หมดตัวง่ายๆด้วยหุ้น ตอนที่ 3 : กับดักของ Dividend Yield
นักลงทุนแต่ละคนต่างมีวิธีการคัดสรรหุ้นที่แตกต่างกันไป บางคนดูค่า P/E บางคนดู Dividend Yield (อัตราการจ่ายเงินปันผล)
เช่นเดียวกับค่า P/E ที่ผมได้กล่าวถึงในบทความตอนที่แล้ว
Dividend Yield เองก็มีกับดักที่น่ากลัว สำหรับคนที่ยังศึกษาการลงทุนไม่นาน หรือไม่มากพอ
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ที่มาของเงินปันผลนั้นมาจากไหน
ในทุกๆปี บริษัทจะปิดงบการเงิน และสรุปว่า ทั้งปีนั้น บริษัทมีผลประกอบการ ขาดทุน หรือกำไร เท่าไหร่ ต่อหุ้น (Earning Per Share หรือ EPS)
Earning ของบริษัทนั้นส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้เพื่อนำไปลงทุนต่อ หรือเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน ส่วนนี้เรียกว่า Retained Earning
อีกส่วนหนึ่งที่เหลือ คือเงินปันผลที่จ่ายคืนมาให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเรา
มาเข้าประเด็นกันดีกว่า เดี๋ยวจะยาวไป
กับดักหนึ่งที่ผมเห็นบ่อยๆ ในหมู่นักลงทุนที่เริ่มต้นศึกษาการลงทุนกัน ก็คือการมองแต่อดีต ไม่มองไปในอนาคตข้างหน้า
กับดัก: ในปีที่ผ่านมา บริษัท ABC มี Dividend Yield 5% นั่นหมายความว่า บริษัทนั้นจะจ่ายเงินปันผลในทุกๆปีเท่ากับ 5% ของราคาหุ้น
ความจริง: ไม่มีบริษัทไหนในโลกที่สามารถคง Dividend Yield ให้ stable ได้ตลอดไป
กับดัก: ในปีที่ผ่านมาหุ้น ABC จ่ายเงินปันผล 10 บาท ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบัน 50 บาท แบบนี้ถือหุ้นไว้ 5 ปีก็คืนทุนแล้ว
ความจริง: ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผล 10 บาททุกปี สมมุติว่า ปีหน้าบริษัทมี Earning แค่ 5 บาท การจะจ่ายเงินปันผล 10 บาทเท่าปีที่แล้ว บริษัทมีสองทางเลือกคือ
1. เอากำไรสะสมเก่าๆ (Retained Earning) มาจ่าย
2. ไปกู้มาจ่าย
ทางเลือกที่ 1 ก็ทำได้ครับ ไม่ผิด ถ้าไม่มีช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจก็จ่ายปันผลคืนผู้ถือหุ้นให้เค้าไปจัดสรรเงินเอาเอง
ส่วนทางเลือกที่ 2 นี่ถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมองว่า บริษัทนี้ดีจริงๆ ขนาดกำไรลดลง แต่ยังจ่ายปันผลเท่าเดิมได้
หารู้ไม่ว่าหนี้ที่ก่อขึ้นมาใหม่ เพื่อมาจ่ายปันผลให้พวกเรานั้นมันมีดอกเบี้ย ถ้ามองในแง่การลงทุน ก็แทบไม่ต่างจากเราไปกู้เงินมาเองเลย เพียงแค่ราคาหุ้นมันอาจจะยังไม่สะท้อนออกมาเท่านั้นเอง
กับดัก: หุ้น IT ตกลงมาอยู่ราคาเท่านี้ มี Dividend Yield ตั้งเกือบ 8% ไม่ซื้อตอนนี้จะไปซื้อตอนไหน ขนาดตอนราคาแพงกว่านี้ ด๊อกเตอร์เค้ายังซื้อเลย?
ความจริง: เรื่องด๊อกเตอร์ ในจังหวะที่เค้าซื้อเค้ามองอนาคตบริษัทว่าจะดี พอสถานการณ์เปลี่ยน เค้ามองแล้วอนาคตมันไม่ดีเค้าก็ขายทิ้งไปแล้วครับ อย่าไปยึดติดกับอดีต
หากบริษัทมีแนวโน้มผลกำไรที่ลดลงต่อในอนาคต ยังไงเงินปันผลมันก็ต้องลดลงในอัตราส่วนเดียวกันอยู่แล้ว เพราะเงินปันผลมันก็คือส่วนหนึ่งของ Earning
หรือต่อให้บริษัทพยายามจะรักษาระดับเงินปันผลไว้ วันหนึ่งหาก Retained Earning หมด ก็ต้องไปกู้มาจ่าย กู้ไปกู้มากำไรไม่พอจ่ายหนี้ บริษัทก็เจ๊ง ผู้ถือหุ้นก็หมดตัว
การลงทุนมีความเสี่ยง การทดลองทฤษฎีที่ศึกษามา ควรแน่ใจว่าเราได้ศึกษามันอย่างกระจ่างแล้วจริงๆ หรือถ้าจะลองผิดลองถูก (ซึ่งผมก็ลองประจำ) ก็ต้องเตรียมใจรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นครับ
บทความโดย วีรวัฒน์ วงศ์เจริญใหญ่ (Jo-oF-GluE)
Page:
https://www.facebook.com/JoOfGlueInvestmentTalk
ตอนที่ 1:
http://ppantip.com/topic/31437511
ตอนที่ 2:
http://ppantip.com/topic/31461546
ขอบคุณครับ
