ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่ากระทู้นี้ไม่ได้เป็นการเผยแพร่ศาสนาแต่อย่างใด
แต่ที่เราเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดกับตัวเรา ก็เพื่อเผื่อใครบางคนหมดทางรึกำลังสิ้นหวัง รึทุกข์ทรมานจากโรคต่างๆ ที่กำลังรุมเร้า เพราะเราเองก็กำลังเผชิญอยู่สารพัดโรคเช่นกัน และแต่ละโรคที่เราเป็นล้วนหาสาเหตุไม่ได้ ( ใครไม่เป็นไม่รู้จริงๆ นะว่ามันทุกข์แค่ไหน โดยเฉพาะจากคนปรกติที่กำลังจะกลายเป็นคนพิการ )
เรามีโรคประจำตัวหลักๆ ( ยิบๆ ย่อยๆ อีกสารพัดไม่เกี่ยวนะจ๊ะ ) เป็นความดันโลหิตสูงเมื่อตอนอายุ 23 โดยไม่ทราบสาเหตุ ( ทำการตรวจหาปัจจัยที่เป็นจากแพทย์แผนปัจจุบันมาแล้วไม่พบ ) เราต้องกินยามานับสิบปี แถมปัจจุบันเราต้องเจอะแจ็คพ็อตอีกดอก เมื่อดันมาเป็น โรคเส้นเลือดอุตตันในจอประสาทตาข้างซ้าย โดยไม่ทราบสาเหตุอีกเช่นกัน ( เป็นโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป แต่เราเพิ่งเลข 3 เองนะ
ของเราหมอบอกน่าจะหนึ่งในล้านมั้ง ช่างน่าภูมิใจในความโชคดีเสียนี่กระไร
) ส่วนการรักษาทางการแพทย์ไม่มี นอกจากรักษาตามอาการ นับจากฉีดยาเข้าตา ไปจนยิงเลเซอร์ และจบลงที่ผ่าตัด โดยที่ไม่รับรองผลว่าจะหาย ( ไม่หายก็บอดสนิท )
ทีนี้ก็ปัญหาใหญ่สิ ขนาดเหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ยังจะสารพัดโรคเลย แถมตายังจะบอดอีก ด้วยความที่กลุ้ม ยิ่งกลุ้มยิ่งเครียด เครียดชนิดกะถ้าต้องตาบอดก็ขอลาโลกแล้วกัน ( ไม่อยากอยู่เป็นภาระใคร ) ช่วงนั้นวิ่งหาสารพัดหมอเลยจริงๆ ( ก็กลัวตาบอดนิ ทำไงได้ ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง จะได้มีกินมีใช้ตลอดชาตินี่นา ) ซึ่งอาการก็ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งสำหรับการไปตรวจในครั้งต่อมา แต่พอไปอีกครั้งอาการก็กลับมาแย่อีก ตอนนั้นกลุ้มมากเที่ยวเสิร์ชหาข้อมูลในเนตหมอที่ไหนดี ไปหาได้ไปหมดกระทั่งวันหนึ่งได้มาเจอกระทู้หนึ่งในพันทิป ข้อความในกระทู้ประมาณเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยการสัมผัสมือ ( ขออภัยเจ้าของกระทู้ที่จำชื่อไม่ได้นะคะ ) กล่าวถึงการรักษาขอ "คุณพ่อคอร์ซี่" ไว้เพียงสั้นๆ เราก็เลยนำชื่อท่านไปค้นหาในเนต และได้เจอคลิปที่ท่านรักษาคุณปิ่นจนหาย รวมทั้งตารางการมารักษาของคุณพ่อก่อนหน้าไม่กี่วัน ( อ๋อ... อันนี้เป็นการรักษาเมื่อปีที่แล้วนะ )
