มือใหม่อย่างฉัน...คงไม่พ้นการสืบค้นหาข้อมูล และ หาหนังสือมาอ่าน เพราะไม่ได้เก่ง Finance
หลายครั้งต่อหลายครั้ง ก็มักจะเห็นกระทู้ว่า ตัวไหนซื้อเท่าไหร่ดี สำหรับฉัน ก็ตามๆ ท่านสาระขันตลอด แต่ก็นั่นแหละ อยากลองฝึกซื้อตัวอื่นๆ ดูบ้าง หรือถึงแม้จะซื้อตาม ก็ราคาไปซะไกลกว่าที่ท่านสาระขันถือทุนอยู่หลายตัว
จึงอยากรู้ว่า ถ้าเราจะแนว VI แล้วหละก็ เน้นซื้อพื้นฐานดี มีเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 6 % (จริงๆ แล้ว 8 น่าจะเหมาะกับฉัน ถ้าถือยาวๆ) ส่วนอัตรากำไรก็ต้องดีๆ สวยๆ หน่อย ที่สำคัญหนี้ไม่เยอะ ฯลฯ แล้วแต่จะดูอะไร ฉันก็ไม่เก่งหรอก คิดคำนวณอะไรก็ได้แค่แบบบ้านๆ บวกลบคูณหารง่ายๆ อย่ามาถามเรื่องกร๊งเรื่องกราฟ ไม่กระดิกเลย (เสียชื่อหมดเลยนะเนี่ย เรียนมาเอาคืนอาจารย์หมด)
เอ้า ทั้งหมดเนี่ย copy มาฝากค่ะ วิธีคำนวณง่ายๆ ลองเอาไปใส่สูตร ใน excel กันดูเล่นๆ จะได้เช็คราคาช่วยตัดสินใจได้นิดส์นึง หรือถ้าอยากจะซื้อหุ้นที่ราคาตรงไหน..จะใช้ไม่ใช้ก็สิทธิ์ของเรา เงินของเรา
ตั้งแต่บันทัดนี้เป็นต้นไป เป็นการ copy & paste มาเน้อ..
คำนวณหา 'ราคา' ของหุ้นปันผล
การลงทุนในตลาดหุ้น ผลตอบแทน ที่ผู้ถือหุ้นทุกคน คาดหวังมีอยู่เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ กำไรจากส่วนต่าง ราคาหุ้น (Capital Gains) และเงินปันผล (Dividend)
เวลาบริษัทมีกำไร ผู้ถือหุ้นจะรับรู้เพียง "นามธรรม" ว่าบริษัทนี้ ผลประกอบการดีขึ้น หรือแย่ลง ถ้าบริษัทไม่จ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นก็ต้องรอลุ้นว่า เมื่อไรราคาหุ้นที่ถืออยู่ จะปรับตัวสูงขึ้น
แต่เงินปันผลนั้น เป็นผลตอบแทนที่เป็น "รูปธรรม" เมื่อไรก็ตามที่บริษัท ประกาศจ่ายปันผล ไม่ว่าราคาหุ้น จะขึ้นหรือลง ผู้ถือหุ้น ก็จะได้รับผลตอบแทน ตามที่บริษัทจ่าย
ในการคำนวณ หามูลค่าหุ้นที่แท้จริง (Intrinsic Value) ทางทฤษฎีการลงทุน จะยอมรับ การประเมิน มูลค่าหุ้น จากเงินปันผล มากที่สุด การประเมินหามูลค่าหุ้น ด้วยวิธีเงินปันผล มีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุด และไม่ซับซ้อน สำหรับนักลงทุนทั่วไป ที่จะใช้คำนวณหาราคาหุ้นปันผล ที่เหมาะสม ก็คือ การคำนวณด้วยวิธี "Dividend Yield Approach" โดยมีสมการว่า ราคาหุ้น (Price) ตามทฤษฎี = เงินปันผลจ่าย (เฉลี่ย 3 ปี) หารด้วย ผลตอบแทน (%) ที่เราคาดหวังจากการลงทุน คูณ 100
เช่นหุ้นสหยูเนี่ยนจ่ายปันผลปีที่ 1 (2541) เท่ากับ 1.20 บาทต่อหุ้น ปีที่ 2 (2542) เท่ากับ 1.25 บาทต่อหุ้น และปีที่ 3 (2543) เท่ากับ 1.25 บาทต่อหุ้น เฉลี่ย 3 ปีจ่ายปันผลที่หุ้นละ 1.23 บาท ถ้าเราคาดหวัง ผลตอบแทนจากเงินปันผล ของสหยูเนี่ยนที่ระดับ 8% ต่อปี ราคาหุ้นสหยูเนี่ยนที่เรายอมจ่าย (สูงสุด) จะเท่ากับ 1.23 บาทต่อหุ้น หาร 8 คูณ 100 เท่ากับหุ้น 15.37 บาท
