คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง เมื่อใช้ภาษาไปถึงจุดๆหนึ่งแล้ว ก็อาจจะเริ่มรู้สึกตัน
คือการฟัง พูด อ่าน เขียน แม้จะคล่อง แต่ว่าการใช้คำศัพท์ในการสื่อสาร จะเริ่มซ้ำๆ วนไปวนมา
เราเองก็เป็นแบบนั้น แม้ว่าเราจะใช้ภาษาอังกฤษทุกวันก็ตาม แต่ไม่ค่อยมีพัฒนาการอะไรที่เด่นชัด
ไม่นานมานี้ เราเริ่มอ่านหนังสือชีวประวัติเล่มหนึ่ง แล้วเรารู้สึกว่า เราอยากอะไรมากกว่าแค่สิ่งที่นักประพันธ์ต้องการจะสื่อ
เราอยากพัฒนาภาษาอังกฤษ และเพิ่มคำศัพท์ในคลังความรู้ของเราด้วย
แล้วเราเห็นว่าวิธีเราอาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่สนใจภาษาอังกฤษเลยคิดว่าจะนำเทคนิคเล็กน้อยนี้มาแชร์กัน
เราเริ่มจากการเลือกหนังสือที่เราชอบ ความยากง่ายไม่สำคัญ ขอแค่ว่าเราสนใจในเนื้อเรื่องนั้นจริงๆเป็นพอ
ต่อจากนั้นเราก็เริ่มอ่าน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเราต้องการอรรถรสในการอ่าน เราก็ควรจะอ่านไปเรื่อยๆโดยไม่มีการหยุดเปิดคำศัพท์
ไม่งั้นมันก็จะสะดุดอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าเนื่องจากเราอยากเรียนคำศัพท์ใหม่ๆระหว่างการอ่านด้วย เราเลยต้องยอมสะดุดบ้าง
แต่สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ การย่นระยะเวลาในการสะดุดนั้นให้สั้นที่สุด
สำหรับเรา การเปิดดิกมันช้าเกินไป (แม้จะได้คำอธิบายที่ละเอียด แต่ถ้าต้องเปิดทุกคำที่ไม่รู้ หนังสือคงอ่านไม่จบกันพอดี)
เราเลยเลือกใช้ APP ในมือถือแทน และ เราจะเลือก APP ที่:
1. เปิดได้เร็ว โหลดไม่ช้า (ไม่อยากเสียเวลารอ)
2. ให้คำอธิบายได้สั้นและกระชับที่สุด (ถ้าอยากได้คำอธิบายยาวๆ ไว้อ่านจบค่อยมาทำความเข้าใจคำศัพท์อย่างละเอียดอีกทีดีกว่า)
3. สามารถ save คำศัพท์ได้ (เพราะว่าหลังจากดูความหมายแล้ว อีกไม่นานเราจะลืมมันแน่นอน เราเลยต้อง save มันไว้ เพื่อกลับมาทบทวน และ อาจจะหาคำอธิบายเพิ่มเติมในอนาคต)
ซึ่งเราก็ไม่ได้ลองหลาย APP แต่มี APP นึงที่เรารู้สึกว่า มันตอบโจทย์เราได้ นั่นคือ Thai Fast Dict
ซึ่งตอนนี้ เวลาเราอ่านหนังสือ เรารู้สึกว่า นอกจากเราจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราสนใจแล้ว เรายังได้คำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะ
ซึ่งมันจะพัฒนาในเรื่องของการพูดและการเขียนของเราด้วย ให้ไม่ซ้ำซากจำเจ
ซึ่งเราหวังว่า ถ้าเราอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบเล่มแล้ว เราจะกลับมาทบทวนคำศัพท์ที่เราได้ save เอาไว้ในตอนแรก
และ พอเรากลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งที่สอง เราจะสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ 95-100% มากกว่ารอบแรกที่อาจจะเข้าใจเพียง 80-85%
ยังไงก็ขอให้ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆที่เรามาแชร์นี้ เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจภาษาอังกฤษ
หรือ ถ้าใครมีเทคนิคอะไรน่าสนใจก็มาแชร์กันได้ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆอีกหลายๆคน
[ภาษาอังกฤษ] แนะนำเรื่องการอ่าน และ การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ
คือการฟัง พูด อ่าน เขียน แม้จะคล่อง แต่ว่าการใช้คำศัพท์ในการสื่อสาร จะเริ่มซ้ำๆ วนไปวนมา
เราเองก็เป็นแบบนั้น แม้ว่าเราจะใช้ภาษาอังกฤษทุกวันก็ตาม แต่ไม่ค่อยมีพัฒนาการอะไรที่เด่นชัด
ไม่นานมานี้ เราเริ่มอ่านหนังสือชีวประวัติเล่มหนึ่ง แล้วเรารู้สึกว่า เราอยากอะไรมากกว่าแค่สิ่งที่นักประพันธ์ต้องการจะสื่อ
เราอยากพัฒนาภาษาอังกฤษ และเพิ่มคำศัพท์ในคลังความรู้ของเราด้วย
แล้วเราเห็นว่าวิธีเราอาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่สนใจภาษาอังกฤษเลยคิดว่าจะนำเทคนิคเล็กน้อยนี้มาแชร์กัน
เราเริ่มจากการเลือกหนังสือที่เราชอบ ความยากง่ายไม่สำคัญ ขอแค่ว่าเราสนใจในเนื้อเรื่องนั้นจริงๆเป็นพอ
ต่อจากนั้นเราก็เริ่มอ่าน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเราต้องการอรรถรสในการอ่าน เราก็ควรจะอ่านไปเรื่อยๆโดยไม่มีการหยุดเปิดคำศัพท์
ไม่งั้นมันก็จะสะดุดอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าเนื่องจากเราอยากเรียนคำศัพท์ใหม่ๆระหว่างการอ่านด้วย เราเลยต้องยอมสะดุดบ้าง
แต่สิ่งที่จะช่วยได้ก็คือ การย่นระยะเวลาในการสะดุดนั้นให้สั้นที่สุด
สำหรับเรา การเปิดดิกมันช้าเกินไป (แม้จะได้คำอธิบายที่ละเอียด แต่ถ้าต้องเปิดทุกคำที่ไม่รู้ หนังสือคงอ่านไม่จบกันพอดี)
เราเลยเลือกใช้ APP ในมือถือแทน และ เราจะเลือก APP ที่:
1. เปิดได้เร็ว โหลดไม่ช้า (ไม่อยากเสียเวลารอ)
2. ให้คำอธิบายได้สั้นและกระชับที่สุด (ถ้าอยากได้คำอธิบายยาวๆ ไว้อ่านจบค่อยมาทำความเข้าใจคำศัพท์อย่างละเอียดอีกทีดีกว่า)
3. สามารถ save คำศัพท์ได้ (เพราะว่าหลังจากดูความหมายแล้ว อีกไม่นานเราจะลืมมันแน่นอน เราเลยต้อง save มันไว้ เพื่อกลับมาทบทวน และ อาจจะหาคำอธิบายเพิ่มเติมในอนาคต)
ซึ่งเราก็ไม่ได้ลองหลาย APP แต่มี APP นึงที่เรารู้สึกว่า มันตอบโจทย์เราได้ นั่นคือ Thai Fast Dict
ซึ่งตอนนี้ เวลาเราอ่านหนังสือ เรารู้สึกว่า นอกจากเราจะได้เรียนรู้ในสิ่งที่เราสนใจแล้ว เรายังได้คำศัพท์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะ
ซึ่งมันจะพัฒนาในเรื่องของการพูดและการเขียนของเราด้วย ให้ไม่ซ้ำซากจำเจ
ซึ่งเราหวังว่า ถ้าเราอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบเล่มแล้ว เราจะกลับมาทบทวนคำศัพท์ที่เราได้ save เอาไว้ในตอนแรก
และ พอเรากลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งที่สอง เราจะสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ 95-100% มากกว่ารอบแรกที่อาจจะเข้าใจเพียง 80-85%
ยังไงก็ขอให้ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆที่เรามาแชร์นี้ เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจภาษาอังกฤษ
หรือ ถ้าใครมีเทคนิคอะไรน่าสนใจก็มาแชร์กันได้ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆอีกหลายๆคน