สวัสดีค่ะ ข้อความนี้จากพี่ "คนรัก น้ำมัน" ฝากตั้งกระทู้ เนื่องจากเครื่องพี่เค้าใหม่มาก เกิดปัญหาบางอย่าง
ไม่สามารถตั้งกระทู้เองได้ ฮ่า ๆๆๆ
จึงฝากเม่าตัวเล็ก ๆ ให้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับ SCBLIF กรณี Tender Offer ให้พี่ ๆ เพื่อน ๆ
ได้อ่าน / แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การทำ Tender offer ค่ะ
SCBLIF มีข่าวจะทำ Tender Offer และแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการเพิกถอนออกจากตลาด
ผมเองในฐานะผู้ถือหุ้นรายย่อยคนหนึ่ง เมื่อมองเห็นการแสดงออกเช่นนี้ของ SCB แล้วอดไม่ได้ที่จะขอแสดงความเห็นในฐานะที่พึ่งเข้าร่วมประชุมมาเมื่อเดือนที่แล้ว
จากสิ่งที่เกิดขึ้น ในมุมมองผมมองว่า SCB มอง SCBLIF เหมือนลูกรักแสนรักแสนหวงและสุดแสนจะ... รักถึงขนาดว่าไม่ต้องการให้ใครมาแบ่งความรัก นั้นไปแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว ทั้งๆที่ ณ ปัจจุบันตัวเองหลังจากซื้อต่อมาจาก New York Life มาทั้งหมดและถือหุ้นใหญ่ ตอนนี้ถึง 95 % แล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจ ต้องการครอบครองไว้เองทั้งหมด ทั้งๆที่ พรบ.ประกันชีวิตและพรบ.ประกันวินาศภัยปี 2551 กำหนดไว้ชัดเจนว่าบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยทุกบริษัทจะต้องแปลงสภาพเป็นมหาชน เพื่อความโปร่งใส จริงอยู่ว่าเค้าไม่ได้บังคับให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม ขณะที่ลูก(ไม่)รักอีกบริษัท คือ SCSMG กลับขายทิ้งอย่างไม่ใยดีให้กับบริษัทประกันภัยต่างชาติหมดเกลี้ยง
ผมเองเข้าใจในเจตนาของผู้บริหาร SCB ว่าต้องการลดความเสี่ยงในกลุ่มประกันภัยออกไป และเร่งสร้างมาร์เก็ตแคปให้โตเป็นอันดับหนึ่งอย่างยั่งยืน โดยอาศัยฐานจากกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตด้วยส่วนหนึ่ง แต่การพยายามเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แสดงถึงเจตนาที่ไม่ชัดเจนในการแสดงความโปร่งใสของการบริหารงานผ่านกระบวนการและระบบของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
ถามว่าส่วนตัวเสียใจและเสียดายมั๊ย และจะขายทิ้งมั๊ย ผมว่านั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เพราะยิ่งทำให้ผมกลับมีความรู้สึกว่ากลับแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจและศักยภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก แสดงถึงพฤติกรรมที่เด่นชัดผ่านนโยบายในการกระทำครั้งนี้ของ SCB และถามว่าสภาพคล่องล่ะ ที่จะสูญเสียไป ส่วนตัวผมกลับมองว่ายิ่งดีเสียอีกที่ไม่ต้องมาพะวงกับการขึ้นๆลงๆในตลาด ขณะที่เครื่องปั๊มเงินสดตัวนี้ทำงานและขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งในอัตราไม่ต่ำกว่า 20 % CAGR ต่อเนื่องต่อไปอีกนาน หากผมมีเงินเย็นที่สามารถถือได้ 10 ปี ผมสามารถถือได้แบบสบายใจด้วยซ้ำ เพราะถึงอย่างไร คุณก็ยังต้องทำทุกอย่างแบบบริษัทมหาชนพึงทำ คุณต้องจัดประชุมทุกปี คุณต้องแจ้งให้ผถห.ได้รับทราบ คุณต้องประกาศงบการเงินทุกไตรมาส คุณต้องจ่ายปันผลให้กับผถห.ทุกรายอย่างเท่าเทียม และที่สำคัญที่สุดคุณยังต้องบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผถห.ใหญ่ของคุณพอใจ
