 21 ปี
ย้อนไปเมื่อ 13 ปีก่อน (ประมาณ)
ตอนนั้นเราจำได้ว่าตัวเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่2-3 เป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อายไม่กล้าแสดงออก จนวันหนึ่งหลังเลิกเรียนคาบสุดท้ายจะเป็นการเข้ากีฬาสีและนั่งอยู่กับสีตัวเอง เราอยู่สีเขียว ถัดไปเป็นสีฟ้าเรานั่งเล่นกับเพื่อนปกติแต่แล้วสายตาดันหันไปเจอกับรุ่นพี่คนหนึ่งเขาหล่อมาก ขาวมาก เขายืนคุยกับรุ่นพี่ที่คอยคุมน้องในสีตัวเองก็คือสีฟ้านั่นแหละ ตอนนั้นรู้สึกว่าเราชอบพี่เขามากเลย แต่เราไม่รู้ชื่อ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเรียนอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร
วันต่อมา (วันกีฬาสี)
เรานั่งร้องเพลงเชียร์อยู่บนสแตนเชียร์ สายตาพยายามมองหารุ่นพี่คนนั้นตลอดแต่ก็ไม่เจอถึงเวลาพักเราก็ให้เพื่อนพาไปเดินบริเวณสแตนเชียร์สีฟ้าแต่หายังไงก็หาไม่เจอ จนงานกีฬาสีจบก็ไม่เห็นเงารุ่นพี่คนนั้นเลย หลังจากงานกีฬาสีวันนั้นเราก็พยายามมองหารุ่นพี่คนนั้นมาตลอดทุกวันแต่ก็ไม่เจออยู่ดีจนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเราเคยแอบปลื้มรุ่นพี่คนนี้ ลืมไปแล้วว่าเลิกมองหาเขาตั้งแต่เมื่อไร ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยเจอคนหน้าแบบนี้
เวลาผ่านไปหลายปี (มัธยมศึกษาปีที่ 4)
ปกติหลังจากเลิกเรียนเราชอบไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะทุกวัน แต่จำได้ว่าวันนั้นเราวิ่งอยู่แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งสวนกับเราไปอีกทาง เรารู้สึกคุ้นมากเลยหันหลังกลับไปแต่เขาก็วิ่งออกไปแล้วแต่เราจำชื่อกับเบอร์เสื้อที่ด้านหลังได้แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ออกกำลังกายเสร็จเราก็กลับบ้านและเปิดเข้าแอปเฟสบุ๊คแล้วค้นหาชื่อด้านหลังเสื้อเขาทันทีและมันก็เด้งมาเป็นชื่อแรกเลยเราก็กดเข้าไปเป็นแอคคนที่เจอเมื่อกี้จริงเราก็เลื่อนดูแต่ก็ไม่เจออะไรส่วนมากเขาจะแชร์เกี่ยวกับฟุตบอลมากกว่าแต่ดันไปเห็นที่เพื่อนเขาแท็กไว้เลยกดเข้าไปดู เป็นรูปที่เขากับเพื่อนถ่ายด้วยกันใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนที่เราเคยเรียนอยู่ และชุดสีฟ้า ทำให้เราอุทานอ๋อขึ้นมาแล้วคิดว่าคนนี้นี่เอง พูดกับตัวเองว่าลืมไปแล้วด้วยซ้ำหามาตลอดแต่มาเจอเอาตอนนี้แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชอบเหมือนตอนนั้นแล้ว แต่ยอมรับว่าเขาหล่อมากกว่าเดิมอีก คงมีแฟนไปแล้วด้วยแหละ ไม่ได้คิดอะไรนอกจากเขาไปอยู่ที่ไหนมา?
