ท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร รถติดไฟแดงยาวเหยียดเป็นแพ ส่วนบนถนนผู้คนเดินเบียดเสียดยัดเยียด สวนกันขวักไขว่ไปมา ด้านบนรถไฟฟ้าบรรทุกผู้โดยสารแน่นวิ่งทะยานผ่านไป ทุกอย่างดูเร่งร้อนแข่งกับเวลา
ณ มุมหนึ่งย่านกลางใจเมืองในกรุงเทพฯ เป็นออฟฟิศบริษัท GNN บริษัทผลิตภาพยนตร์สารคดีชื่อดังอันดับต้นๆ ของไทย ที่นี่เป็นกึ่งบ้านกึ่งออฟฟิศ สวยงาม ดูดี และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุค 70 สวยงาม แต่ไม่ได้หรูหราอะไรนัก
“อะไรนะ...ฮวาซา...คืออะไรอ่ะ” เสียงจีจี้ ดังขึ้น
สามกำลังหลักของ GNN จีจี้ สาวนักขายคนเก่ง นาย นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เจ้าของบริษัท และ แนวหน้า น้องชายของนาย ผู้กำกับโฆษณาและครีเอทีฟรุ่นใหม่ไฟแรง มีไอเดียสุดบรรเจิดในการคิดสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับ นั่งคุยกึ่งประชุมกันอยู่ในห้องอเนกประสงค์
จีจี้ทำหน้างุนงงสงสัยเต็มที่ นายพยายามอธิบายอย่างใจเย็น ส่วนแนวหน้านั่งฟังไปจิ้มไอแพดเล่นไปด้วย
“ทำไมมันเรียกยากอย่างนั้นล่ะ คุณนาย”
นายชะงัก “บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกนายเฉยๆ หรือจะเรียกที่รักก็ได้แต่อย่ามาเรียกผมว่าคุณนาย ขอร้อง”
แนวหน้าถามขึ้นมือและตายังง่วนอยู่กับแพด “แล้วมันคืออะไรล่ะเฮีย ไอ้กัวซาเนี่ย”
“ฮวาซา...” นายพูดชัดๆ “ฮะ - วา - ซา...คือประเทศที่เพิ่งประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐใหม่ แบ่งเป็นฮวาซาเหนือ และฮวาซาใต้ ตั้งอยู่ตรงพรมแดนระหว่างพม่ากับจีน”
จีจี้บ่นงึม “ประเทศอะไรชื่อพิลึกพิลั่น ยังกับสมุนไพรล้างพิษตับ”
“อย่าไปสนใจเรื่องชื่ออะไรเลย...มันสำคัญที่ว่าตอนนี้ฮวาซาใต้จะมีการทำหนังสารคดีแนะนำประเทศ ซึ่งจะต้องเป็นงานใหญ่แน่ๆ และสำหรับประเทศไทยเรา บริษัทที่ได้รับเลือกให้ไปเสนอโครงงานกับท่านประธานสาธารณรัฐก็คือ...”
จีจี้ต่อให้ “GNN ของเรา?”
