เรื่อง "อึ" ของเด็ก สำคัญนะคะ มาแชร์ประสบการณ์ลูกไม่อึจนป่วย

กระทู้สนทนา
รายงานสภาพอึ ยามเช้า

เด็กหญิงปลาทูจะต้องรายงานสภาพอึให้แม่ฟังทุกเช้าคะ
อึหนูเหมือนไดโนเสาร์ บางวันอึก็เหมือนยีราฟ ปลาโลมา
บางวันอึหนูก็รักกัน มาติด ๆกันเลยแม่ บางวัน หนูมีอึฝาแฝด

เนื่องมาจาก ช่วงที่ปลาทูไปโรงเรียนแรก ๆ เธอไม่กล้าอึ
ด้วยทั้งความไม่คุ้นเคยในห้องน้ำ และไม่กล้าบอกครู
รวมถึงไม่มั่นใจที่จะล้างก้นเอง เธอเลยเลือกที่อั้นอึ
และสิ่งที่เกิดขึ้น คือ ลูกตัวอุ่น ๆ จนถึงมีไข้ต่ำ ๆ อยู่เรื่อย
จนมีครั้งหนึ่งที่ แม่ตัดสินใจพาไปหาหมอ

หมอกดเจออึเต็มท้องเลยคะ .. จนต้องสวนออก
ไม่ต้องบรรยายถึงสภาพนะคะ คำเดียวเลยคือ เพียบ !!!

หมอได้สอนแม่และปลาทูด้วยว่า เราต้องอึนะคะ
อย่าเก็บไว้ ไม่งั้นจะทำให้เด็กตัวร้อนได้

ด้วยเหตุนี้เอง เรื่องอึจึงเป็นเรื่องที่อยู่ในระบบเฝ้าระวังของแม่
แม่ยุ้ยไม่รอช้า ค้นหาวิธีการที่จะทำให้ลูก อึ
และในที่สุดได้ค้นพบว่า “การอึเวลาเดียวกัน ในทุก ๆ วัน” คือทางออก

ตั้งแต่นั้นมา เมื่อตื่นนอนตอนเช้า สิ่งที่ปลาทูต้องทำคือ
ตื่นมา ดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วไปนั่งในห้องน้ำ และอึ
เมื่อฝึกให้เป็นนิสัย ปลาทูก็สามารถอึได้ในตอนเช้า

ถ้าหากวันไหน กินเยอะ ก็มีช่วงเย็นเพิ่มมา
และพอโตขึ้น อนุบาล 3 แม่ก็เริ่มสอนให้ล้างก้นเอง
ถ้าไปปวดรอบพิเศษที่โรงเรียน ก็หมดห่วง เธอจัดการก้นตัวเองได้

หากถามว่า ตอนนี้ ยังมีปัญหาเรื่องอึกันอยู่ไหม ?
ก็มีบ้างนะคะ แม่ถึงต้องคอยรับฟังการรายงานสภาพทุกวัน
แต่พอช่วงหลัง ลูกกินผักได้ ผลไม้ได้ ก็มีปัญหาน้อยลง

สิ่งที่สำคัญคือ การดื่มน้ำ ถ้าอยู่บ้านก็พยายามให้ดื่มสม่ำเสมอ
ทีแรกแม่ก็เข้าใจแค่ว่า กินผักแล้ว ผลไม้แล้ว ก็โอเคจบเรื่อง
น้ำ เป็นอีกเรื่องค่ะ อึที่มีไฟเบอร์เยอะ คือกินผักผลไม้เยอะแล้ว
แต่ถ้าไม่มีน้ำ ก็จะทำให้อึออกมาก้อนโตและแข็งมากอยู่ดี

ดังนั้น .. เรื่อง อึ เรื่องใหญ่นะคะคุณแม่ทั้งหลาย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่