สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนค่ะ วันนี้เรามีเรื่องจะมาถามเพื่อนๆ ค่ะ ว่าแม่เราผิดอะไร ทำแบบนี้เดือดร้อนใคร แล้วจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า แม่เราทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทขายเครื่องสำอางค่ะ แม่เราเป็นลูกจ้างที่นั่นนานกว่า 20 ปี ค่ะ (ไม่เคยขอลางานด้วยเรื่องไร้สาระ หรือเรื่องที่ไม่จำเป็น)
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ร้านที่แม่เราทำงาน ครอบครัวเจ้าของร้านขอตัวไปต่างประเทศเป็นเวลาประมาณ 10 วัน ค่ะ ปกติเวลาที่ร้านปิดทำการ แม่เราก็จะได้หยุด โดยที่ไม่ได้โดนหักเงินเดือนแต่อย่างใดค่ะ และในระหว่างที่ร้านปิด แม่เราก็ได้หยุดพักไปในตัวค่ะ แต่ปีนี้หัวหน้าของแม่เรา เค้าขอให้แม่เราไปทำงานที่ห้างแห่งหนึ่งค่ะ แม่เราเลยทำเรื่องขอลาหยุดสงกรานต์ 3 วัน ค่ะ คือวันที่ 13-14-15 ค่ะ แต่สุดท้าย แม่เราก็เปลี่ยนเป็นขอลาหยุดวันที่ 13-15-17 ค่ะ แต่พอมาถึงวันที่ 13 ค่ะ ญาติฝ่ายพ่อ โทรมาบอกว่า ปู่เสีย แม่ก็เลยจำเป็นที่จะขอลา 7 วัน แต่หัวหน้าแม่เราเค้าไปยอมให้แม่เราลา เค้าบอกว่า "พ่อของแฟนเสีย ทำไมต้องไปงานศพเค้าด้วย พ่อแฟน ไม่ใช่พ่อเรา" แม่เราเค้าก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรนะคะ ตกเย็นวันที่ 13 ครอบครัวเราทั้ง 4 คน (พ่อ แม่ เรา และน้องชาย) ก็ออกเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ ไป จ.ลพบุรี ค่ะ แต่มีบางสิ่งที่แม่เราลืมเอามาด้วย นั่นคือ สายชาร์จแบต แม่บอกพ่อในกลับรถไปเอา แต่พ่อบอกว่า "เดี๋ยวไปไม่ทัน"
ตอนที่ครอบครัวเราไปถึงที่นั่น ก็เป็นเวลาเช้ามืด ก็ได้มีครอบครัวน้องสาวของพ่อ และลูกพี่ลูกน้องกับย่าของเรา มารออยู่ที่บ้านพี่สาวพ่อแล้วค่ะ เค้ามากัน 3 คน จาก จ.นครปฐม ค่ะ เวลาประมาณ 9 โมงเช้า พวกเรา 3 ครอบครัว พร้อมกับ พี่และย่า ก็ได้ออกเดินทาง ไป จ.สระบุรี ค่ะ ไปถึงที่วัด ก็เห็นญาติพี่น้องกำลังวุ่นๆ กันอยู่เลยค่ะ ตกดึกมา งานศพก็ดำเนินต่อไปตามปกติค่ะ แต่แม่เราก็หวั่นๆ เรื่อง งานที่ลามาค่ะ แต่ก็ปล่อยๆ มันไป เพราะถึงจะมีปัญหาแค่ไหน แต่เรื่องของงานศพปู่สำคัญจริงๆ และบ้านเราอยู่ไกลกว่าครอบครัวอื่น
วันเวลาผ่านไป 5 วัน (นับตังแต่ที่ปู่ย้ายมาที่วัด) เข้าวันที่ 6 ก็เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่ครอบครัวเรา กับญาติๆ จะได้เห็นร่างปู่ที่ไร้วิณญาณ ปู่ มีลูกทั้งหมด 12 คน (เหลือ 11 คน เนืองจากถึงแก่กรรม) จากภรรยา 3 คน (ย่าเราเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย)
