เป็นเรื่องของหลานนะคะ อยู่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง หลานอยู่ ม.1 ค่ะ ส่วนตัวเรามาสวัสดีปีใหม่ที่บ้านพี่สาววันที่ 23/12/67 มาถึงเกือบๆ 2 ทุ่ม แต่พี่สาวบอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครอยู่บ้านนะ มารับลูก เราก็โอเค ตอนนั้นยังไม่ได้อะไร ก็นึกว่าพี่สาวเราไปรับหลานจากที่เรียนพิเศษ พอกลับมาบ้านก็ถามสารทุกข์สุขดิบกัน หลานก็เล่าให้ฟัง จับใจความเป็นประเด็นได้ดังนี้ค่ะ (หมายเหตุ งานกีฬาสีมีวันที่ 26/12/67 นะคะ)

ก่อนวันจริง

1. มีการจ้างคนนอกมาสอนหลีด สอนสแตน ทั้งๆที่มันก็มีกฎชัดเจนแล้วว่าห้ามจ้างคนนอก แต่ทุกสีก็ยังทำ แล้วก็ไม่โดนตัดสิทธิ์ด้วย เสียค่าจ้างหลายหมื่นบาท แล้วคนนอกพวกนี้ก็มาว๊าก มาพูดจาหยาบคาย พอน้องคนไหนไม่มาซ้อม ก็ด่าเขา และพยายามทำให้เพื่อนคนอื่นเกลียดน้องที่ไม่มาด้วย ที่สำคัญคือ พวกคนนอกพวกนี้อ้างว่าเป็นศิษย์เก่า กลับมาช่วย ทำมาเพื่อสี แต่จริงๆก็ได้ตังค์เป็นค่าจ้างนะ อีกทั้งยังให้น้องกลับดึก กว่าจะเลิกก็เกือบ 1 ทุ่ม เด็กเดินทางกลับช่วงมืดค่ำ อันตรายมาก แต่พี่สาวเราไปรับที่เรียนพิเศษทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้กระทบตรงนี้

2. หลานเราลงเรียนพิเศษไปแล้ว แต่มาทราบว่าจะต้องขึ้นสแตนภายหลัง หลานเราไม่เป็นกีฬานะ แต่ลองขอต่อรองให้ไปช่วยพี่ๆทำอุปกรณ์เชียร์อย่างอื่นแล้วกลับถูกปฎิเสธ เพราะบอกว่าคนขาด ต้องไปขึ้นสแตนเท่านั้น หลานเราก็กลัวรุ่นพี่ด้วย กลัวเพื่อนเกลียดด้วย กลัวพี่ๆคนนอกที่มาสอนด้วย อยู่ในโรงเรียนอ่ะเนอะ มันเป็นพื้นที่ปิด จะไปไหนก็ไม่ได้ หลานก็เลยโดดเรียนพิเศษ แล้วมาขึ้นสแตน ซึ่งตัวดิฉันเองก็มาทราบจากพี่สาวภายหลังค่ะ

3. ค่าใช้จ่ายเยอะมาก หลานบอกว่า มีรุ่นพี่มาเก็บเงินค่ากีฬาสีคนละ 300 บาท ทั้งห้องมีประมาณ 50 คน ก็ตกห้องละ 15,000 บาท มี 2 ห้องต่อ 1 สี ก็กลายเป็น 30,000 บาท และหลานบอกว่า รุ่นพี่ ม.ปลาย โดนเรียกเก็บเงินเยอะกว่านี้ โอ้โห มันจะต้องใช้เงินกันขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ไม่ทราบนะคะ ว่าทางโรงเรียนให้งบประมาณมาเท่าไหร่

วันจริง

4. ทางหน้าเพจโรงเรียนประกาศชัดเจนว่า ห้ามบุคคลภายนอกและศิษย์เก่าเข้าโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนอนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าได้ แต่เราก็ยังเห็นบุคคลภายนอกที่มาสอนเชียร์ลีดเดอร์กับสแตนเข้ามาได้อยู่ดี 

5. แต่ละสีจะมีการจ้างช่างแต่งหน้า ทำผม ชุดสวยมาก พร๊อบเยอะมาก มีทั้งสแตน หลีด พาเหรด มีการแสดง บางคนที่เดิน ยังต้องมีคนคอยจับกระโปรงให้ตลอดทาง ก็คิดในใจว่า เข้าใจแล้วแหละ ว่าทำไมถึงต้องใช้เงินเยอะ แต่มันจำเป็นแล้วจริงๆเหรอ

เราก็กลับมาคิดในใจ

จะเป็นไปได้ไหม ถ้าจะใช้งบประมาณตามที่โรงเรียนให้ ไม่ต้องแต่งตัวสวย ไม่ต้องจ้างคนนอก เพราะสุดท้าย มันก็แค่กีฬาสีที่เกิดขึ้นเพียงวันเดียว เอาที่เราสนุกก็พอ แต่อีกมุม ถ้าสีอื่นจ้าง และทุ่มทุนแล้ว สีเราจะไม่ทุ่มได้ไง ถ้าสีเราไม่สวย โอกาสชนะก็จะน้อยลงไปด้วย สุดท้ายก็อยู่ที่เกณฑ์การตัดสินของกรรมการ ว่ามีหัวข้อการตัดสินอะไรบ้าง และตัดสินยังไง ถึงทำให้นักเรียนต้องทุ่มทุนและลงแรงมากขนาดนี้ มันคุ้มหรือไม่ ข้อดีของการทุ่มทุนและลงแรงมากขนาดนี้ มีข้อดี 2 ข้อที่เราคิดได้ ก็คือ ถ่ายรูปสวย กับดูภูมิใจที่สีเราทำดี ส่วนรางวัลที่ได้ ก็คือถ้วยรางวัลที่ต้องคืนให้กับโรงเรียน คุ้มไหมน้อออ