ผมเรียนจบนิเทศศาสตร์เกษตรมาครับ ที่นี่ไม่มีเอกเพราะใช้ระบบว่านิสิตสนใจอะไรให้ไปเลือกลงเรียนรายวิชาที่สนใจเองครับ เรียนมาสี่ปีไม่ได้ชอบอะไรเลยในสายงานนี้ แต่แอบมีใจให้งานข่าวนิดๆเลยไปฝึกงานข่าวครับ จบมาด้วยเกรด 3.0x แล้วก็ตระเวณสมัครงานตั้งแต่ฝึกงานเทอมสุดท้าย

หลังจากเรียนจบผมได้งานเลย ตอนนี้เป็นนักข่าวครับ ทำมาแล้ว 2 เดือน รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้เกลียดแล้วก็ไม่ได้รักในสายงานนี้ หลังจากที่ตอนแรกรู้สึกชอบแต่พอมาทำจริงๆเป็นอาชีพกลับรู้สึกเฉยๆ ประกอบกับความคิดที่ว่าไม่คิดจะทำงานสายข่าวเลี้ยงชีพไปตลอดชีวิตหรือไม่ไดคิดจะไต่เต้าเป็นระดับสูงๆอย่างบก.ในสายงานนี้ครับ จึงเป็นที่มาของกระทู้ในวันนี้ครับ

มีสิ่งที่ผมคิดมาตลอดตั้งแต่เรียนจบคือผมอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองครับ (แน่นอนใครๆก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง) เพราะได้ลงแรงให้กับกิจการของตนเองทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย ไม่ต้องไปลงแรงกายทุ่มเทมากให้กับงานของคนอื่นแล้วได้เงินเท่าเดิม

ขออภัยที่ต้องเล่าปูมหลังสะยาวครับ อยากให้ได้เข้าใจแบคกราวชีวิต จวบจนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ที่คิดไว้ตลอดคืออยากทำธุรกิจ แน่นอนการทำธุรกิจมีความเสี่ยง ผมเลยอยากจะศึกษาหาความรู้พื้นฐานสำหรับการลงทุนทำธุรกิจครับเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง

ประเด็นอยู่ที่ว่า ผมจบนิเทศศาสตร์มา ไม่รู้จะเริ่มต้นศึกษาการลงทุนทำธุรกิจอย่างไรดี อยากจะมีความรู้พื้นฐานทางการลงทุน จึงคิดว่าการเรียนต่อ MBA น่าจะสามารถปูพื้นฐานในการลงทุนทำธุรกิจได้ อยากได้ความคิดเห็นจากเพื่อนๆครับ ว่า

1.เรียนต่อ MBA ดีไหม ถ้าไม่ดีเพราะอะไร มีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจไหม
2.ถ้าดี เรียนที่ประเทศไทยหรือต่างประเทศดีครับ ถ้าเป็นต่างประเทศจะคุ้มกับเม็ดเงินที่ลงไปไหมเพราะฐานะทางบ้านปานกลางเท่านั้น แล้วเท่าที่อ่านมาบางคนก็บอกว่าต้องมีประสบการณ์ทำงานก่อนสัก 2 ปี แต่เป็นประสบการณ์ด้านไหนอันนี้ไม่ทราบจริงๆครับรบกวนผู้รู้ด้วยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ ตอนนี้ตัวผมคิดว่าคงทำงานสายข่าวต่อไปให้ถึงปีครับแล้วค่อยเรียนต่อ เพราะรู้สึกว่ายังไม่เต็มที่กับงานสายนี้ อยากออกตอนที่รู้สึกว่าเราเก่งระดับหนึ่งครับ แต่ถ้าทำไป 6 เดือนแล้วไม่ชอบจริงๆผมก็จะออกครับ ไม่อยากฝืนจะได้ไม่เสียเวลาทั้งองค์กรทั้งเราครับ

หมายเหตุ : ส่วนตัวภาษาอังกฤษพอไหว ฟังออก พูดพอได้แต่มั่วแกรมม่า ไปปล่อยอยู่เมืองนอกไม่ตายครับ
ปล.ผมอายุ 21 ครับ