ขอนอกเรื่อง ทุกคนเข้าใจมั๊ยคะ ว่าญาติๆ เรามีกันหลายคน และ ปู่กับย่าเรา รักพ่อเรามากๆ และลูกหลายทุกคนต้องไป เพราะมันสำคัญ คนทั้งคน งานศพ จัดแค่ 6 วัน ถ้าไม่ให้แม่เรามางานศพปู่ แล้วจะให้แม่เราไปทำงานแทนคนอื่นที่เค้าหยุดหรอ ? ทั้งๆ ที่แม่เราก็ นานๆ ที หยุด นานถึงนานที่สุด ปีหนึ่งแม่เราแทบไม่ได้หยุดงานเลย ถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีเรื่องสำคัญอะไร แม่เราเค้าก็ไม่หยุดหรอกค่ะ
กลับเข้าเรื่องค่ะ หลังจากนั้น 2 วัน ครอบครัวเรา ก็ได้กลับเชียงใหม่ค่ะ เพราะจัดการกับงานศพปู่เรียบร้อยแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่ง ที่แม่เราจัดการไม่ได้สักที คือเรื่องงานค่ะ กับมาอีกที แม่เราก็ต้องไปทำงานเลย เพราะที่ร้านเปิดทำการแล้ว หัวหน้าแม่เราเค้าบอกแม่เราว่า "วันที่หยุดไป จะคิดซะว่า หยุดลาพักงาน" นั่นก็คือ ขาดงานค่ะ และจะโดนหักเงินเดือนทั้งหมด 2,000 บาท เพื่อนๆ ทุกคนคิดว่าไงคะ แม่เราผิดหรอคะ หรือว่ายังไง ครอบครัวเราเดือนร้อนจริงๆ ค่ะ แม่เราก็พยายามพูด และบอกถึงสาเหตุที่ต้องลางานนานขนาดนั้น แต่หัวหน้าเค้าก็บอกให้แม่เราไปคุยกับฝ่ายบุคคลเอาเอง แต่ฝ่ายบุคคลเค้าก็ว่าตามนั้นค่ะ คือ หัวหน้าว่าไง ฝ่ายบุคคลก็ว่างั้นค่ะ แต่สุดท้ายมา หัวหน้าแม่เราบอกว่า "เดี๋ยวจะไปพูดกับฝ่ายบุคคลให้ละกันนะ" (เรื่องเงินเดือน) แม่เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะเรื่องนี้ มันขึ้นอยู่กับหัวหน้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องเอาฝ่ายบุคคลมาอ้างหรอก
ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะคะ เรื่องเป็นไงต่อ เดี๋ยวจะมาอัพใหม่นะคะ
ไปงานศพพ่อสามี แม่เราผิดมั๊ย ?! (ช่วยตอบทีค่ะ เคลียดมากๆ แม่จะโดนหักเงินเดือน !!)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า แม่เราทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทขายเครื่องสำอางค่ะ แม่เราเป็นลูกจ้างที่นั่นนานกว่า 20 ปี ค่ะ (ไม่เคยขอลางานด้วยเรื่องไร้สาระ หรือเรื่องที่ไม่จำเป็น)
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ร้านที่แม่เราทำงาน ครอบครัวเจ้าของร้านขอตัวไปต่างประเทศเป็นเวลาประมาณ 10 วัน ค่ะ ปกติเวลาที่ร้านปิดทำการ แม่เราก็จะได้หยุด โดยที่ไม่ได้โดนหักเงินเดือนแต่อย่างใดค่ะ และในระหว่างที่ร้านปิด แม่เราก็ได้หยุดพักไปในตัวค่ะ แต่ปีนี้หัวหน้าของแม่เรา เค้าขอให้แม่เราไปทำงานที่ห้างแห่งหนึ่งค่ะ แม่เราเลยทำเรื่องขอลาหยุดสงกรานต์ 3 วัน ค่ะ คือวันที่ 13-14-15 ค่ะ แต่สุดท้าย แม่เราก็เปลี่ยนเป็นขอลาหยุดวันที่ 13-15-17 ค่ะ แต่พอมาถึงวันที่ 13 ค่ะ ญาติฝ่ายพ่อ โทรมาบอกว่า ปู่เสีย แม่ก็เลยจำเป็นที่จะขอลา 7 วัน แต่หัวหน้าแม่เราเค้าไปยอมให้แม่เราลา เค้าบอกว่า "พ่อของแฟนเสีย ทำไมต้องไปงานศพเค้าด้วย พ่อแฟน ไม่ใช่พ่อเรา" แม่เราเค้าก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรนะคะ ตกเย็นวันที่ 13 ครอบครัวเราทั้ง 4 คน (พ่อ แม่ เรา และน้องชาย) ก็ออกเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ ไป จ.ลพบุรี ค่ะ แต่มีบางสิ่งที่แม่เราลืมเอามาด้วย นั่นคือ สายชาร์จแบต แม่บอกพ่อในกลับรถไปเอา แต่พ่อบอกว่า "เดี๋ยวไปไม่ทัน"