“ถูกต้อง” นายบอก
จีจี้ร้องกรี๊ดแล้วโผเข้ากอดนายอย่างดีใจ
นายบอกด้วยท่าทีมุ่งมั่น “บริษัทของเราต้องได้งานชิ้นนี้ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของGNN”
แนวหน้าออกตัว “แต่ผมไม่อยากทำอ่ะ ผมไม่ชอบชื่อประเทศนี้”
ทั้งนายและจีจี้เหลียวขวับมามองแนวหน้าอย่างคุกคามโดยพร้อมเพรียง นายคว้าคอเสื้อน้องชายและดึงขึ้นมา
“แต่นายต้องทำ ชั้นจะไม่ยอมพลาดงานชิ้นนี้เป็นอันขาด นายจะต้องคิด format เจ๋งๆ พร้อมนำเสนอมาภายในวันนี้ แล้วก็เตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทางไว้ได้เลย เข้าใจมั้ย...ไอ้น้องชาย”
นายจ้องน้องชายอย่างคุกคามต่อ แนวหน้ากลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดๆ
เช้าตรู่วันนี้ นาย แนว และจีจี้ พากันเดินออกมาจากสนามบินเล็กๆ บริเวณชายแดนพม่า หลังเครื่องบินลำเล็กๆ แบบใบพัด พาทั้งสาม และ ผู้โดยสารอื่นๆ ไม่กี่คน มาบินลงอย่างรอดปลอดภัย
นายเหลียวมองไปรอบๆ ตัว
จีจี้บ่นๆ “นี่มันมีบ้านเมืองจริงๆ เหรอคุณ มองลงมาจากเครื่องบินไม่เห็นมีตึกอะไรเลย มีแต่ป่าเขา”
แนวหน้าหยิบเอากล้องมาถ่ายรูปรอบตัวอย่างสนใจ
“อย่าห่วงเลย ทางกระทรวงการวังของฮวาซาบอกว่าจะส่งรถมารับที่สนามบินนี่ เราคงอยู่ที่นี่กันอย่างหรูหรากันเชียวล่ะ”
แนวหน้าชะงักมือที่ถ่ายรูปอยู่
“นั่นรึเปล่า รถที่จะมารับเรา”
ทุกคนหันไปมอง อึ้ง งง เมื่อเห็นรถจี๊ปเก่าๆ คันหนึ่งขับเข้ามาจอด ชายในเครื่องแบบทหารลงมาจากรถแล้วเดินตรงมา ทุกคนกลืนน้ำลาย
ทหารทำความเคารพ “ยินดีต้อนรับครับผม..เราต้องนั่งรถไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะถึงสาธารณรัฐฮวาซาใต้ ขอเชิญขึ้นรถครับ”
จีจี้สะอึก “ชั่วโมงกว่า...ในรถคันนี้นะเหรอค่ะ”
“ประเทศของเรามีแต่เทือกเขา ถ้าไม่ใช้รถแบบนี้คงไปไม่ไหวหรอกครับ” ทหารว่า
ทหารกุลีกุจอช่วยจีจี้ถือกระเป๋า ทั้ง 3 คนมองหน้ากัน ยิ้มแหยๆ
รถจี๊ปแล่นมาตามถนนเขตชายแดนไทย - ราชอาณาจักรฮวาซาใต้ บริเวณแถบตะวันออกเฉียงเหนือ รอยต่อของไทย-กัมพูชา-ลาว เป็นเขตป่าเขาสุดลูกตา แลเห็นพืชพรรณอุดมสมบูรณ์เขียวขจี
รถจี๊ปกำลังแล่นปุเลงๆ มา มีจีจี้ นายและแนวหน้า นั่งตัวโยนไปมาตามจังหวะการเด้งของตัวรถที่กำลังวิ่งเข้าสู่หนทางกันดารลูกรัง ชื้นเย็น ป่าเขาสูง
นายถ่ายรูปข้างทางอย่างสนุกสนาน แนวหน้าเปิดไอแพดดูข้อมูล แต่จีจี้ที่นั่งข้างหน้าพูดโทรศัพท์ไม่หยุด
“เฮ้ย ฉันมากันแค่วันสองวันก็กลับ..โอย ไม่สบาย ไม่สนุกอะไรทั้งนั้นแหละแก” รถกระเทือนเด้งไปมา “โอ๊ย..โอ๊ย...ไม่ได้มาถ่าย มาคุยงาน ลูกค้านัดมา”
จีจี้คุยต่อ “เอ้อ ก็นั่นสิ” หล่อนเบาเสียงลงหันสีข้างให้ทหารพลขับ “ถ้าฉันรู้ว่าต้องลำบากลำบน..ถ่อมาไกลขนาดนี้ คงไม่มาหรอก ให้ไปคุยกรุงเทพฯยังจะดีซะกว่า” แล้วดังขึ้นอย่างเก่า “โหล หา..อ๋อ ที่ไหน ที่...” หันไปหาจะถามนาย พบว่านายยังถ่ายรูปอยู่ เลยไม่เรียก “ซา...ซาซา...รึ ซาฮา ไรนี่ละ”
