แชร์ประสบการณ์โดนผู้ชายจีบแบบที่ไม่ต้องการ......

สวัสดีค่ะ นานๆเราจะตั้งกระทู้ที ถ้าไม่รู้สึกจำเป็นจริงๆจะไม่ค่อยอยากตั้งเท่าไหร่
ปกติเราซุ่มอ่านอย่างเดียว อ่านทุกวันเลย แต่ว่าอันนี้เราอยากระบายมากๆแต่ไม่รู้จะระบายกับใคร
ไม่อยากระบายในเฟซบุ๊คตัวเองเพราะถ้าเพื่อนๆบางคนอ่านแล้วก็จะรู้ว่าเราหมายถึงใครแล้วเดี๋ยวกลายเป็นโจ๊กล้อคนๆนั้นในชีวิตจริง เราไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เราแค่อยากระบายค่ะ ขอพื้นที่หน่อยเถอะ T^T
แล้วเพื่อนๆคนไหนเคยเจอคนมาจีบแบบแปลกๆ มาตามตื้อแบบน่ารำคาญ ก็แชร์กันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
(รบกวนอย่าโหวตนะคะ ไม่อยากให้มันเด่นเดี๋ยวมีคนรู้จักเข้ามาอ่านแล้วรู้ T-T)

ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราอายุยี่สิบกลางๆ เคยแต่งงานแล้วหย่าแล้ว พอกลับมาเป็นโสดก็ทำงานประจำและทำงานเสริมฆ่าเวลาไม่ให้ฟุ้งซ่านด้วยการเป็นครูสอนภาษาค่ะ (เราบอกทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเราเสมอว่าเราเคยแต่งงานแล้วและหย่าแล้ว เพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเราทำให้เรากลับมาอยู่ไทย เลี่ยงที่จะไม่เล่าไม่ได้)
เราขอเล่าเป็นข้อๆนะคะ ตัวหนังสือจะได้ไม่พันกัน

- ตอนเจอกันครั้งแรกเมื่อตอนไปสัมนา เราขอให้ช่วยถ่ายรูปเรากับพี่ชายให้หน่อยแล้วก็ยื่นมือถือเราให้เค้าเอาไปถ่าย เค้าบอกว่าไม่เอา แล้วก็ควักมือถือตัวเองขึ้นมาถ่าย จากนั้นบอกเราว่า "เดี๋ยวส่งรูปให้ทาง LINE นะครับ" จากนั้นก็ขอ add เรามาเรียบร้อย เอิ่ม ไม่เป็นไร เล็กน้อย ไม่คิดว่ามีอะไร จากนั้นขอเรียนภาษาอังกฤษด้วย(เค้ารู้ตอนนั่งคุยกันที่โต๊ะสัมนา) อยากจะเรียนเหลือเกิน ส่งไลน์มาถามทุกวันว่าเมื่อไหร่ดีๆๆๆ เออ สอนก็ได้ แล้วก็ขอเบอร์เราไป เราก็ให้ไป จากนั้นก็นัดเรียนกัน เค้าแก่กว่าเรา 9 ปี เราเรียกเค้าว่า "พี่"

- เวลาเรียนจะต้องพาเราไปนั่งกินข้าวก่อน กว่าจะได้เริ่มเรียนจริงก็ปาไปชั่วโมงถัดไป คิดในใจ เออไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้กินฟรีเพราะเค้าเลี้ยงทุกครั้ง แรกๆปฏิเสธทุกครั้งแต่ก็โดนยัดเยียดทุกครั้ง ตอนนั้นยังไม่ค่อยสนิทกันเราเลยเกรงใจเค้า บวกกับไม่รู้เจตนา คิดว่าเค้าอาจจะมีน้ำใจ เลยไม่กล้าปฏิเสธหนักแน่น บางครั้งพาไปร้านหรูๆ เราบอกไม่อยากไป ก็พูดกึ่งบังคับ สุดท้ายเราก็ต้องไปเพราะอยากจะสอนให้เสร็จวันไป บางทีดูร้านแล้วมันหรูและโรแมนติกเกินไปก็ต้องขึ้นเสียงใส่ว่า "ไม่ไปค่ะ" ถึงจะยอม