ความหมาย ก็คือ ราคาตามทฤษฎี ของหุ้นสหยูเนี่ยน ณ ผลตอบแทนที่ 8% ต่อปี ราคาหุ้นจะเท่ากับ 15.37 บาท ถ้าราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน ณ ปัจจุบัน ต่ำกว่าราคาตามทฤษฎีที่หุ้นละ 15.37 บาท ก็เท่ากับว่า ผลตอบแทน จากหุ้นสหยูเนี่ยน ในปี 2544 จะสูงกว่า 8% ต่อปี
แต่หากราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน ปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคา 15.37 บาท ก็เท่ากับ ผลตอบแทน จากหุ้นสหยูเนี่ยน จะต่ำกว่า 8% ต่อปี
ถ้าหวังเพียงเงินปันผล จากหุ้นสหยูเนี่ยนอย่างเดียว โดยไม่คาดหวัง ส่วนต่างกำไร จากหุ้นตัวนี้ ถ้าราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน สูงกว่า 15.37 บาทต่อหุ้น ก็ไม่น่าสนใจเข้าลงทุน สมการนี้เป็นการคิดกลับ มาจากสมการ Dividend Yield(%) = เงินปันผลที่บริษัทจ่าย (บาท/หุ้น) หารด้วยราคาปิด ณ ปัจจุบัน คูณด้วย 100
การหาราคาหุ้นด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถบอกความถูก หรือความแพงของหุ้นได้ และอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย หากบริษัทนั้น จ่ายปันผลไม่สม่ำเสมอ ดังนั้น จึงต้องพิจารณา ร่วมกับผลการดำเนินงานปัจจุบัน ของบริษัทแห่งนั้นประกอบด้วย ว่าในปีนี้บริษัทจะมีความสามารถ ในการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น หรือลดลง จากปีก่อนมากน้อยเพียงใด
ทั้งต้องตรวจสอบประวัติ การจ่ายปันผลย้อนหลัง ของบริษัทนั้นด้วย เพราะหุ้นที่จ่ายปันผลขึ้นๆ ลงๆ จะไม่น่าสนใจซื้อ เพื่อการลงทุนระยะยาว
เครดิต nationejobs.com ค่ะ
ล.ป. (ลืมไป) ยังจะใช้วิธีการคำนวณแบบนี้ได้อยู่รึป่าวคะ ฝากถามผู้รู้ด้วยค่ะ
เอามาฝาก สำหรับมือใหม่ ... วิธีคำนวณหาราคาหุ้น ช่วยตัดสินใจได้บ้าง
หลายครั้งต่อหลายครั้ง ก็มักจะเห็นกระทู้ว่า ตัวไหนซื้อเท่าไหร่ดี สำหรับฉัน ก็ตามๆ ท่านสาระขันตลอด แต่ก็นั่นแหละ อยากลองฝึกซื้อตัวอื่นๆ ดูบ้าง หรือถึงแม้จะซื้อตาม ก็ราคาไปซะไกลกว่าที่ท่านสาระขันถือทุนอยู่หลายตัว
จึงอยากรู้ว่า ถ้าเราจะแนว VI แล้วหละก็ เน้นซื้อพื้นฐานดี มีเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 6 % (จริงๆ แล้ว 8 น่าจะเหมาะกับฉัน ถ้าถือยาวๆ) ส่วนอัตรากำไรก็ต้องดีๆ สวยๆ หน่อย ที่สำคัญหนี้ไม่เยอะ ฯลฯ แล้วแต่จะดูอะไร ฉันก็ไม่เก่งหรอก คิดคำนวณอะไรก็ได้แค่แบบบ้านๆ บวกลบคูณหารง่ายๆ อย่ามาถามเรื่องกร๊งเรื่องกราฟ ไม่กระดิกเลย (เสียชื่อหมดเลยนะเนี่ย เรียนมาเอาคืนอาจารย์หมด)
เอ้า ทั้งหมดเนี่ย copy มาฝากค่ะ วิธีคำนวณง่ายๆ ลองเอาไปใส่สูตร ใน excel กันดูเล่นๆ จะได้เช็คราคาช่วยตัดสินใจได้นิดส์นึง หรือถ้าอยากจะซื้อหุ้นที่ราคาตรงไหน..จะใช้ไม่ใช้ก็สิทธิ์ของเรา เงินของเรา
ตั้งแต่บันทัดนี้เป็นต้นไป เป็นการ copy & paste มาเน้อ..
