ในที่นี้ หมายถึง ชีวิตที่ดำรงอยู่ท่ามกลางผู้คน ท่ามกลางสังคม อย่างไร้กำลัง ไร้อำนาจ แทบไม่เหลือพลังต่อรองกับใครอื่นเขา
เป็นชีวิตที่มีน้อย ใช้น้อย และเจียมตัวอย่างถึงที่สุด จนเข้าถึงระดับเห็นความจำเป็นของสิ่งมูลฐานของชีวิต
รบกวนความเป็นอื่นแต่น้อย หรือน้อยมาก เท่าที่จำเป็น
ถ้าเขาไม่แคบ เขาก็จะเห็นแจ้ง เห็นจริง อย่างกว้างขวาง และเต็มไปด้วยความเคารพ แต่ก็หวั่นเกรงต่ออนาคต
เขาจะเห็นความบ้าคลั่งของการไม่รู้จักพอ การแข่งขันสนองความอยากใหญ่ เหมือนต้นไม้ที่แข่งกันสูงเพื่อรับแสงแดด
ชีวิตที่อ่อนไหว ย่อมมีเงาของชีวิตที่บอบบาง และย่อมทำอะไรไม่ได้มาก เพราะ ขาดต้นทุนในการต่อสู้
แต่ก็เบียดเบียนต่อสิ่งต่างๆน้อยลง และใช้ชีวิตอยู่อย่างเท่าที่จำเป็นในทุกกรณี อีกทั้งมีวินัยเข้มงวดโดยจำเป็น
ชีวิตที่อ่อนไหว อาจเป็นชีวิตที่ยากลำบากในสายตาคนอื่น
แต่ก็กลับมีเสรีภาพอย่างอเนกอนันต์ ถ้าเปิดใจรับรู้ความจริงมูลฐานของการดำรงอยู่
ชีวิตที่อ่อนไหว ย่อมมีความเสี่ยง และจะไม่รู้สึกปลอดภัยจากพลังสนับสนุนใดๆ
เพราะ ความไร้ตัวตน ย่อมทำให้ไม่มีคนเห็น หรือเป็นที่รู้จัก....เขาคือผู้ท่องไปในกาลเวลา
ชีวิตที่อ่อนไหว
เป็นชีวิตที่มีน้อย ใช้น้อย และเจียมตัวอย่างถึงที่สุด จนเข้าถึงระดับเห็นความจำเป็นของสิ่งมูลฐานของชีวิต
รบกวนความเป็นอื่นแต่น้อย หรือน้อยมาก เท่าที่จำเป็น
ถ้าเขาไม่แคบ เขาก็จะเห็นแจ้ง เห็นจริง อย่างกว้างขวาง และเต็มไปด้วยความเคารพ แต่ก็หวั่นเกรงต่ออนาคต
เขาจะเห็นความบ้าคลั่งของการไม่รู้จักพอ การแข่งขันสนองความอยากใหญ่ เหมือนต้นไม้ที่แข่งกันสูงเพื่อรับแสงแดด
ชีวิตที่อ่อนไหว ย่อมมีเงาของชีวิตที่บอบบาง และย่อมทำอะไรไม่ได้มาก เพราะ ขาดต้นทุนในการต่อสู้
แต่ก็เบียดเบียนต่อสิ่งต่างๆน้อยลง และใช้ชีวิตอยู่อย่างเท่าที่จำเป็นในทุกกรณี อีกทั้งมีวินัยเข้มงวดโดยจำเป็น
ชีวิตที่อ่อนไหว อาจเป็นชีวิตที่ยากลำบากในสายตาคนอื่น
แต่ก็กลับมีเสรีภาพอย่างอเนกอนันต์ ถ้าเปิดใจรับรู้ความจริงมูลฐานของการดำรงอยู่
ชีวิตที่อ่อนไหว ย่อมมีความเสี่ยง และจะไม่รู้สึกปลอดภัยจากพลังสนับสนุนใดๆ
เพราะ ความไร้ตัวตน ย่อมทำให้ไม่มีคนเห็น หรือเป็นที่รู้จัก....เขาคือผู้ท่องไปในกาลเวลา