แนวหน้าเงยหน้าบอก “ฮวาซาจ้า...เจ๊”
จีจี้ไม่ได้ฟังเม้าท์ติดลม “ไม่รู้ ฉันก็ไม่เคยมา มีแต่ป่าแต่เขา กับทางแย่ๆ..โอย ก้นระบมไปหมดละเนี่ย” รถเด้งกระเทือนไปมาอีกระลอก
“โอ้ว...โอ๊ย”
นาย แนวหน้าและจีจี้ ร้องเสียงหลง เพราะรถจี๊ปลอยตัวขึ้น จนทุกคนตัวเด้งลอยไปตามๆ กัน โทรศัพท์ร่วงจากมือจีจี้
รถจี้ปกำลังขับตะลุยข้ามลำธารน้ำที่มีแต่กรวดหิน จนน้ำกระเซ็นขึ้นมาที่กระจกรถ ทั้งสามร้องโอ๊วๆไปตามจังหวะกระเด้งของตัวรถ พลันนายเหลือบไปเห็นนกตัวโตอยู่ไม่ไกลที่ริมลำห้วย
นายร้องสียงดัง ตามจังหวะกระเด้งพอดี มองไปชี้ให้คนอื่นดู “กระทุง กระทุง กระทุง จีจี้” พอหันไปเห็นจีจี้ไม่ได้สนใจ เลยไปตบสะกิดหัวแนวหน้า “เฮ้ย กระทุง”
นายโวยวายเรียกคนดูแต่ไม่มีใครสนใจ จีจี้ควานหาโทรศัพท์มาคุยต่อ
แนวหน้าอ่านไอแพดดังๆ “ฮวาซามีการปกครองระบอบกษัตริย์ ซึ่งจะเรียกว่าประธานมนตรี ท่านประธานคนปัจจุบัน พระนามว่า ท่านประธานมนตรีธูล มีพระธิดา 1 องค์ที่ประสูติมาจากพระมเหสีที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว”
“หา หะ โหลฟิน..ยังอยู่ใช่มั้ย” หล่อนหันมาตวาด “นี่ เงียบๆ กันหน่อยจีจี้คุยไม่รู้เรื่อง”
นาย กับ แนวหน้า สะดุ้งโหยงก่อนพากันเงียบปาก ปล่อยให้จีจี้พ่นดังแปดหลอดไปคนเดียว
“ไรนะ...อ๋อ ลูกค้าของแก ฉันจัดไว้ให้แล้ว...กลับไปสรุปจบให้ได้เลย...เออ ใช่ ถูก...อะไร...ไผท...เนี่ยนะ จะมาเล่นละครเวที..เอาจริงดิ” แนวหน้าเงยหน้าขึ้นฟัง “ดีออก ชั้นอยากเห็นน้องไผทเล่นละครเวทีกะเค้ามานานแล้ว” สัญญาณเริ่มไม่ดี “โหล...”
แนวหน้าถึงกับหันขวับกลับมา
“โหลฟิน..โหล” จีจี้ก้มดูหน้าจอโทรศัพท์ “ว้า..ไม่มีสัญญาณแล้วอ่ะ”
แนวหน้าหาจังหวะถาม ท่าทีเกรงๆ “เจ๊...ไผท ไหน เล่นละครเวที”
“ทำไม” จีจี้มองๆ ว่าจะมาไม้ไหน “เดี๋ยวนี้ นี่เธอสนใจดารานักร้องกะเค้าด้วยเหรอ”
แนวหน้ารู้ตัว “ก็...เปล่า...ก็...แค่ ถามๆ ไปงั้น”
จีจี้ยิ้มๆ ตอบอย่างภูมิใจนำเสนอ “ก็ ไผท ไพศาลี พระเอกซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังดังเป็นพลุแตกอยู่ตอนนี้นี่ละ จะไผทไหนล่ะ ฟินมันบอกว่า..รัชดาลัยโทร.มาขอคิวไปเล่น ฟินจะไม่เอา แต่ไผทมันอยากเล่น”
แนวหน้าเผลอรำพึง
“หน้าอย่างไอ้ไผทน่ะเหรอ...อยากเล่นละครเวที”
แนวหน้าถามด้วยน้ำเสียงดูแคลน และมีสีหน้าอึ้งๆ งงๆ กับคำตอบเมื่อครู่ ภาพอดีต เมื่อ 6 ปีก่อน ตอนเป็นนักศึกษาผุดขึ้นมาในห้วงคิดครีเอทีฟหนุ่ม
เย็นวันนั้น มีกิจกรรมของชมรมการละคร ภายในหอประชุมมหาวิทยาลัย
ส่วนที่ด้านหน้ามีสต๊าฟหญิงในชุดนักศึกษา 2-3 นาง ออกอาการดี๊ด๊า กระซิบกันคิกคักๆ อยู่แล้ว ขณะที่แนวหน้าเดินเข้ามามาดเข้มในฐานะ ประธานชมรมการละคร
“หัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากใช่ไหม...บอกเลยนะ ถ้าวันนี้ยังหาพระเอกไม่ได้ พี่ล้มจริงๆ นะ โปรเจ็คท์นี้”
สต๊าฟ 1 บอก “พี่แนว...ใจเย็นๆ ค่ะ ดูวันนี้มีคนมาออดิชั่นคนนึงเป็นน้องปี 2 มาจากคณะวิศวะ” พลางหันไปทางเพื่อนแล้วสุมหัวกันกรี๊ดด...กับสต๊าฟที่เหลือ “แอร๊ยยย”
แนวหน้าหมั่นไส้ “อะไร โดนใครสาดน้ำมนตร์หรือไง”
“พี่แนวไปดูเลย..ขิงกำลังซ้อมให้เขาอ่านบทอยู่” สต๊าฟ 1 บอก
แนวหน้า หน้าตาดีใจ “หา...ขิงเหรอ...ขิงมาเหรอวันนี้”
สต๊าฟ 2 ดี๊ด๊าบอก “ค่ะ...น้องขิงพาน้องไผทมาค่ะ”
แนวหน้างง “ชื่ออะไรนะ..ผัดไทยเหรอ”
สต๊าฟ 3 ตาเป็นประกาย “ไผทค่ะ หล่อมาก...น่ารักมาก...ใช่เลย โรเมโอต้องคนนี้เลย”
จากนั้นสต๊าฟทุกคนก็สุมหัวกันกรี๊ด “แอร๊ยยย”
แนวหน้าส่ายหัวระอาใจ รีบเดินเข้าไปด้านใน มีสต๊าฟตามเข้าไปด้วย
เรื่องเต็มน่ารัก ตอนที่ 1/1 24 เม.ย. 2557
ท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร รถติดไฟแดงยาวเหยียดเป็นแพ ส่วนบนถนนผู้คนเดินเบียดเสียดยัดเยียด สวนกันขวักไขว่ไปมา ด้านบนรถไฟฟ้าบรรทุกผู้โดยสารแน่นวิ่งทะยานผ่านไป ทุกอย่างดูเร่งร้อนแข่งกับเวลา
ณ มุมหนึ่งย่านกลางใจเมืองในกรุงเทพฯ เป็นออฟฟิศบริษัท GNN บริษัทผลิตภาพยนตร์สารคดีชื่อดังอันดับต้นๆ ของไทย ที่นี่เป็นกึ่งบ้านกึ่งออฟฟิศ สวยงาม ดูดี และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมยุค 70 สวยงาม แต่ไม่ได้หรูหราอะไรนัก
“อะไรนะ...ฮวาซา...คืออะไรอ่ะ” เสียงจีจี้ ดังขึ้น
สามกำลังหลักของ GNN จีจี้ สาวนักขายคนเก่ง นาย นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เจ้าของบริษัท และ แนวหน้า น้องชายของนาย ผู้กำกับโฆษณาและครีเอทีฟรุ่นใหม่ไฟแรง มีไอเดียสุดบรรเจิดในการคิดสร้างสรรค์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับ นั่งคุยกึ่งประชุมกันอยู่ในห้องอเนกประสงค์
จีจี้ทำหน้างุนงงสงสัยเต็มที่ นายพยายามอธิบายอย่างใจเย็น ส่วนแนวหน้านั่งฟังไปจิ้มไอแพดเล่นไปด้วย
“ทำไมมันเรียกยากอย่างนั้นล่ะ คุณนาย”
นายชะงัก “บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกนายเฉยๆ หรือจะเรียกที่รักก็ได้แต่อย่ามาเรียกผมว่าคุณนาย ขอร้อง”
แนวหน้าถามขึ้นมือและตายังง่วนอยู่กับแพด “แล้วมันคืออะไรล่ะเฮีย ไอ้กัวซาเนี่ย”
“ฮวาซา...” นายพูดชัดๆ “ฮะ - วา - ซา...คือประเทศที่เพิ่งประกาศตัวเป็นสาธารณรัฐใหม่ แบ่งเป็นฮวาซาเหนือ และฮวาซาใต้ ตั้งอยู่ตรงพรมแดนระหว่างพม่ากับจีน”
จีจี้บ่นงึม “ประเทศอะไรชื่อพิลึกพิลั่น ยังกับสมุนไพรล้างพิษตับ”
“อย่าไปสนใจเรื่องชื่ออะไรเลย...มันสำคัญที่ว่าตอนนี้ฮวาซาใต้จะมีการทำหนังสารคดีแนะนำประเทศ ซึ่งจะต้องเป็นงานใหญ่แน่ๆ และสำหรับประเทศไทยเรา บริษัทที่ได้รับเลือกให้ไปเสนอโครงงานกับท่านประธานสาธารณรัฐก็คือ...”