- ส่งข้อความมาหาเกือบทุกคืน มาขอกำลังใจในการอ่านสิ่งที่เรียนกับเราไป เราก็โอเค บอกสู้ๆค่ะ บางทีก็โทรมาขอกำลังใจ ส่งข้อความมาบอกว่าขอโทรหานะ แล้วไม่รอฟังคำตอบเลยว่าตูสะดวกคุยมั้ย บางทีก็กำลังนั่งส้วมไปอ่านพันทิปไปอยู่ บางทีก็รำคาญ

- ชวนเราไปนั่นไปนี่ เราบอกว่าไม่ไป พี่ไปกับเพื่อนเถอะค่ะ ก็สวนเรามาว่า "ไปเถอะครับ" ไอเราก็ตอบกลับว่าไม่อ่ะค่ะ ก็ยังจะย้ำว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวซักวันเราก็อยากไป พี่เชื่อ" เอ่อ........ บางทีได้บัตรลด ได้กิ๊ฟเว้าเชอร์ร้านอาหารในโรงแรมมาก็มาชวนเราไป เราบอกไม่ไป พี่ไปกับเพื่อนพี่เถอะค่ะ ก็บอกว่าจะไปกับเรานี่แหละ เรายืนยันหนักแน่นคำเดิมว่าไม่ พี่แกก็ตามสูตร "เดี๋ยวถึงเวลานั้นเราก็เปลี่ยนใจครับ พี่เชื่อ" แล้วเป็นไงล่ะ บัตรหมดอายุแล้วตูก็ยังไม่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไป

- ตื้อจะมาส่งที่บ้านทุกครั้ง แรกๆเราบอกกลับเองได้ เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรมันเป็นทางผ่านบ้านพี่ เราก็เลยโอเค สบายตูเลย แต่หลังๆเริ่มอึดอัดหลายๆอย่าง เลยเปลี่ยนที่เรียนมาเป็นสตาร์บั๊กที่ทำงาน เรียนเสร็จแล้วดิฉันเดินทางกลับบ้านเองได้เหมือนวันทำงานทั่วๆไป อย่ามาหาข้ออ้างไปส่งอีก

- หลงตัวเองตลอดเวลา ทำงานอยู่ที่เดียวกับพ่อเรา ชอบเอามาเล่าว่าวันนี้เฮีย(พ่อ)เค้ายิ้มให้พี่ด้วย เค้าเอ็นดูพี่มากนะ บลาๆๆ เราไปถามพ่อพ่อยังจำไม่ได้เลยว่าคนนี้คือใคร แล้วมาเล่าให้ฟังตลอดว่าเจอพ่อเรา พ่อเรายิ้มให้ พ่อเราคุยด้วย พ่อเราต้องเอ็นดูพี่มากๆแน่เลยพี่สัมผัสได้ เอ่อ กลับไปถามพ่ออีกครั้ง พ่อก็ยังคงจำไม่ได้ว่าคนนี้คือใคร แต่พ่อเรามีตำแหน่งใหญ่โตในที่ทำงาน เค้าก็ยิ้มแย้มให้ผู้น้อยทุกคนถึงแม้ว่าจะจำไม่ได้ก็ตาม
หรือเวลามาส่งเราที่บ้าน ต้องผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านก่อน ยามก็จะยังไม่ยกไม้กั้นออก เราต้องโบกมือทักยามว่านี่คือเราเอง เค้าถึงจะเปิดให้รถเข้า แล้วเราไม่ปล่อยให้เค้ามาส่งเราบ่อยๆ ยามก็จำรถเค้าไม่ได้ เราต้องโบกมือทักยามทุกครั้งยามถึงจะเปิดให้เข้า แต่ตัวเค้าชอบพูดทุกครั้งว่าเป็นเพราะยามจำเค้าได้ เพราะยามเค้ารู้ว่าพี่ไว้ใจได้ หน้าพี่มีเมตตา ฯลฯ เอิ่ม......... และมีอีกหลายๆเรื่องค่ะที่พูดเข้าข้างตัวเองโดยที่เหตุผลจริงๆมันมีของมันอยู่

