เรื่องนี้เกิดจากการตรวจสุขภาพประจำปี ที่หมอได้บอกว่าควรออกกำลังกายอย่าง "จริงจัง" ได้แล้ว อ้าวแล้วเราไม่ใช่นักกีฬา ไม่มีเวลา เลยมองๆฟิตเนสแถวใจกลางสยามไว้ แล้วรีบทำใจลองเดินไปถามราคาดู เมื่อย่างเท้าก้าวเข้าไป พบกับการต้อนรับอันยิ้มแย้มของพนักงานและการพูดจาหว่านล้อมค่อนข้างดี ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด เหมือนกับฟิตเนสชื่อดังเจ้าหนึ่งที่เคยเจ๊งไป ทำให้ตกลงใจสมัครแบบงงๆ เอาน่า เสียเงินเพื่อสุขภาพดีกว่าเสียค่าหมอ ค่ายา ในการรักษา จึงได้รับประสบการณ์ในสังคมฟิตเนสที่เคยได้ยินผ่านเรื่องเล่า วันนี้ได้เจอเข้ากับตัว และอดไม่ได้ที่จะมาถ่ายทอด แบบบ่น ให้คนที่อยากรู้อยากเห็นอยากสัมผัส ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของสถานออกกำลังกายชื่อดังแห่งหนึ่ง

เตรียมเงิน บัตรเครดิต ให้พร้อม อ่านสัญญาให้ละเอียด ก่อนเซ็นอะไรลงไป
     สิ่งนี้นับเป็นสิ่งแรก ที่ผู้สนใจออกกำลังกายในคลับฟิตเนสแบบนี้ เพราะแน่นอนว่าชื่อดัง ราคาแพง ต้องเตรียมเงิน เตรียมใจไปให้พร้อม เพราะเขาจะรูดบัตรเครดิตแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ หรือใหน่อยก็จ่ายทีเดียวอาจได้ส่วนลดบ้าง ได้สิทธิ์พิเศษบางอย่างบ้าง ด้วยรายละเอียดของสัญญา ที่ฟิตเนสมักจะให้ทำในระยะยาว ควรจะอ่านสัญญาให้ละเอียด อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด อย่าคิดว่าไม่มีอะไรสำคัญ เพราะถ้าสังเกตุดีๆ การยกเลิกสัญญา ฯลฯ ที่เกี่ยวกับสัญญามันมีผลทางกฏหมาย จะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันทีหลัง ตัวอย่างเช่นการยกเลิกสัญญาต้องบอกล่วงหน้า 1 เดือนเป็นต้น ไม่ใช่จะเลิกก็หยุดเล่นกันไปดื้อๆได้ที่ไหน  ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจควรถามทันที

ไปเล่นครั้งแรกเตรียมตัวไม่ต้องมาก
     สำหรับฟิตเนสแห่งนี้เขาดีตรงมีเสื้อผ้าให้หมด รวมถึงผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม ห้องน้ำมีทุกอย่างครบ แต่สำหรับผู้ที่รักสะอาดเฉพาะตัว จะเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์ไปเองก็ได้ สิ่งที่ต้องเตรียมสำคัญที่สุดคือ รองเท้าและถุงเท้า จากประสบการณ์พบว่า รองเท้ายี่ห้อดีๆแพงๆไม่สำคัญเท่า เวลาออกกำลังกายจริงแล้ว มันทำให้เราเจ็บเท้าหรือไม่ เพราะเวลาเราไปลองรองเท้าก่อนซื้อส่วนมากจะลองว่าคับหรือไม่ เดินไปมานิดเดียว แต่เมื่อมาออกกำลังกายจริงอาจมีการกระโดด วิ่ง บิดเท้า ฯลฯ รองเท้าที่ไม่เข้ารูปกับเท้าเราอาจทำให้เจ็บเท้าได้ ยกตัวอย่างส่วนตัวดันซื้อแพงๆมาสี่คู่แต่ใช้ออกกำลังกายได้จริงคู่เดียวเท่านั้น พิจารณาดูพบว่ารองเท้าที่เข้าท่าต้องมีรูปที่เหมาะกับเท้าเราเท่านั้น ต้องใส่สบาย ไม่ใช่แพง ยี่ห้อดี รุ่นดีสุด  ส่วนถุงเท้าช่วยทำให้สัมผัสในรองเท้านุ่มขึ้น และลดความเหม็นของรองเท้าได้ เพราะเวลาออกกำลังกายเหงื่อจะหยดไปที่ถุงเท้า แต่ที่น่าแปลกคือ ส่วนใหญ่จะเห็นคนในฟิตเนสไม่ค่อยใส่ถุงเท้ากัน เวลาถอดรองเท้าในห้องแต่งตัว โอว...นึกว่าข้างในห้องน้ำมีรถเข็นขายปลาหมึกปิ้งบริการด้วย  

ครูฝึกสำคัญแต่ต้องมีเงินจ่ายเพิ่ม
     ฟิตเนสแห่งนี้จะมีครูฝึกสอนให้ฟรี 3 ครั้ง ต่อไปต้องจ่ายเพิ่มซื้อเป็นคอร์สระยะยาว แพงพอควร เพราะมีระดับขั้นของก็จะไม่ครูฝึกให้เลือก ถ้าครูฝึกระดับสูงๆค่าตัวยิ่งแพง ส่วนตัวจากที่ได้รับการฝึกจากครูฝึกพบข้อดีคือ เขาจะวางแผนออกกำลังกายตามสิ่งที่เราต้องการได้ถูกต้อง ดีกว่าเราทำเอง เพราะอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆนั้นแต่ละชนิดมีไว้สำหรับฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน และต้องมีท่าเล่นที่ถูกต้อง เช่น สมมุติอุปกรณ์ชนิดหนึ่งไว้ฝึกกล้ามเนื้อแขน แต่ผู้เล่นทำไม่เป็นอาจได้รับการบาดเจ็บหรืออาจใช้ท่าผิดทำให้ไปออกกำลังกล้ามเนื้อส่วนอื่นแทน เป็นต้น
     ดังนั้นครูฝึกจึงจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ข้อเสียคือ ต้องจ่ายเพิ่มและ "แพง" เสียด้วย อ้าว...แล้วคนไม่มีเงินทำไง ทางฟิตเนสจะมีบริการเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ไว้สำหรับลูกค้าได้สอบถามในการเล่นอุปกรณ์ชนิดต่างๆ แต่จากที่เห็นด้วยตาตัวเองพบว่า ทางฟิตเนสน่าที่จะอบรมพนักงาน และแก้ไขในเรื่องแบบนี้ให้จริงจัง เพราะเชื่อได้ว่า ลูกค้าทุกคนไม่อยาก "จ่ายเพิ่ม" โดยไม่จำเป็น ซึ่งไม่น่าจะยากกับการที่ให้พนักงานคอยเดินสำรวจดูแลลูกค้าทุกคน คอยสอบถาม คอยแก้ไข ช่วยเหลือลูกค้าในการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ถูกวิธี "ไม่ใช่" เน้น "การขายคอร์สเพิ่ม" เท่านั้น เชื่อได้ว่าฟิตเนสคงจะมีเป้าสำหรับพนักงานในการหาลูกค้าซื้อคอร์สเดี่ยวเพิ่ม สิ่งนี้ทำให้การบริการโดยรวม ไม่ดีเลิศสมใจลูกค้าส่วนใหญ่  เพราะถ้าเค้าจ่ายแพงเพื่อมาออกกำลังแล้ว ควรจะได้รับการบริการครบ ทุกวันนี้ที่เห็นชัดคือ ถ้าลูกค้าไม่ถามครูฝึกก็จะไม่เข้ามาดูแล ยกเว้นเพื่อจีบขายคอร์สเท่านั้น  ฟิตเนสควรเอาใจใส่ลูกค้าให้มากกว่านี้ เพราะถ้าเขาออกกำลังกายผิดท่า ได้รับบาดเจ็บก็ต้องหยุดพักไปหรือหยุดเล่นไป ฟิตเนสก็ไม่ได้เงิน ไม่สงสัยเลยที่ฟิตเนสบางที่พยายามหาจุดต่างโดยถึงแม้อุปกรณ์จะน้อยกว่าแต่ใช้ครูฝึกดูแลลูกค้าให้ทั่วถึง จึงมีคู่แข่งขนาดเล็กกว่าเกิดขึ้นมาแข่งกับเจ้าใหญ่ได้
  