คำนวณหา 'ราคา' ของหุ้นปันผล
การลงทุนในตลาดหุ้น ผลตอบแทน ที่ผู้ถือหุ้นทุกคน คาดหวังมีอยู่เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ กำไรจากส่วนต่าง ราคาหุ้น (Capital Gains) และเงินปันผล (Dividend)
เวลาบริษัทมีกำไร ผู้ถือหุ้นจะรับรู้เพียง "นามธรรม" ว่าบริษัทนี้ ผลประกอบการดีขึ้น หรือแย่ลง ถ้าบริษัทไม่จ่ายเงินปันผล ผู้ถือหุ้นก็ต้องรอลุ้นว่า เมื่อไรราคาหุ้นที่ถืออยู่ จะปรับตัวสูงขึ้น
แต่เงินปันผลนั้น เป็นผลตอบแทนที่เป็น "รูปธรรม" เมื่อไรก็ตามที่บริษัท ประกาศจ่ายปันผล ไม่ว่าราคาหุ้น จะขึ้นหรือลง ผู้ถือหุ้น ก็จะได้รับผลตอบแทน ตามที่บริษัทจ่าย
ในการคำนวณ หามูลค่าหุ้นที่แท้จริง (Intrinsic Value) ทางทฤษฎีการลงทุน จะยอมรับ การประเมิน มูลค่าหุ้น จากเงินปันผล มากที่สุด การประเมินหามูลค่าหุ้น ด้วยวิธีเงินปันผล มีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุด และไม่ซับซ้อน สำหรับนักลงทุนทั่วไป ที่จะใช้คำนวณหาราคาหุ้นปันผล ที่เหมาะสม ก็คือ การคำนวณด้วยวิธี "Dividend Yield Approach" โดยมีสมการว่า ราคาหุ้น (Price) ตามทฤษฎี = เงินปันผลจ่าย (เฉลี่ย 3 ปี) หารด้วย ผลตอบแทน (%) ที่เราคาดหวังจากการลงทุน คูณ 100
เช่นหุ้นสหยูเนี่ยนจ่ายปันผลปีที่ 1 (2541) เท่ากับ 1.20 บาทต่อหุ้น ปีที่ 2 (2542) เท่ากับ 1.25 บาทต่อหุ้น และปีที่ 3 (2543) เท่ากับ 1.25 บาทต่อหุ้น เฉลี่ย 3 ปีจ่ายปันผลที่หุ้นละ 1.23 บาท ถ้าเราคาดหวัง ผลตอบแทนจากเงินปันผล ของสหยูเนี่ยนที่ระดับ 8% ต่อปี ราคาหุ้นสหยูเนี่ยนที่เรายอมจ่าย (สูงสุด) จะเท่ากับ 1.23 บาทต่อหุ้น หาร 8 คูณ 100 เท่ากับหุ้น 15.37 บาท
ความหมาย ก็คือ ราคาตามทฤษฎี ของหุ้นสหยูเนี่ยน ณ ผลตอบแทนที่ 8% ต่อปี ราคาหุ้นจะเท่ากับ 15.37 บาท ถ้าราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน ณ ปัจจุบัน ต่ำกว่าราคาตามทฤษฎีที่หุ้นละ 15.37 บาท ก็เท่ากับว่า ผลตอบแทน จากหุ้นสหยูเนี่ยน ในปี 2544 จะสูงกว่า 8% ต่อปี
แต่หากราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน ปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคา 15.37 บาท ก็เท่ากับ ผลตอบแทน จากหุ้นสหยูเนี่ยน จะต่ำกว่า 8% ต่อปี
ถ้าหวังเพียงเงินปันผล จากหุ้นสหยูเนี่ยนอย่างเดียว โดยไม่คาดหวัง ส่วนต่างกำไร จากหุ้นตัวนี้ ถ้าราคาตลาด ของหุ้นสหยูเนี่ยน สูงกว่า 15.37 บาทต่อหุ้น ก็ไม่น่าสนใจเข้าลงทุน สมการนี้เป็นการคิดกลับ มาจากสมการ Dividend Yield(%) = เงินปันผลที่บริษัทจ่าย (บาท/หุ้น) หารด้วยราคาปิด ณ ปัจจุบัน คูณด้วย 100
การหาราคาหุ้นด้วยวิธีนี้ ไม่สามารถบอกความถูก หรือความแพงของหุ้นได้ และอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ง่าย หากบริษัทนั้น จ่ายปันผลไม่สม่ำเสมอ ดังนั้น จึงต้องพิจารณา ร่วมกับผลการดำเนินงานปัจจุบัน ของบริษัทแห่งนั้นประกอบด้วย ว่าในปีนี้บริษัทจะมีความสามารถ ในการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น หรือลดลง จากปีก่อนมากน้อยเพียงใด
ทั้งต้องตรวจสอบประวัติ การจ่ายปันผลย้อนหลัง ของบริษัทนั้นด้วย เพราะหุ้นที่จ่ายปันผลขึ้นๆ ลงๆ จะไม่น่าสนใจซื้อ เพื่อการลงทุนระยะยาว
เครดิต nationejobs.com ค่ะ
ล.ป. (ลืมไป) ยังจะใช้วิธีการคำนวณแบบนี้ได้อยู่รึป่าวคะ ฝากถามผู้รู้ด้วยค่ะ