จีจี้ต่อให้ “GNN ของเรา?”
“ถูกต้อง” นายบอก
จีจี้ร้องกรี๊ดแล้วโผเข้ากอดนายอย่างดีใจ
นายบอกด้วยท่าทีมุ่งมั่น “บริษัทของเราต้องได้งานชิ้นนี้ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของGNN”
แนวหน้าออกตัว “แต่ผมไม่อยากทำอ่ะ ผมไม่ชอบชื่อประเทศนี้”
ทั้งนายและจีจี้เหลียวขวับมามองแนวหน้าอย่างคุกคามโดยพร้อมเพรียง นายคว้าคอเสื้อน้องชายและดึงขึ้นมา
“แต่นายต้องทำ ชั้นจะไม่ยอมพลาดงานชิ้นนี้เป็นอันขาด นายจะต้องคิด format เจ๋งๆ พร้อมนำเสนอมาภายในวันนี้ แล้วก็เตรียมตัวจัดกระเป๋าเดินทางไว้ได้เลย เข้าใจมั้ย...ไอ้น้องชาย”
นายจ้องน้องชายอย่างคุกคามต่อ แนวหน้ากลืนน้ำลายลงคออย่างหวาดๆ
เช้าตรู่วันนี้ นาย แนว และจีจี้ พากันเดินออกมาจากสนามบินเล็กๆ บริเวณชายแดนพม่า หลังเครื่องบินลำเล็กๆ แบบใบพัด พาทั้งสาม และ ผู้โดยสารอื่นๆ ไม่กี่คน มาบินลงอย่างรอดปลอดภัย
นายเหลียวมองไปรอบๆ ตัว
จีจี้บ่นๆ “นี่มันมีบ้านเมืองจริงๆ เหรอคุณ มองลงมาจากเครื่องบินไม่เห็นมีตึกอะไรเลย มีแต่ป่าเขา”
แนวหน้าหยิบเอากล้องมาถ่ายรูปรอบตัวอย่างสนใจ
“อย่าห่วงเลย ทางกระทรวงการวังของฮวาซาบอกว่าจะส่งรถมารับที่สนามบินนี่ เราคงอยู่ที่นี่กันอย่างหรูหรากันเชียวล่ะ”
แนวหน้าชะงักมือที่ถ่ายรูปอยู่
“นั่นรึเปล่า รถที่จะมารับเรา”
ทุกคนหันไปมอง อึ้ง งง เมื่อเห็นรถจี๊ปเก่าๆ คันหนึ่งขับเข้ามาจอด ชายในเครื่องแบบทหารลงมาจากรถแล้วเดินตรงมา ทุกคนกลืนน้ำลาย
ทหารทำความเคารพ “ยินดีต้อนรับครับผม..เราต้องนั่งรถไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะถึงสาธารณรัฐฮวาซาใต้ ขอเชิญขึ้นรถครับ”
จีจี้สะอึก “ชั่วโมงกว่า...ในรถคันนี้นะเหรอค่ะ”
“ประเทศของเรามีแต่เทือกเขา ถ้าไม่ใช้รถแบบนี้คงไปไม่ไหวหรอกครับ” ทหารว่า
ทหารกุลีกุจอช่วยจีจี้ถือกระเป๋า ทั้ง 3 คนมองหน้ากัน ยิ้มแหยๆ
รถจี๊ปแล่นมาตามถนนเขตชายแดนไทย - ราชอาณาจักรฮวาซาใต้ บริเวณแถบตะวันออกเฉียงเหนือ รอยต่อของไทย-กัมพูชา-ลาว เป็นเขตป่าเขาสุดลูกตา แลเห็นพืชพรรณอุดมสมบูรณ์เขียวขจี
รถจี๊ปกำลังแล่นปุเลงๆ มา มีจีจี้ นายและแนวหน้า นั่งตัวโยนไปมาตามจังหวะการเด้งของตัวรถที่กำลังวิ่งเข้าสู่หนทางกันดารลูกรัง ชื้นเย็น ป่าเขาสูง
