เมื่อเริ่มรู้สึกกลัวใจตัวเอง เราชอบเขาแล้วใช่ไหม

โดยส่วนตัวนะค่ะ ดิฉันไม่ใช่คนสวยไรมาก ไม่ใช่คนนิสัยดีขี้วีนขี้เหวี่ยง การที่จะมีใครสักคนเข้ามานี่ก็นานๆที
   
    จนกระทั่งปจบ.
    มีคนหนึ่งที่เหมือนดิฉันรู้จักมานานล่ะ พอดิฉันเริ่มจะชอบ เขาก็เริ่มแสดงออกชัดเจนว่าที่เขาเข้ามาคุยนี่ ก้เพราะไม่ได้คิดอะไร ดิฉันแค่เป็นเพื่อน(รู้สึกเฟลหน่อยๆ)
    มีอีกคนหนึ่งซึ่งตอนแรกเขาแสดงออกชัดเจนว่ามาจีบ แต่ดิฉันปฏิเสธไป เพราะเราไม่ชอบจริงๆ ยังไงก็ไม่ชอบ ถ้าไม่ยอมเป็นเพื่อนจะไม่คุยด้วยอีก
    ที่ว่าไม่มีวันชอบนี่ก็เพราะ เขานั้นไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนในภาควิชาสักเท่าไหร่ ดีแต่ปากถึงเวลาทำก็ทำไม่ได้ เขาตัวเหม็น มีกลิ่นตัว5555 เป็นที่รังเกียจของเพื่อนหลายๆคน เขามีเพื่อนเพียงแค่คนเดียว
    ซึ่งแน่นอนดิฉันก็เออออห่อหมกไปกับคนอื่นด้วย ไม่ค่อยเข้าไปคุย(กลัวโดนล้อ โดนแซว จากทั้งคนในกลุ่ม และเป็นที่ซุบซิบของคนอื่นในภาควิชา) แต่ถ้าถามโดยส่วนตัวดิฉันรังเกียจไหม ก็คุยๆเป็นเพื่อนปกติได้ค่ะ
   
    แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ดิฉันเกิดวิกฤตการเรียน จะเอฟแหล่ไม่เอฟแหล่ ดิฉันก็ไม่อยากดรอป แต่เอาไงดีจะให้เข้าใจในวิชานี้ก็ไม่ทันล่ะ เข้าเรียนก็ไม่เคยเข้า พอจะเข้าก็ตามไม่ทันล่ะ จะขอความช่วยเหลือจากคนในกลุ่ม ตัวเพื่อนเขาเองก็จะไม่รอดยุล่ะ คนที่พอช่วยได้เขาก็สอนไม่เป็น ถ้าจะถามคือเอาโจทย์มาถามเลย ซึ่งเนื้อหาดิฉันยังไม่เข้าใจเลย จะให้ทำโจทย์ได้อย่างไร
    ก็เริ่มมองหาว่าใครจะพอช่วยดิฉันได้บ้าง บอกเลยค่ะ สุดท้ายแล้วก็ต้องหันไปหาเขา เพราะเขาดูเป็นคนเดียวที่ยินดีช่วยดิฉัน แต่ไม่ว่าเป็นใครเขาก็ช่วยนะค่ะ ประเด็นคือคงไม่มีใครอยากไปคุยกับเขาหรอกค่ะ ต่อมาเขาก็เอาชีท(ที่เขาเรียนพิเศษมาให้) มาสอนใต้หอหญิง(หอใน) จนสอบย่อยครั้งหลังmidtermก็ผ่านไป ทำได้ไหมก็ทำได้ค่ะ ทำได้ระดับไหน ถ้าเทียบก็เพื่อนคงเป็นอะไรที่แย่อ่ะค่ะ เพื่อนคงงงว่านี่ทำได้แล้วหรอ แต่ถ้าเทียบกับตัวดิฉันเอง ที่แทบเริ่มจากศูนย์ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจค่ะ ^^
   
    และแล้วการสอบปลายภาคก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว(แต่ดิฉันก็ยังมาเขียน pantip) ดิฉันได้ขอความช่วยเหลือจากเขาอีกครั้ง ว่าขอชีทที่แกเรียพิเศษหน่อย

    ต้องเท้าความไปในช่วงสอบย่อยว่า ระหว่างที่สอนก็ได้มีการพูดคุยกันปกติ ดิฉันก็บอกไปว่ารู้ไหมอะไรทำให้เพื่อนไม่คุยหรือรังเกียจแก และเล่าเรื่องดิฉันว่าดิฉันเป็นโรคMS(ปลอกประสาทอักเสบ)นะ และมีอีกหลายเรื่องราวที่คุยกัน ก็ทำให้รุ้จักกันมากขึ้น มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนที่เพื่อนบอกไว้จริงๆคือ มันขี้โม้มากกกก ส่วนดิฉันเชื่อไหมค่ะ ดิฉันเป็นตัวของตัวเองมากกกก ด่าตะโกนทำตัวตัวแบบไม่ต้องห่วงสวยกันเลยทีเดียว เอาแต่ใจเต็มที่มาก 55555 เวลาอยู่กับมัน