ตอนที่ครอบครัวเราไปถึงที่นั่น ก็เป็นเวลาเช้ามืด ก็ได้มีครอบครัวน้องสาวของพ่อ และลูกพี่ลูกน้องกับย่าของเรา มารออยู่ที่บ้านพี่สาวพ่อแล้วค่ะ เค้ามากัน 3 คน จาก จ.นครปฐม ค่ะ เวลาประมาณ 9 โมงเช้า พวกเรา 3 ครอบครัว พร้อมกับ พี่และย่า ก็ได้ออกเดินทาง ไป จ.สระบุรี ค่ะ ไปถึงที่วัด ก็เห็นญาติพี่น้องกำลังวุ่นๆ กันอยู่เลยค่ะ ตกดึกมา งานศพก็ดำเนินต่อไปตามปกติค่ะ แต่แม่เราก็หวั่นๆ เรื่อง งานที่ลามาค่ะ แต่ก็ปล่อยๆ มันไป เพราะถึงจะมีปัญหาแค่ไหน แต่เรื่องของงานศพปู่สำคัญจริงๆ และบ้านเราอยู่ไกลกว่าครอบครัวอื่น
วันเวลาผ่านไป 5 วัน (นับตังแต่ที่ปู่ย้ายมาที่วัด) เข้าวันที่ 6 ก็เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่ครอบครัวเรา กับญาติๆ จะได้เห็นร่างปู่ที่ไร้วิณญาณ ปู่ มีลูกทั้งหมด 12 คน (เหลือ 11 คน เนืองจากถึงแก่กรรม) จากภรรยา 3 คน (ย่าเราเป็นภรรยาถูกต้องตามกฏหมาย)
ขอนอกเรื่อง ทุกคนเข้าใจมั๊ยคะ ว่าญาติๆ เรามีกันหลายคน และ ปู่กับย่าเรา รักพ่อเรามากๆ และลูกหลายทุกคนต้องไป เพราะมันสำคัญ คนทั้งคน งานศพ จัดแค่ 6 วัน ถ้าไม่ให้แม่เรามางานศพปู่ แล้วจะให้แม่เราไปทำงานแทนคนอื่นที่เค้าหยุดหรอ ? ทั้งๆ ที่แม่เราก็ นานๆ ที หยุด นานถึงนานที่สุด ปีหนึ่งแม่เราแทบไม่ได้หยุดงานเลย ถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีเรื่องสำคัญอะไร แม่เราเค้าก็ไม่หยุดหรอกค่ะ
กลับเข้าเรื่องค่ะ หลังจากนั้น 2 วัน ครอบครัวเรา ก็ได้กลับเชียงใหม่ค่ะ เพราะจัดการกับงานศพปู่เรียบร้อยแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่ง ที่แม่เราจัดการไม่ได้สักที คือเรื่องงานค่ะ กับมาอีกที แม่เราก็ต้องไปทำงานเลย เพราะที่ร้านเปิดทำการแล้ว หัวหน้าแม่เราเค้าบอกแม่เราว่า "วันที่หยุดไป จะคิดซะว่า หยุดลาพักงาน" นั่นก็คือ ขาดงานค่ะ และจะโดนหักเงินเดือนทั้งหมด 2,000 บาท เพื่อนๆ ทุกคนคิดว่าไงคะ แม่เราผิดหรอคะ หรือว่ายังไง ครอบครัวเราเดือนร้อนจริงๆ ค่ะ แม่เราก็พยายามพูด และบอกถึงสาเหตุที่ต้องลางานนานขนาดนั้น แต่หัวหน้าเค้าก็บอกให้แม่เราไปคุยกับฝ่ายบุคคลเอาเอง แต่ฝ่ายบุคคลเค้าก็ว่าตามนั้นค่ะ คือ หัวหน้าว่าไง ฝ่ายบุคคลก็ว่างั้นค่ะ แต่สุดท้ายมา หัวหน้าแม่เราบอกว่า "เดี๋ยวจะไปพูดกับฝ่ายบุคคลให้ละกันนะ" (เรื่องเงินเดือน) แม่เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะเรื่องนี้ มันขึ้นอยู่กับหัวหน้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องเอาฝ่ายบุคคลมาอ้างหรอก
ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะคะ เรื่องเป็นไงต่อ เดี๋ยวจะมาอัพใหม่นะคะ