เรื่องที่จะขอรีวิว เพื่อแชร์ประสบการณ์ในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจอง ทัวร์เกาหลี ของบริษัททัวร์
ที่มีชื่อว่า "Thai Amazing Travel" โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค หรือ มีอีกชื่อคือ "Wisdom Traveller"

     เริ่มต้นจาก ฉันและเพื่อนๆต้องการจะไปเที่ยวเกาหลีกัน เพื่อจะไปสัมผัสบรรยากาศตอนหิมะตก
ความสวยงามต่างๆของประเทศเกาหลี จึงหาบริษัททัวร์ในงาน งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 28
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.56 แล้วไปเจอ โปรแกรมทัวร์ที่สนใจพอดี
ซึ่งเป็น "ทัวร์ของThai Amazing Travel โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค" จึงได้ทำการจอง
โปรแกรม: The Snow Queen  / เดินทางรวมทั้งหมด: 4 ท่าน / เดินทาง: 20-24 ธ.ค.56
ท่านละ: 21,900 บาท > 21,900x4 =87,600 บาท
____โดยในวันงาน(8ก.ย.56) ได้มีการวางมัดจำ (ครั้งที่1) 18,000 บาท____

    ต่อมาประมาณไม่เกิน 1 อาทิตย์ทาง หจก.ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ได้โทรมาแจ้งให้โอนเงินมัดจำใน
ส่วนที่2 เนื่องจากว่าเงินมัดจำจะต้องครบคนละ 9,000 บาท (ตามตกลง)
____ในวันที่ 13ก.ย.56 จึงได้มีการโอนเงินเพิ่มเติมไปอีก (ครั้งที่2) 18,000 บาท____

    ต่อมาก่อนการเดินทางจริง 1 เดือน ทางหจก. ได้ทำการติดต่อมาเพื่อให้ชำระเงินในส่วนสุดท้าย
____ในวันที่ 15พ.ย.56 ฉันได้โอนเงินส่วนสุดท้าย (ครั้งที่3) 51,600 บาท___

รวมทั้งสิ้นที่ได้ทำการโอนไปคือ 18,000+18,000+51,600 = 87,600 บาท
       เหตุการณ์สำคัญมันอยู่ตรงนี้คะทุกคน!!!!

    ในวันเดินทางจริง 20ธ.ค.56 ทาง หจก.Thai Amazing Travel โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค
ได้ทำการติดต่อมาว่าไม่สามารถเดินทางได้ แล้วโทรมาแจ้งขณะที่กำลังจะเดินทางไปสนามบิน
ณ วินาทีนั้นงงมากคะ แล้วถึงกับช็อคไปเลย เพราะเราได้ทำการจองล่วงหน้ามาเป็นเวลานานแล้ว
ทางพนักงานของบ.ที่ได้ทำการโทรแจ้ง ได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวและแจ้งว่าถ้าจะเจรจาอะไรให้คุยกับ
คุณเมธัสได้โดยตรงเลย ดิฉันจึงได้โทรไปสอบถามโดยตรง



เรื่องที่จะขอรีวิว เพื่อแชร์ประสบการณ์ในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจอง ทัวร์เกาหลี ของบริษัททัวร์
ที่มีชื่อว่า "Thai Amazing Travel" โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค หรือ มีอีกชื่อคือ "Wisdom Traveller"

     เริ่มต้นจาก ฉันและเพื่อนๆต้องการจะไปเที่ยวเกาหลีกัน เพื่อจะไปสัมผัสบรรยากาศตอนหิมะตก
ความสวยงามต่างๆของประเทศเกาหลี จึงหาบริษัททัวร์ในงาน งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 28
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงวันที่ 5-8 ก.ย.56 แล้วไปเจอ โปรแกรมทัวร์ที่สนใจพอดี
ซึ่งเป็น "ทัวร์ของThai Amazing Travel โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค" จึงได้ทำการจอง
โปรแกรม: The Snow Queen  / เดินทางรวมทั้งหมด: 4 ท่าน / เดินทาง: 20-24 ธ.ค.56
ท่านละ: 21,900 บาท > 21,900x4 =87,600 บาท
____โดยในวันงาน(8ก.ย.56) ได้มีการวางมัดจำ (ครั้งที่1) 18,000 บาท____