สังคมในห้องน้ำชายมันมีสิ่งมหัศจรรย์จริงหรือ
     ไม่น่าเชื่อว่าอเมสซิ่งฟิตเนสมันอยู่ตรงนี้นี่เอง  เพราะเมื่อก้าวเท้าเข้าไป ท่านจะได้พบกับบรรดาชาวสีม่วง ที่นิยมมาใช้บริการมองด้วยตา คงไม่ต่ำกว่า 80% ที่เหลือเป็นชายแท้หรือไม่ไม่อาจแยกได้ชัด จะได้เห็นชาวสีม่วงหลายๆคน ขอใช้คำว่า "ส่วนใหญ่" จะชอบโชว์ เรียกแขกโดยการถอดเปลี่ยนเสื้อผ้ากันตรงล๊อกเกอร์ ถอดแบบสดๆ ไม่มีผ้าเช็ดตัวพัน เท่านั้นไม่พอ คุณเธอทั้งหลายจะชอบใส่กางเกงในสีขาว แล้วมองคนอื่นขณะตัวเองเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อสบตาหาพวกเดียวกันหรืออย่างไรไม่ทราบได้ แต่มันทำให้ "คนนอกวงการ" รู้สึกอึดอัด เสียวไส้ อย่างบอกไม่ถูก บางคนพี่แกเดินมาถอดตรงหน้า ตรูดแทบจะโดนหน้าเห็นก็เห็นว่าจกขท.กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ทำไมจำเป็นต้องทำแบบนี้ แต่อันตัวเราควรหลบให้เขาดีที่สุด หลีกห่างให้ไกล
     บางครั้งเจอทีเดียวสามคน มารุมเปลี่ยนเสื้อผ้าไกล้ๆ โชว์กกนสีขาวๆผ้ามันๆบางๆ คงไม่เข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบกิน "ลูกชิ้นปิ้งคู่พร้อมไส้กรอก" เสมอไปกระมัง น่ากลัวมาก ณ จุดๆนี้ ไม่เท่านั้นบางคนถอดหมด เน้นว่า "ถอดหมด" เฮ้ยนี่มันคงไม่แปลกถ้าเป็นเมืองนอก ออนเซ็น หรือโรงอาบน้ำทหาร แต่นี่มันเมืองไทย ถึงเป็นชายด้วยกันแต่...สุดบรรยาย ไม่รู้เป็นแฟชั่นหรืออย่างไรชาวสีม่วงในนี้จะนิยมโชว์กกนขาวกันทุกคน
     วันดีคืนดีท่านอาจจะได้พบกับภาพที่เหมือนดั่งโฆษณา นึกภาพชายหนุ่มหล่อกล้ามโตผิวขาวตี๋ดั่งดาราเกาหลี กำลังเอาไดร์เป่าผม เป่าผมปลิวไปมา สลับกับเป่ารักแร้ สลับเป่าตัว เท่านั้นไม่พอ แกเนียนเป่าเข้าไปใต้ผ้าเช็ดตัว เพื่อให้ลูกชิ้นปิ้งกับไส้กรอกสุกพร้อมขายกระมัง โอวแม่เจ้า...ทำไมคนไทยเราถึงได้ไม่รู้จักมารยาทอะไรกันเช่นนี้
     ล็อกเกอร์ถึงแม้จะแลดูทันสมัย ใช้ระบบการ์ดแตะล็อคเข้ารหัส แต่ทว่า เนื่องจากเป็นตู้ยาว และมีกลอนด้านบนด้านเดียว ทำให้ด้านล่างถ้ามีใครแงะเพียงแค่ดึงไม่ต้องออกแรงมาก ก็สามารถขโมยของออกไปได้ ไม่ปลอดภัยเลย ดังนั้นแนะนำเลยว่า หากใครไปใช้บริการอย่าได้นำของมีค่าไปใส่ไว้เด็ดขาด เพราะแน่นอนว่ากล้องวงจรปิดไม่มี หากมือใครดมไม่ได้ เห็นกับตาถึงสองครั้งเลยว่ามีคนพยายามเปิดตู้โดยการแงะดึงออก ครั้งแรกเป็นคนที่ลืมว่าตู้ตัวเองเบอร์อะไร ครั้งที่สองคนมาด้วยกันจะหาตู้ติดกันไว้ของมาถึงดึงตู้เฉยทั้งที่มีไฟสัญลักษณ์ว่ามีคนใช้ตู้นั้นอยู่     