- ชอบบอกเราว่าจะพาไปดูดวงกับหลวงพี่ที่วัดที่เค้านับถือมากๆ หลวงพี่ดูดวงแม่นมาก คิวเยอะมาก ถ้าจะไปต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าออกจากบ้านไปเพื่อไปจองคิว อยากพาเราไป เราบอกว่าไม่ล่ะค่ะ เค้าก็ตื้อ เราก็ยังคงยืนกรานว่าไม่ไป เค้าก็ตามเดิมค่ะ "ถ้ามีบุญก็คงจะได้ไปเองเนอะ" เอ่อ....
และเค้าบอกว่าก่อนที่จะมารู้จักกับเราเมื่อไม่นานมานี้ หลวงพี่บอกว่าเค้ากำลังจะเจอเนื้อคู่ เราฟังแล้วก็เงียบกริบ มันต้องไม่ใช่ตรูแน่นอน แต่เค้าก็หยุดประโยคไว้แค่นั้น และมีอีกหลายๆครั้งที่เค้าพูดทำนองว่าอยากให้เราเป็นแฟน แต่เราจะอ้างเสมอว่ายังอยากอยู่คนเดียว เพิ่งหย่ามา เข็ดผู้ชาย ฯลฯ แต่เค้าก็จะอ้างสารพัดเหตุผลว่าเรื่องของพรหมลิขิตมันรอไม่ได้ ฯลฯ เอ่อ........

- พฤติกรรมที่รับไม่ได้เลยก็คือ ชอบยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเราเวลาเรากินข้าวกับสอนหนังสือ คือรำคาญมาก แรกๆเค้าก็ยังไม่กล้าทำ พอสอนไปนานๆแล้วเริ่มสนิทกันมากขึ้น(เรียนกันมาสามเดือน เดือนละ 8 ครั้ง) เค้าก็เริ่มถ่ายรูปเราตอนเรานั่งกินข้าว ตอนเราก้มเล่นมือถือ ตอนเราพูดสอนหนังสือ แรกๆเราก็เขินๆก็ยิ้มๆบ่นๆว่า บ้าหรอพี่ แก้เขินไป แต่หลังๆเริ่มอึดอัดจริงๆ และที่สำคัญคือทุกคืนก่อนนอนเค้าจะส่งรูปที่ถ่ายเราตอนเผลอนี่แหละมาให้ทาง LINE เราเห็นแล้วก็แบบ เอ่อ..... ให้ฉันดูรูปตัวเองตอนกำลังพูด กินข้าว เล่นมือถือ จะให้ฉันรู้สึกยังไงหรอ? หลังๆเลยพูดกับเค้าตรงๆว่าพี่พอเถอะค่ะ ทำแบบนี้เหมือนคนโรคจิต เราพูดต่อหน้าเค้า เค้าก็หน้าเสียไปแล้วก็บอกว่าเราพูดแรงไปนะ เราก็บอกว่าขอโทษค่ะแต่พี่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เค้าเลยขอโทษเราและเลิกทำ (หลังๆพอสนิทกันมากขึ้น เรากล้าพูดตรงๆกับเค้ามากขึ้น โดยปกติเราเป็นคนตรง ชัดเจนพอควร)

- อีกพฤติกรรมนึงที่ไม่ชอบมากๆเลยคือ มา save รูปเดี่ยวที่เราอัพลงในเฟซบุ๊คเราแล้วมาส่งให้เราก่อนนอน คือเพื่ออะไร? ส่งรูปตัวของเราเอง ที่เราถ่ายเอง อัพลงเอง มาให้ตัวเราเอง เพื่ออะไร? อันนี้ทำอยู่ประมาณ 3-4 ครั้งจนเราแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญแบบแค่ตั้งใจจะทำครั้งเดียวแล้วเลิก เราเลยพูดเหมือนเดิมว่าทำแบบนี้เหมือนคนไม่ปกตินะคะ เค้าเลยเลิก

