วันนี้(24เม.ย.)พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ในฐานะกรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า เนื่องจากคดีที่เกี่ยวกับอดีตพระยันตระ ผ่านมานานมาก ดังนั้นจึงได้ประสานขอข้อมูลไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ว่าในช่วงที่มีการตั้งสอบอธิกรณ์อดีตพระยันตระ ได้มีมติให้ปรับอาบัติปาราชิกหรือไม่ หากมีการพิจารณาให้อดีตพระยันตระต้องอาบัติปาราชิกแล้ว จะไม่สามารถกลับไปบวชใหม่ได้
เมื่อถามว่า ทางคณะสงฆ์จะต้องมีการออกปกาสนียกรรม หรือ การที่สงฆ์มีมติและทำการประกาศให้เป็นที่รู้กันทั่วไป ถึงสถานภาพในเวลานั้นของภิกษุรูปนั้นในหมู่สงฆ์ เช่น ความไม่เป็นที่ยอมรับ หรือ การที่สงฆ์ไม่ยอมรับ และ ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของภิกษุรูปนั้น ต่ออดีตพระยันตระด้วยหรือไม่นั้น โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้อดีตพระยันตระยังมีการออกสอนพระพุทธศาสนาแก่ประชาชนอยู่ แต่ไม่ได้มีการสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่คณะสงฆ์จะต้องมีการออกปกาสนียกรรมต่ออดีตพระยันตระ เนื่องจากการปกาสนียกรรม จะใช้ในกรณีที่พระสงฆ์นำคำสอนในพระไตรปิฎกไปดัดแปลงจนเกิดความผิดเพี้ยน
เดลินิวส์
โฆษกมส. ย้ำถ้ามีมติให้ปรับอาบัติปาราชิก ไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้
เมื่อถามว่า ทางคณะสงฆ์จะต้องมีการออกปกาสนียกรรม หรือ การที่สงฆ์มีมติและทำการประกาศให้เป็นที่รู้กันทั่วไป ถึงสถานภาพในเวลานั้นของภิกษุรูปนั้นในหมู่สงฆ์ เช่น ความไม่เป็นที่ยอมรับ หรือ การที่สงฆ์ไม่ยอมรับ และ ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของภิกษุรูปนั้น ต่ออดีตพระยันตระด้วยหรือไม่นั้น โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้อดีตพระยันตระยังมีการออกสอนพระพุทธศาสนาแก่ประชาชนอยู่ แต่ไม่ได้มีการสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่คณะสงฆ์จะต้องมีการออกปกาสนียกรรมต่ออดีตพระยันตระ เนื่องจากการปกาสนียกรรม จะใช้ในกรณีที่พระสงฆ์นำคำสอนในพระไตรปิฎกไปดัดแปลงจนเกิดความผิดเพี้ยน
เดลินิวส์