วันต่อมา
เราก็มาวิ่งออกกำลังกายเหมือนเดิม ก็ได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเราก็วิ่งปกติของเราและไม่ได้สนใจเขาเลย จนกลับมาบ้านซักพักก็มีแอคหนึ่งแอดเฟสบุ๊คเรามา และใช่ผู้ชายคนนั้นแอดเฟสเรามาแล้วด้วยความสงสัยว่ารู้จักชื่อเฟสเราได้ยังไงก็เลยกดรับ หลังจากนั้นไม่เกินห้านาที เขาก็ทักมาว่า
"สวัสดีครับ" เราก็กดเข้าไปอ่านทันทีแต่ก็ยังไม่ตอบ
"ใช่เราป่ะ ไปวิ่งตอนเย็น"
"ใช่ค่ะ" เราตอบและถามคำถามที่สงสัยทันที
"หาเฟสนีนเจอได้ยังไงคะ" แล้วเขาก็ตอบกลับมา
"จำชื่อหลังเสื้อได้เลยลองค้นหาดู" ตอนนั้นคิดว่า เห้ย วิธีเดียวกันเลยนี่หว่า แล้วเราก็ถามต่อว่ามีอะไรหรือป่าว เขาก็ตอบว่าไม่รู้แค่รู้สึกว่าอยากคุยด้วยตอนนั้นรู้สึกใจเต้นตึกตัก คุยกันไปมาเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าเคยเจอเขามาก่อนแล้วก็ไม่ได้ถามว่าเขาไปอยู่ไหนมา หลังจากวันนั้นเราคุยกันมาตลอดแต่ก็มีเลิกคุยกันบ้างแต่ก็กลับมาคุยกันใหม่ ประมาณ 3 ปีได้ที่คุยๆเลิกๆ ตลอดเวลาที่คุยกันเรารู้สึกชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ช่วงเวลาที่เลิกคุยกันเขาก็มีแฟนตลอด ทำให้เราคิดว่าแบบนี้น่าจะเป็นพี่น้องกันน่าจะดีกว่า
ปัจจุบัน
หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่6 เราสองคนเลิกคุยกันจริงๆ ไม่ติดต่อกันเลยตลอดเวลา 3 ปี ปัจจุบันเขาก็มีแฟนส่วนเราโสดเหมือนเดิม หลังจากไม่ได้คุยกันนานเราก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่กว่าจะลืมได้ก็ยากเอาเรื่องอยู่เหมือนจะสมหวังแต่ก็ไม่ ความสัมพันธ์เรามันได้แค่นี้แต่ก็คอยยินดีกับเขาเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไร ได้แต่คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆและสุดท้ายอวยพรให้เขาเจอความรักดีๆอยู่เสมอ
จบแล้วค่าา ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันจนจบนะคะ แฮฟอะกู้ดเดย์ค่าา
พรหมลิขิตหรือเรื่องบังเอิญ
เรื่องราวที่เราจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านทุกคนช่วยบอกเราหน่อยนะคะ มันเป็นพรหมลิขิตหรือเรื่องบังเอิญกันแน่
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ สวัสดีค่ะ เราชื่อนีน (นามแฝง) ปัจจุบันอายุ 21 ปี
ย้อนไปเมื่อ 13 ปีก่อน (ประมาณ)
ตอนนั้นเราจำได้ว่าตัวเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่2-3 เป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อายไม่กล้าแสดงออก จนวันหนึ่งหลังเลิกเรียนคาบสุดท้ายจะเป็นการเข้ากีฬาสีและนั่งอยู่กับสีตัวเอง เราอยู่สีเขียว ถัดไปเป็นสีฟ้าเรานั่งเล่นกับเพื่อนปกติแต่แล้วสายตาดันหันไปเจอกับรุ่นพี่คนหนึ่งเขาหล่อมาก ขาวมาก เขายืนคุยกับรุ่นพี่ที่คอยคุมน้องในสีตัวเองก็คือสีฟ้านั่นแหละ ตอนนั้นรู้สึกว่าเราชอบพี่เขามากเลย แต่เราไม่รู้ชื่อ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเรียนอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร
วันต่อมา (วันกีฬาสี)
เรานั่งร้องเพลงเชียร์อยู่บนสแตนเชียร์ สายตาพยายามมองหารุ่นพี่คนนั้นตลอดแต่ก็ไม่เจอถึงเวลาพักเราก็ให้เพื่อนพาไปเดินบริเวณสแตนเชียร์สีฟ้าแต่หายังไงก็หาไม่เจอ จนงานกีฬาสีจบก็ไม่เห็นเงารุ่นพี่คนนั้นเลย หลังจากงานกีฬาสีวันนั้นเราก็พยายามมองหารุ่นพี่คนนั้นมาตลอดทุกวันแต่ก็ไม่เจออยู่ดีจนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนลืมไปแล้วว่าเราเคยแอบปลื้มรุ่นพี่คนนี้ ลืมไปแล้วว่าเลิกมองหาเขาตั้งแต่เมื่อไร ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยเจอคนหน้าแบบนี้
เวลาผ่านไปหลายปี (มัธยมศึกษาปีที่ 4)
ปกติหลังจากเลิกเรียนเราชอบไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะทุกวัน แต่จำได้ว่าวันนั้นเราวิ่งอยู่แต่แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งสวนกับเราไปอีกทาง เรารู้สึกคุ้นมากเลยหันหลังกลับไปแต่เขาก็วิ่งออกไปแล้วแต่เราจำชื่อกับเบอร์เสื้อที่ด้านหลังได้แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน ออกกำลังกายเสร็จเราก็กลับบ้านและเปิดเข้าแอปเฟสบุ๊คแล้วค้นหาชื่อด้านหลังเสื้อเขาทันทีและมันก็เด้งมาเป็นชื่อแรกเลยเราก็กดเข้าไปเป็นแอคคนที่เจอเมื่อกี้จริงเราก็เลื่อนดูแต่ก็ไม่เจออะไรส่วนมากเขาจะแชร์เกี่ยวกับฟุตบอลมากกว่าแต่ดันไปเห็นที่เพื่อนเขาแท็กไว้เลยกดเข้าไปดู เป็นรูปที่เขากับเพื่อนถ่ายด้วยกันใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนที่เราเคยเรียนอยู่ และชุดสีฟ้า ทำให้เราอุทานอ๋อขึ้นมาแล้วคิดว่าคนนี้นี่เอง พูดกับตัวเองว่าลืมไปแล้วด้วยซ้ำหามาตลอดแต่มาเจอเอาตอนนี้แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชอบเหมือนตอนนั้นแล้ว แต่ยอมรับว่าเขาหล่อมากกว่าเดิมอีก คงมีแฟนไปแล้วด้วยแหละ ไม่ได้คิดอะไรนอกจากเขาไปอยู่ที่ไหนมา?
วันต่อมา
เราก็มาวิ่งออกกำลังกายเหมือนเดิม ก็ได้เจอกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้วเราก็วิ่งปกติของเราและไม่ได้สนใจเขาเลย จนกลับมาบ้านซักพักก็มีแอคหนึ่งแอดเฟสบุ๊คเรามา และใช่ผู้ชายคนนั้นแอดเฟสเรามาแล้วด้วยความสงสัยว่ารู้จักชื่อเฟสเราได้ยังไงก็เลยกดรับ หลังจากนั้นไม่เกินห้านาที เขาก็ทักมาว่า
"สวัสดีครับ" เราก็กดเข้าไปอ่านทันทีแต่ก็ยังไม่ตอบ
"ใช่เราป่ะ ไปวิ่งตอนเย็น"
"ใช่ค่ะ" เราตอบและถามคำถามที่สงสัยทันที
"หาเฟสนีนเจอได้ยังไงคะ" แล้วเขาก็ตอบกลับมา
"จำชื่อหลังเสื้อได้เลยลองค้นหาดู" ตอนนั้นคิดว่า เห้ย วิธีเดียวกันเลยนี่หว่า แล้วเราก็ถามต่อว่ามีอะไรหรือป่าว เขาก็ตอบว่าไม่รู้แค่รู้สึกว่าอยากคุยด้วยตอนนั้นรู้สึกใจเต้นตึกตัก คุยกันไปมาเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่ได้บอกว่าเคยเจอเขามาก่อนแล้วก็ไม่ได้ถามว่าเขาไปอยู่ไหนมา หลังจากวันนั้นเราคุยกันมาตลอดแต่ก็มีเลิกคุยกันบ้างแต่ก็กลับมาคุยกันใหม่ ประมาณ 3 ปีได้ที่คุยๆเลิกๆ ตลอดเวลาที่คุยกันเรารู้สึกชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ช่วงเวลาที่เลิกคุยกันเขาก็มีแฟนตลอด ทำให้เราคิดว่าแบบนี้น่าจะเป็นพี่น้องกันน่าจะดีกว่า
ปัจจุบัน
หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่6 เราสองคนเลิกคุยกันจริงๆ ไม่ติดต่อกันเลยตลอดเวลา 3 ปี ปัจจุบันเขาก็มีแฟนส่วนเราโสดเหมือนเดิม หลังจากไม่ได้คุยกันนานเราก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่กว่าจะลืมได้ก็ยากเอาเรื่องอยู่เหมือนจะสมหวังแต่ก็ไม่ ความสัมพันธ์เรามันได้แค่นี้แต่ก็คอยยินดีกับเขาเสมอไม่ว่าเขาจะทำอะไร ได้แต่คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆและสุดท้ายอวยพรให้เขาเจอความรักดีๆอยู่เสมอ
จบแล้วค่าา ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันจนจบนะคะ แฮฟอะกู้ดเดย์ค่าา