- พฤติกรรมสุดท้ายที่สุดจะทนคือ เวลาเดินด้วยกันแล้วเดินชิดเราเกินเหตุ เดินเบียดแบบไหล่ชนไหล่ ทั้งๆที่พื้นที่มีเยอะมากกกกก แต่กลับเลือกที่จะเดินเบียดมากจนน่าอึดอัด นึกออกมั้ยคะคนปกติเดินกันเค้าเดินห่างกันพอดีๆ แต่นี่คือเดินๆๆแล้วไหล่เค้าก็กระทบไหล่เราเป็นพักๆ เราไม่ชอบอย่างแรง เราเลยเดินออกห่างมานิดนึงแต่ไม่ได้แสดงออกว่าตั้งใจจะเดินออก เค้าก็เดินตามมาเบียดอีก เราเลยพูดว่าพี่จะเดินเบียดเราทำไมคะ เค้าก็ยิ้มแล้วทำหน้ากวนเท้าแล้วบอกว่า แล้วจะทำไมหรอครับ? เราขึ้นเลยค่ะ เลยบอกว่า ก็มันอึดอัดอ่ะค่ะ ที่เดินมีตั้งเยอะนะพี่ จะมาเดินเบียดให้เรารู้สึกอึดอัดทำไม เค้าถึงเลิกทำ

อันนี้คือคร่าวๆนะคะ ยังมีอีกหลายพฤติกรรมเลยทำให้เราไม่ชอบเค้ามากๆ เพื่อนๆคิดว่ามันแปลกๆหรือน่ารำคาญมั้ยคะ หรือเราปิดกั้นตัวเองเกินไป - -"
ปัจจุบันนี้เราเลิกสอนเค้าไปแล้วค่ะ ครั้งสุดท้ายที่เราไปสอนเค้า เค้าพาเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึงหลังเลิกเรียน แล้วเค้าก็พูดแต่เรื่องเดิมๆว่าให้เราเปิดใจ เราเลยบอกเค้าไปว่า "พี่ หนูรู้ตัวหนูเองดี ถ้าหนูไม่สนใจคนไหนตั้งแต่แรกก็คือจะไม่มีทางสนใจเลย ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม หนูก็ยังจะคงรู้สึกกับเค้าแค่เพื่อนแค่คนปกติ มันจะไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ หนูนิสัยแบบนี้ เป็นแบบนี้มา 20 กว่าปีแล้ว คงเปลี่ยนยากอ่ะค่ะ เพราะงั้นไม่ว่าพี่จะพูดยังไง จะทำยังไง หนูก็จะไม่รู้สึกกับพี่ไปมากกว่านี้" แล้วเค้าก็เงียบไป กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกลับบ้าน
แล้วพอกลับบ้านมาเราก็ส่งข้อความไปบอกเค้าว่าเราขอเลิกสอนนะ ขอโทษด้วย แต่อึดอัดมาก ฯลฯ แล้วเค้าก็อ่านแล้วแต่ไม่ตอบ หายไปวันนึงค่อยส่งกลับมาว่าโอเค และความสัมพันธ์เรากับเค้าก็จบลงเท่านี้ เราโล่งมาก รู้งี๊เลิกสอนไปนานแล้ว 55555

จริงๆมีอีกเคสนึงด้วย แต่ไม่หนักเท่าเคสนี้ ขอจบแค่นี้ก่อนค่ะ ขอบคุณมากที่ให้พื้นที่เราระบาย
ใครอ่านจบก็ขอขอบคุณด้วยค่ะที่ทนอ่านจนจบ ใครอยากคอมเม้นท์อะไรหรือแชร์เรื่องตัวเองก็ได้เลยนะคะ แต่อย่าว่าหรือด่าเราว่าเรื่องมาก เลือกเยอะ หรืออะไรเลยนะ เราเพลียจริงๆค่ะ เราไม่ใช่คนเรื่องมากเลือกเยอะนะ เราแค่ไม่ชอบสิ่งที่เค้าทำกับเราแค่นั้น มันทำให้ความรู้สึกเราไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่