    ต่อมาประมาณไม่เกิน 1 อาทิตย์ทาง หจก.ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ได้โทรมาแจ้งให้โอนเงินมัดจำใน
ส่วนที่2 เนื่องจากว่าเงินมัดจำจะต้องครบคนละ 9,000 บาท (ตามตกลง)
____ในวันที่ 13ก.ย.56 จึงได้มีการโอนเงินเพิ่มเติมไปอีก (ครั้งที่2) 18,000 บาท____

    ต่อมาก่อนการเดินทางจริง 1 เดือน ทางหจก. ได้ทำการติดต่อมาเพื่อให้ชำระเงินในส่วนสุดท้าย
____ในวันที่ 15พ.ย.56 ฉันได้โอนเงินส่วนสุดท้าย (ครั้งที่3) 51,600 บาท___

....รวมทั้งสิ้นที่ได้ทำการโอนไปคือ 18,000+18,000+51,600 = 87,600 บาท

       เหตุการณ์สำคัญมันอยู่ตรงนี้คะทุกคน!!!!

    ในวันเดินทางจริง 20ธ.ค.56 ทาง หจก.Thai Amazing Travel โดย นายเมธัส สุวรรณพรรค
ได้ทำการติดต่อมาว่าไม่สามารถเดินทางได้ แล้วโทรมาแจ้งขณะที่กำลังจะเดินทางไปสนามบิน
ณ วินาทีนั้นงงมากคะ แล้วถึงกับช็อคไปเลย เพราะเราได้ทำการจองล่วงหน้ามาเป็นเวลานานแล้ว
ทางพนักงานของบ.ที่ได้ทำการโทรแจ้ง ได้แจ้งข้อมูลดังกล่าวและแจ้งว่าถ้าจะเจรจาอะไรให้คุยกับ
คุณเมธัสได้โดยตรงเลย ดิฉันจึงได้โทรไปสอบถามโดยตรง
     คุณเมธัสได้แจ้งแจ้งว่า "ขอโทษด้วย คนเดินทางไม่พอ ไม่สามารถเดินทางได้"
ตอนนั้นถึงขั้นว่าโกรธมากเลยทีเดียว ใส่ไปเยอะเลยคะ แต่พอพูดไปเยอะมากๆเข้า
คุณเมธัสเลยแจ้งว่า งั้นขอเวลาอีก 2 วัน จะจัดการเดินทางให้เนื่องจากมีกรุ๊ปอื่นจำนวนคนพอ
ไปได้แน่นอน เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกลงไปต่อคะ คือออกเดินทางเวลาเดิม ในวันที่ 22ธ.ค.56
     พอถึงวันไป ครั้งที่ 2 เวลาประมาณเดิมเลยคะ คือ ออกจากบ้านแล้ว
คุณเมธัสโทรมาอีกว่า ไปไม่ได้แล้วครับ!! ต้องขอโทษจริงๆ
ฉันก็ถึงขั้นงงเลยคะ โกรธมากๆๆ แปลกใจว่า แล้วรับปากเราทำไม พอถามเค้าไปเค้าตอบว่า
"ที่บอกไปแบบนั้น เพราะจะได้ให้คุณสบายใจ" โห... คิดได้เนอะ ฉันจะบ้าคะคุณ
สรุปคือก็ไม่ได้ไปคะ แล้วสิ่งที่ฉันและเพื่อนๆได้เตรียมมาหละ ลงทุนกับมันไปเยอะมากหลายๆอย่าง
เลยบอกคุณเมธัสว่า จะขอเงินคืนทั้งหมดเลย คุณทำลายความหวังของพวกเราหมด เสียใจมาก
คุณเมธ้สบอกว่า "จะเรียกร้องอะไรก็เรียกร้องมาเลย ผมจะชดใช้ให้หมดเลยครับ"
ฉันกับเพื่อนเลย เรียกร้องค่าตั๋วคืน พร้อมกับค่าเสียหายอีกคนละ 5000 บาท
โดยให้คุณเมธัสโอนเงินให้ภายในวันรุ่งขึ้น(23ธ.ค.56) เวลา 10โมง
      พอวันรุ่งขึ้น ในเวลาดังกล่าว ฉันก็ไปรอที่ ธนาคาร ผลปรากฎว่า มีตัวเลขเข้าบัญชี เวลาประมาณ 11โมง
ดิฉันก็เลยสบายใจ นึกว่ามีเงินเข้าแล้ว เลยจะถอนเงินไปคืนเพื่อนๆให้ครบ แต่ที่ไหนได้
เงินที่เข้ามาในบัญชีนั้น เป็น เช็ค!!! นั่นหละไงคะ งานงอกคะ เด้งแน่นอน
และมันก็เป็นจริงคร่าาาา วันต่อมาธนาคารโทรมาเลยคะว่า กรุณามารับเช็คคืนด้วยคะ
พอไปรับเช็คเสร็จก็ไม่พูดอะไรแล้วคะ เหนื่อยจะเคลีย
     ฉันกับเพื่อนๆก็ มุ่งตรงไป --กรมการท่องเที่ยว-- คะ เพื่อร้องทุกข์ดังกล่าวทางกรมบอกว่า
นายเมธัส นั้นมีคดีที่ยังประนีประนอมอยู่ กับกรุ๊ปก่อนหน้าเรา โดยทางบริษัทที่จดทะเบียนกับทางกรมไว้
จะต้องมีหลักประกันก่อน โดยนายเมธัสได้ว่า เงินไว้เพื่อเป้นหลักประกัน จำนวน 200,000 บาท
แต่กรุ๊ปก่อนหน้านี้มีปัญหาอยู่ที่ จำนวนเงิน 600,000กว่า บาท พอดึงเงินหลักประกันไป
ก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะชำระอีก จึงอยู่ในขั้นผ่อนผันอยู่ แล้วพอมาเจอ กลุ่มฉันเข้าไปอีกเลย
ต้องรอกลุ่มก่อนหน้าเสร้จก่อน จึงจะสามารถคืนเงินฉันได้
     ทางกรมแนะนำให้ไปแจ้งความไว้เลย ฉันและเพื่อนๆจึงเดินทางไปที่สถานีตำรวจเป็นที่ต่อมา
แล้วได้แจ้งความไว้ในวันที่ 25ธ.ค.56 ตำรวจที่ได้รับเรื่องไว้แจ้งว่า ไม่พบข้อมูลของ
นายเมธัส สุวรรณพรรค ฉันและเพื่อนๆถึงขั้นตกใจ ตำรวจจึงเข้าไปหาข้อมูลใหม่

ได้ความว่า  "นายเมธัส สุวรรณพรรค" ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "นายก้องชัชพงษ์ สุวรรณเดชพงศ์"
ถึงขั้นงงเลยคร่า เอาแล้วไง นายนี่ทำพิษใส่เข้าให้แล้วไงคะ พอแจ้งความเสร็จ
ตำรวจก็บอกว่าจะทำการติดต่อกลับมาอีกครั้ง

----จนกระทั้งตอนนี้  ทั้งทาง กรมการท่องเที่ยว และ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน
ยังไม่ได้ทำการติดต่อใดๆกลับมาเลย----

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. ทางผู้จัดงานท่องเที่ยว ควรมีการคัดกรอง ผู้ที่จะเข้ามาออกบูทก่อนเสมอ
2. การจะเลือกทัวร์ต่างๆ ควรศึกษาข้อมูลก่อนการท่องเที่ยวเสมอ

ปล. ตอนนี้อยากทราบความคืบหน้ามากๆคะ ใครพอจะประสานงานความช่วยเหลือนี้ได้บ้างคะ
จักขอบพระคุณมากจริงๆคะ