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ที่ผมจะปฏิเสธการขายกิจการที่เติบโต 20-25 % ต่อปีและต่อเนื่องอีกหลายปีให้คุณในราคา P/E เพียง 13-14 เท่าออกไปให้คุณรวยคนเดียว
ขอบคุณครับ
คนรักน้ำมัน
SCBLIF กรณี Tender Offer ... จากพี่ "คนรัก น้ำมัน"
ไม่สามารถตั้งกระทู้เองได้ ฮ่า ๆๆๆ
ได้อ่าน / แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ การทำ Tender offer ค่ะ
SCBLIF มีข่าวจะทำ Tender Offer และแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการเพิกถอนออกจากตลาด
ผมเองในฐานะผู้ถือหุ้นรายย่อยคนหนึ่ง เมื่อมองเห็นการแสดงออกเช่นนี้ของ SCB แล้วอดไม่ได้ที่จะขอแสดงความเห็นในฐานะที่พึ่งเข้าร่วมประชุมมาเมื่อเดือนที่แล้ว
จากสิ่งที่เกิดขึ้น ในมุมมองผมมองว่า SCB มอง SCBLIF เหมือนลูกรักแสนรักแสนหวงและสุดแสนจะ... รักถึงขนาดว่าไม่ต้องการให้ใครมาแบ่งความรัก นั้นไปแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว ทั้งๆที่ ณ ปัจจุบันตัวเองหลังจากซื้อต่อมาจาก New York Life มาทั้งหมดและถือหุ้นใหญ่ ตอนนี้ถึง 95 % แล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจ ต้องการครอบครองไว้เองทั้งหมด ทั้งๆที่ พรบ.ประกันชีวิตและพรบ.ประกันวินาศภัยปี 2551 กำหนดไว้ชัดเจนว่าบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยทุกบริษัทจะต้องแปลงสภาพเป็นมหาชน เพื่อความโปร่งใส จริงอยู่ว่าเค้าไม่ได้บังคับให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม ขณะที่ลูก(ไม่)รักอีกบริษัท คือ SCSMG กลับขายทิ้งอย่างไม่ใยดีให้กับบริษัทประกันภัยต่างชาติหมดเกลี้ยง
ผมเองเข้าใจในเจตนาของผู้บริหาร SCB ว่าต้องการลดความเสี่ยงในกลุ่มประกันภัยออกไป และเร่งสร้างมาร์เก็ตแคปให้โตเป็นอันดับหนึ่งอย่างยั่งยืน โดยอาศัยฐานจากกลุ่มธุรกิจประกันชีวิตด้วยส่วนหนึ่ง แต่การพยายามเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น แสดงถึงเจตนาที่ไม่ชัดเจนในการแสดงความโปร่งใสของการบริหารงานผ่านกระบวนการและระบบของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์
ถามว่าส่วนตัวเสียใจและเสียดายมั๊ย และจะขายทิ้งมั๊ย ผมว่านั่นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ เพราะยิ่งทำให้ผมกลับมีความรู้สึกว่ากลับแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจและศักยภาพมากยิ่งขึ้นไปอีก แสดงถึงพฤติกรรมที่เด่นชัดผ่านนโยบายในการกระทำครั้งนี้ของ SCB และถามว่าสภาพคล่องล่ะ ที่จะสูญเสียไป ส่วนตัวผมกลับมองว่ายิ่งดีเสียอีกที่ไม่ต้องมาพะวงกับการขึ้นๆลงๆในตลาด ขณะที่เครื่องปั๊มเงินสดตัวนี้ทำงานและขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งในอัตราไม่ต่ำกว่า 20 % CAGR ต่อเนื่องต่อไปอีกนาน หากผมมีเงินเย็นที่สามารถถือได้ 10 ปี ผมสามารถถือได้แบบสบายใจด้วยซ้ำ เพราะถึงอย่างไร คุณก็ยังต้องทำทุกอย่างแบบบริษัทมหาชนพึงทำ คุณต้องจัดประชุมทุกปี คุณต้องแจ้งให้ผถห.ได้รับทราบ คุณต้องประกาศงบการเงินทุกไตรมาส คุณต้องจ่ายปันผลให้กับผถห.ทุกรายอย่างเท่าเทียม และที่สำคัญที่สุดคุณยังต้องบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผถห.ใหญ่ของคุณพอใจ
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ที่ผมจะปฏิเสธการขายกิจการที่เติบโต 20-25 % ต่อปีและต่อเนื่องอีกหลายปีให้คุณในราคา P/E เพียง 13-14 เท่าออกไปให้คุณรวยคนเดียว
ขอบคุณครับ
คนรักน้ำมัน