หมดตัวง่ายๆด้วยหุ้น ตอนที่ 3 : กับดักของ Dividend Yield
นักลงทุนแต่ละคนต่างมีวิธีการคัดสรรหุ้นที่แตกต่างกันไป บางคนดูค่า P/E บางคนดู Dividend Yield (อัตราการจ่ายเงินปันผล)
เช่นเดียวกับค่า P/E ที่ผมได้กล่าวถึงในบทความตอนที่แล้ว
Dividend Yield เองก็มีกับดักที่น่ากลัว สำหรับคนที่ยังศึกษาการลงทุนไม่นาน หรือไม่มากพอ
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ที่มาของเงินปันผลนั้นมาจากไหน
ในทุกๆปี บริษัทจะปิดงบการเงิน และสรุปว่า ทั้งปีนั้น บริษัทมีผลประกอบการ ขาดทุน หรือกำไร เท่าไหร่ ต่อหุ้น (Earning Per Share หรือ EPS)
Earning ของบริษัทนั้นส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้เพื่อนำไปลงทุนต่อ หรือเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน ส่วนนี้เรียกว่า Retained Earning
อีกส่วนหนึ่งที่เหลือ คือเงินปันผลที่จ่ายคืนมาให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเรา
มาเข้าประเด็นกันดีกว่า เดี๋ยวจะยาวไป
กับดักหนึ่งที่ผมเห็นบ่อยๆ ในหมู่นักลงทุนที่เริ่มต้นศึกษาการลงทุนกัน ก็คือการมองแต่อดีต ไม่มองไปในอนาคตข้างหน้า
กับดัก: ในปีที่ผ่านมา บริษัท ABC มี Dividend Yield 5% นั่นหมายความว่า บริษัทนั้นจะจ่ายเงินปันผลในทุกๆปีเท่ากับ 5% ของราคาหุ้น
ความจริง: ไม่มีบริษัทไหนในโลกที่สามารถคง Dividend Yield ให้ stable ได้ตลอดไป
กับดัก: ในปีที่ผ่านมาหุ้น ABC จ่ายเงินปันผล 10 บาท ในขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบัน 50 บาท แบบนี้ถือหุ้นไว้ 5 ปีก็คืนทุนแล้ว
ความจริง: ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผล 10 บาททุกปี สมมุติว่า ปีหน้าบริษัทมี Earning แค่ 5 บาท การจะจ่ายเงินปันผล 10 บาทเท่าปีที่แล้ว บริษัทมีสองทางเลือกคือ
1. เอากำไรสะสมเก่าๆ (Retained Earning) มาจ่าย
2. ไปกู้มาจ่าย
ทางเลือกที่ 1 ก็ทำได้ครับ ไม่ผิด ถ้าไม่มีช่องทางการลงทุนที่น่าสนใจก็จ่ายปันผลคืนผู้ถือหุ้นให้เค้าไปจัดสรรเงินเอาเอง
ส่วนทางเลือกที่ 2 นี่ถือเป็นสัญญาณอันตรายอย่างหนึ่ง สำหรับคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะมองว่า บริษัทนี้ดีจริงๆ ขนาดกำไรลดลง แต่ยังจ่ายปันผลเท่าเดิมได้
หารู้ไม่ว่าหนี้ที่ก่อขึ้นมาใหม่ เพื่อมาจ่ายปันผลให้พวกเรานั้นมันมีดอกเบี้ย ถ้ามองในแง่การลงทุน ก็แทบไม่ต่างจากเราไปกู้เงินมาเองเลย เพียงแค่ราคาหุ้นมันอาจจะยังไม่สะท้อนออกมาเท่านั้นเอง
กับดัก: หุ้น IT ตกลงมาอยู่ราคาเท่านี้ มี Dividend Yield ตั้งเกือบ 8% ไม่ซื้อตอนนี้จะไปซื้อตอนไหน ขนาดตอนราคาแพงกว่านี้ ด๊อกเตอร์เค้ายังซื้อเลย?
ความจริง: เรื่องด๊อกเตอร์ ในจังหวะที่เค้าซื้อเค้ามองอนาคตบริษัทว่าจะดี พอสถานการณ์เปลี่ยน เค้ามองแล้วอนาคตมันไม่ดีเค้าก็ขายทิ้งไปแล้วครับ อย่าไปยึดติดกับอดีต
หากบริษัทมีแนวโน้มผลกำไรที่ลดลงต่อในอนาคต ยังไงเงินปันผลมันก็ต้องลดลงในอัตราส่วนเดียวกันอยู่แล้ว เพราะเงินปันผลมันก็คือส่วนหนึ่งของ Earning
หรือต่อให้บริษัทพยายามจะรักษาระดับเงินปันผลไว้ วันหนึ่งหาก Retained Earning หมด ก็ต้องไปกู้มาจ่าย กู้ไปกู้มากำไรไม่พอจ่ายหนี้ บริษัทก็เจ๊ง ผู้ถือหุ้นก็หมดตัว
การลงทุนมีความเสี่ยง การทดลองทฤษฎีที่ศึกษามา ควรแน่ใจว่าเราได้ศึกษามันอย่างกระจ่างแล้วจริงๆ หรือถ้าจะลองผิดลองถูก (ซึ่งผมก็ลองประจำ) ก็ต้องเตรียมใจรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นครับ
บทความโดย วีรวัฒน์ วงศ์เจริญใหญ่ (Jo-oF-GluE)
Page: https://www.facebook.com/JoOfGlueInvestmentTalk
ตอนที่ 1: http://ppantip.com/topic/31437511
ตอนที่ 2: http://ppantip.com/topic/31461546
ขอบคุณครับ