     บ่อยครั้งที่มักจะเจอกับบรรดาชาวสีม่วง นุ่งผ้าเช็ดตัวเกาะกลุ่มคุยกันบ้าง แบ่งกล้ามหน้ากระจกบ้าง ยืนนั่งเล่นiphoneตามมุมต่างบ้าง ถ้าเป็นเพศตรงข้ามมาเห็นคงอาจสุขใจบ้าง แต่สำหรับส่วนตัวขอบายละกัน
            
คนเขามาออกกำลังกายกันทุกคนจริงหรือ
     จากสภาพที่เห็นคือ จะแบ่งกลุ่มคนได้หลายๆประเภท บางพวกจะอยู่โซนฟรีเวท ประกอบด้วยลูกเหล็กไว้ยกต่างๆ พวกนี้จะกล้ามโตเท่าหัวเด็ก เล่นอย่างบ้าคลั่งจริงจัง มีเอฟเฟคเสียงประกอบ ไม่ค่อยมีใครเข้าไกล้  สำหรับพวกมือใหม่ๆก็จะเล่นอยู่ตามเครื่องต่างๆ ปั่นจักรยาน วิ่ง ทำตัวลีบๆ  สาวๆที่เล่นประจำหุ่นดีๆเหมือนหลุดมาจากแมกกาซีนฝรั่ง พวกนี้จะมีครูฝึกคอยสอนส่วนตัว มีไม่มาก พวกนักศึกษาหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักก็มีเยอะส่วนมากจะมาเล่นกับเพื่อน ตอนเย็นๆก็จะมีพวกหนุ่มสาวออฟฟิตมากันเพียบ แต่เห็นนิยมวิ่งหรือเข้าคาร์สพวกเต้นกันเสียมากกว่าอย่างอื่น พวกคนมีอายุระดับ40up ก็จะมีอยู่บ้างแต่เห็นใช้ครูฝึกส่วนตัวกันหลายคน คงช่วยเซฟร่างกาย
     บางพวกมานั่งแช่ตามเครื่อง เล่นก็ไม่ได้เล่น แต่กดโทรศัพท์เล่น เกะกะคนอยากเล่นมากกว่า ไม่มีใครกล้าว่า บางคนเอาอุปกรณ์ส่วนตัววางจองตามเครื่องไว้ตัวไม่อยู่  บ้างก็มานั่งเล่นคอม เล่นiphone เห็นนั่งอยู่เป็นชั่วโมง ไม่เห็นจะมาออกกำลัง  บางคนก็นั่งตั้งวงจิบน้ำชากาแฟคุยกัน เหมือนยกกันมาทั้งออฟฟิต บ้างก็เอาแฟนสาวมานั่งรอ พอเจ้าตัวไปออกกำลังกาย มีหนุ่มๆมานั่งไกล้ๆ ก็จะกลับมาคุมทีนึง  กลุ่มชาวสีม่วงก็ยังคงคอนเซบเดิมคือ ออกกำลังกายไปสบตาชายไป แอบเห็นเลยยามมีชายเดินผ่านเก้งกวางมองกันเพียบ สาวๆสวยๆเดินผ่านไม่แลแม้หางตา

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสังคมฟิตเนสแห่งหนึ่งเท่านั้น มีทั้งสิ่งที่ดี ที่แปลก และไม่ดี เหมือนสังคมทั่วๆไป เพียงแต่เป็นสังคมของคนกลุ่มหนึ่งที่มาออกกำลังกายด้วยหลากหลายจุดประสงค์ ต้องบอกตัวเองให้ทำใจในสิ่งที่ขัดหูขัดตา และตั้งหน้าออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของตัวเองต่อไป มาออกกำลังกายกันเถอะไม่จำเป็นต้องมาเข้าฟิตเนสแพงๆก็ได้ถ้าไม่พร้อม อาจออกกำลังกายอยู่บ้าน หรือตามสถานที่ต่างๆ วันละนิดหน่อย ดีกว่าให้หมอสั่ง หรือร่างกายแย่แล้ว หากประสบการณ์ส่วนตัวอาจไปขัดใจใครบ้างขออภัยไว้ ณ ที่นี้