นายถ่ายรูปข้างทางอย่างสนุกสนาน แนวหน้าเปิดไอแพดดูข้อมูล แต่จีจี้ที่นั่งข้างหน้าพูดโทรศัพท์ไม่หยุด
“เฮ้ย ฉันมากันแค่วันสองวันก็กลับ..โอย ไม่สบาย ไม่สนุกอะไรทั้งนั้นแหละแก” รถกระเทือนเด้งไปมา “โอ๊ย..โอ๊ย...ไม่ได้มาถ่าย มาคุยงาน ลูกค้านัดมา”
จีจี้คุยต่อ “เอ้อ ก็นั่นสิ” หล่อนเบาเสียงลงหันสีข้างให้ทหารพลขับ “ถ้าฉันรู้ว่าต้องลำบากลำบน..ถ่อมาไกลขนาดนี้ คงไม่มาหรอก ให้ไปคุยกรุงเทพฯยังจะดีซะกว่า” แล้วดังขึ้นอย่างเก่า “โหล หา..อ๋อ ที่ไหน ที่...” หันไปหาจะถามนาย พบว่านายยังถ่ายรูปอยู่ เลยไม่เรียก “ซา...ซาซา...รึ ซาฮา ไรนี่ละ”
แนวหน้าเงยหน้าบอก “ฮวาซาจ้า...เจ๊”
จีจี้ไม่ได้ฟังเม้าท์ติดลม “ไม่รู้ ฉันก็ไม่เคยมา มีแต่ป่าแต่เขา กับทางแย่ๆ..โอย ก้นระบมไปหมดละเนี่ย” รถเด้งกระเทือนไปมาอีกระลอก
“โอ้ว...โอ๊ย”
นาย แนวหน้าและจีจี้ ร้องเสียงหลง เพราะรถจี๊ปลอยตัวขึ้น จนทุกคนตัวเด้งลอยไปตามๆ กัน โทรศัพท์ร่วงจากมือจีจี้
รถจี้ปกำลังขับตะลุยข้ามลำธารน้ำที่มีแต่กรวดหิน จนน้ำกระเซ็นขึ้นมาที่กระจกรถ ทั้งสามร้องโอ๊วๆไปตามจังหวะกระเด้งของตัวรถ พลันนายเหลือบไปเห็นนกตัวโตอยู่ไม่ไกลที่ริมลำห้วย
นายร้องสียงดัง ตามจังหวะกระเด้งพอดี มองไปชี้ให้คนอื่นดู “กระทุง กระทุง กระทุง จีจี้” พอหันไปเห็นจีจี้ไม่ได้สนใจ เลยไปตบสะกิดหัวแนวหน้า “เฮ้ย กระทุง”
นายโวยวายเรียกคนดูแต่ไม่มีใครสนใจ จีจี้ควานหาโทรศัพท์มาคุยต่อ
แนวหน้าอ่านไอแพดดังๆ “ฮวาซามีการปกครองระบอบกษัตริย์ ซึ่งจะเรียกว่าประธานมนตรี ท่านประธานคนปัจจุบัน พระนามว่า ท่านประธานมนตรีธูล มีพระธิดา 1 องค์ที่ประสูติมาจากพระมเหสีที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว”
“หา หะ โหลฟิน..ยังอยู่ใช่มั้ย” หล่อนหันมาตวาด “นี่ เงียบๆ กันหน่อยจีจี้คุยไม่รู้เรื่อง”
นาย กับ แนวหน้า สะดุ้งโหยงก่อนพากันเงียบปาก ปล่อยให้จีจี้พ่นดังแปดหลอดไปคนเดียว
“ไรนะ...อ๋อ ลูกค้าของแก ฉันจัดไว้ให้แล้ว...กลับไปสรุปจบให้ได้เลย...เออ ใช่ ถูก...อะไร...ไผท...เนี่ยนะ จะมาเล่นละครเวที..เอาจริงดิ” แนวหน้าเงยหน้าขึ้นฟัง “ดีออก ชั้นอยากเห็นน้องไผทเล่นละครเวทีกะเค้ามานานแล้ว” สัญญาณเริ่มไม่ดี “โหล...”