    ชีทที่ขอ ก็ขอตั้งแต่วันอังคาร ในวันพุธก็เอามาให้ซะดึก ร้านถ่ายเอกสารเลยปิด แถมเอามาก็ไม่ครบ ที่ว่าเอามาให้ได้นี่เพราะดิฉันโทรจิกนะค่ะ แต่ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกดีคือ เขาเอายาแผนไทยมาให้ บอกว่าช่วยรักษาโรคที่ดิฉันเป็นได้ ถามว่าดิฉันกินไหมดิฉันรอกลับบ้านแล้วกินตอนยุกับพ่อแม่ดีกว่า ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาพ่อแม่จะได้ช่วยเหลือทัน(ไม่เชื่อนั่นแหละค่ะ) แต่ซึ้งใจตรงที่ว่าเขาอุตส่าเอายามาให้มากกว่า(พ่อของเขาเหมือนพอมีความรู้ทางด้านนี้ ทำยาสมุนไพรขาย แต่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพนะค่ะ(ให้เชื่อได้ไหม)) ซึ้งใจตรงน้ำใจที่เขามีมากกว่า
    เรื่องชีทก็พลัดวันมาเรื่อยๆจนเป็นวันเสาร์ ดิฉันเริ่มคิด เห้ยมันก็ชักจะเหมือนที่เขาพูดกันล่ะนะ ดิฉันเริ่มโกรธ พอเช้าวันเสาร์ดิฉันตื่นแปดโมงเช้า กะโทรหามันเลยแต่รู้ว่าคงยังไม่ตื่น เลยรอจน10โมงก็โทรไป เป็นไปตามคาด มันรับด้วยเสียงงัวเงีย ดิฉันก็บอกให้มันรีบตื่น แล้วชวนมันคุยไปสักพัก มันจะได้นอนต่อไม่ได้(ใช้มุขเดียวกับที่พ่อชอบทำกับดิฉันเวลาโทรมาปลุก)
    โทรไปหาอีกครั้งว่ามันจะเข้ามาตอนไหน มันบอกบ่ายๆ ดิฉันก็รอ พอบ่ายๆโทรไปบอกว่าทำงานก่อน เดี๋ยวเข้าไปตอนหกโมงเย็น พอหกโมงเย็นมันก็ยังไม่มา(ตอนนั้นดิฉันเริ่มอารมณ์ขึ้น) ทุ่มนึงก็โทรไป มันบอกว่าทำงานอยู่ แล้วมันมีเรียนตอน2ทุ่ม ดิฉันปรี๊ดแตกเลย "ต้องเอามาให้ก่อนออกไปเรียนพิเศษ เค้าไม่รออีกแล้ว ไม่เอาพรุ่งนี้ ทำไมแกเป็นคนงี้ว่ะ แมนป่าวว่ะ รู้ไหมดูปัญญาอ่อนมากอ่ะ เหยาะแหยะ จะทำไรได้บ้างว่ะ..." บลาๆยาวๆไปด่าแบบไม่คิดเลยว่าบางอันก็เหมือนเข้าตัวเอง555+ แล้วดิฉันก็ไม่ยอมวางสาย "ลุกจากงานที่ทำเดี๋ยวนี้ หาชีทที่จะเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่เจอไม่วาง" โทรจนมันหาชีทครบเลยวางไป 5นาทีผ่านไปก็โทรใหม่555+ ปรากฏว่ามันอาบน้ำ(@%$&*มันจะสองทุ่มอยู่แล้ว) ก็ไม่ยอมวางบอก ถ้ายังอาบน้ำไม่เสร็จ แล้วยังไม่ไปถึงร้านไก่(ที่ฝากมันซื้อก่อนมันเข้ามา) จะไม่วาง โหค่าโทรสับบานตะไทเลยค่ะ พอมันมาถึงร้านไก่เลยวาง และลงไปรอมันข้างล่างใต้หอ แวะเข้าห้องน้ำแปป ออกมาเจอมันกะลังถ่ายเอกสารให้อยู่ พร้อมไก่(อิอิ มีความสุข)

    ได้คุยกันเล็กน้อย ได้รู้ว่ายาที่มันเอามาให้นี่เป็นยาถ่ายพยาธิ(ดีที่ยังไม่กิน) มันบอกว่าโรคที่แกเป็นอ่ะ เกิดจากพยาธิเยอะจนมันขึ้นไปกินปลอกประสาท(555+ ฟังล่ะอดขำไม่ได้จริงๆ) สุดท้ายก็ผ่านไป จบ... ปล.มันก็ยังคงขี้โม้และอวดรวยอีกตามเคย

    หลังจากเหตุการณ์นั้นรู้สึกพอใจและเริ่มรู้สึกดี(มั้ง) ตอนโทรตามแล้ววีนเหวี่ยง ไม่ยอมวางถ้าไม่ได้ดั่งใจ มันไม่โกรธสักนิด(หรือโกรธแต่ไม่แสดงออกหว่า) ถ้าเป็นคนอื่นดิฉันก็ไม่กล้าทำนิสัยแบบนี้แน่ การคุยกับมันเลยกลายเป็นความรู้สึกสบายใจแบบแปลกๆ กลัวว่าจะชอบมันจังเลย เอะหรือชอบไปแล้ว

    ถามว่าโดนเพื่อนล้อไหม ก็โดนค่ะ แต่ก็บอกไปเลยว่า "ณ จุดๆนี้เป็นใครเอาหมดอ่ะ เพราะจะเอฟแล้ว" 555+

ทุกคนคิดว่าดิฉันชอบมันรึป่าวค่ะ หรือแค่รู้สึกดี
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คนๆนี้คือคนที่ทำให้คุณได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ โดยไม่ต้องคิดมาก และรับได้ที่คุณเป็นแบบนี้
ในขณะเดียวกัน คุณก็ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น

จุดเริ่มต้นของความชอบ คือการยอมรับในตัวตนซึ่งกันและกัน

อืม.. ก็ไม่แน่นะครับ คุณอาจจะชอบเค้าจริงๆแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่