แนวหน้าถึงกับหันขวับกลับมา
“โหลฟิน..โหล” จีจี้ก้มดูหน้าจอโทรศัพท์ “ว้า..ไม่มีสัญญาณแล้วอ่ะ”
แนวหน้าหาจังหวะถาม ท่าทีเกรงๆ “เจ๊...ไผท ไหน เล่นละครเวที”
“ทำไม” จีจี้มองๆ ว่าจะมาไม้ไหน “เดี๋ยวนี้ นี่เธอสนใจดารานักร้องกะเค้าด้วยเหรอ”
แนวหน้ารู้ตัว “ก็...เปล่า...ก็...แค่ ถามๆ ไปงั้น”
จีจี้ยิ้มๆ ตอบอย่างภูมิใจนำเสนอ “ก็ ไผท ไพศาลี พระเอกซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังดังเป็นพลุแตกอยู่ตอนนี้นี่ละ จะไผทไหนล่ะ ฟินมันบอกว่า..รัชดาลัยโทร.มาขอคิวไปเล่น ฟินจะไม่เอา แต่ไผทมันอยากเล่น”
แนวหน้าเผลอรำพึง
“หน้าอย่างไอ้ไผทน่ะเหรอ...อยากเล่นละครเวที”
แนวหน้าถามด้วยน้ำเสียงดูแคลน และมีสีหน้าอึ้งๆ งงๆ กับคำตอบเมื่อครู่ ภาพอดีต เมื่อ 6 ปีก่อน ตอนเป็นนักศึกษาผุดขึ้นมาในห้วงคิดครีเอทีฟหนุ่ม
เย็นวันนั้น มีกิจกรรมของชมรมการละคร ภายในหอประชุมมหาวิทยาลัย
ส่วนที่ด้านหน้ามีสต๊าฟหญิงในชุดนักศึกษา 2-3 นาง ออกอาการดี๊ด๊า กระซิบกันคิกคักๆ อยู่แล้ว ขณะที่แนวหน้าเดินเข้ามามาดเข้มในฐานะ ประธานชมรมการละคร
“หัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากใช่ไหม...บอกเลยนะ ถ้าวันนี้ยังหาพระเอกไม่ได้ พี่ล้มจริงๆ นะ โปรเจ็คท์นี้”
สต๊าฟ 1 บอก “พี่แนว...ใจเย็นๆ ค่ะ ดูวันนี้มีคนมาออดิชั่นคนนึงเป็นน้องปี 2 มาจากคณะวิศวะ” พลางหันไปทางเพื่อนแล้วสุมหัวกันกรี๊ดด...กับสต๊าฟที่เหลือ “แอร๊ยยย”
แนวหน้าหมั่นไส้ “อะไร โดนใครสาดน้ำมนตร์หรือไง”
“พี่แนวไปดูเลย..ขิงกำลังซ้อมให้เขาอ่านบทอยู่” สต๊าฟ 1 บอก
แนวหน้า หน้าตาดีใจ “หา...ขิงเหรอ...ขิงมาเหรอวันนี้”
สต๊าฟ 2 ดี๊ด๊าบอก “ค่ะ...น้องขิงพาน้องไผทมาค่ะ”
แนวหน้างง “ชื่ออะไรนะ..ผัดไทยเหรอ”
สต๊าฟ 3 ตาเป็นประกาย “ไผทค่ะ หล่อมาก...น่ารักมาก...ใช่เลย โรเมโอต้องคนนี้เลย”
จากนั้นสต๊าฟทุกคนก็สุมหัวกันกรี๊ด “แอร๊ยยย”
แนวหน้าส่ายหัวระอาใจ รีบเดินเข้าไปด้านใน มีสต๊าฟตามเข้าไปด้วย