ช่วงระหว่างไม่กี่วันที่รอเราได้ทำสิ่งที่หลงลืมไปนาน ( เพราะความขี้เกียจส่วนตัวพรุ่งนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้น่า สุดท้ายก็ไม่ได้ทำสักที ) ไปคว้าพระคำภีร์ไบเบิ้ลมาอ่าน ( ต้องขออภัย เราไม่ใช่คาทอลิกและโปรเตสแตนต์ และเราไม่ใช่ศาสนิกชนที่ดีนัก แต่เราก็พยายามรักษาศีลให้มากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ ) ช่วงนั้นจากที่เคยสวดถึงพระองค์เพียงความรู้สึกผิวเผิน กลับทุ่มเทวิงวอนและขอบคุณพระองค์สุดใจ
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เริ่มจากวันแรกก่อน ( เราไปร่วมพิธีรักษาอยู่ 2 วัน ) ก่อนทำพิธีรักษาหลังผ่านพ้นพิธีมิสซาไปแล้ว ทางทีมงานของคุณพ่อคอร์ซี่ก็จะฉาย VTR ให้ดู ถึงคนป่วยที่ท่านไปรักษามา บางคนไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่เป็นสิบๆ ครั้ง บางครั้งแรกก็หาย บางคนคร้งแรกไม่รู้สึกอะไรจนกระทั่งผ่านไปหลายครั้งจึงเกิดปาฏิหารย์ แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกตื้นตันที่สุดระหว่างได้ดูคือ ภาพความรู้สึกดีใจของคนที่หาย มันเป็นความรู้สึกตื้นตั้น ที่กลั่นกลองมาจากความรู้สึกของผู้คนเหล่านั้นจริงๆ อืมม์... มันคงจะดีไม่น้อยเชียว ถ้าหนึ่งในนั้นเป็นเราด้วย
หลังจากผ่านพ้นการรักษาของโรคแต่ละกลุ่มไป ในที่สุดก็มาถึงตากลุ่มเราบ้าง เรารักษาเป็นกลุ่มสุดท้ายคือเป็นกลุ่มที่รักษาทุกโรครวมกัน เราและคนในกลุ่มต่างพากันเข้าไปจับมือที่คุณพ่อ โดยไม่ได้มีการบอกเลยว่าเป็นโรคอะไรมา ระหว่างนั้นเราอธิษฐานขอประทานพรการรักษาจากพระองค์ ( พระเยซูคริสต์ ) ที่ดวงตาด้านซ้าย สักพักเรามีความรู้สึกเหมือนมีกระแสบางอย่างวิ่งเข้าสู่ดวงตาด้านซ้ายของเรา และจะทำให้เราหมดแรงอยู่หลายครั้ง และคุณพ่อก็จะบีบมือเราไว้เหมือนฉุดให้เราไม่ปล่อย กระทั่งตลอดการรักษาประมาณ 5 นาทีสิ้นสุดลง เรากลับเข้าไปนั่งที่เดิมพร้อมความรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาคลอเบ้า ( ตื้นตันที่แม้เราจะเป็นเพียงลูกแกะสีเทา ที่บางเวลาหลงลืมพระองค์ ห่างไกลจากพระองค์ แต่... พระองค์กลับไม่เคยทอดทิ้งเรา ทรงทำให้เรารู้ตัวถึงโรคที่กำลังเผชิญ ถ้าวันนั้นเครื่องสำอางค์ไม่เข้าตา ทำให้ต้องไปรักษาตาที่โรงพยาบาล บางทีกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ตาเราคงต้องเกือบบอดแน่ รึถ้าในวันที่เรามานั่งเสิรช์หาข้อมูลในเนต พระองค์ไม่ได้ดลใจให้เราพิมพ์ข้อความบางอย่าง จนมาพบกับกระทู้ที่กล่าวถึง "คุณพ่อคอร์ซี่" ในพันทิป วันนี้เราก็ยังคงต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะสูญเสียดวงตา )
และจากการรักษาวันแรกเสร็จสิ้น เราก็ตามคุณพ่อคอร์ซี่มารักษาที่โบสถ์อีกแห่งหากแต่การรักษาวันนี้ ไม่ได้มีปาฏิหาริย์ใดๆ กับเราเช่นเมื่อวาน แต่เรามีความน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งกับคนไข้สองคนที่ต้องนั่งรถเข็นเข้ามารักษา หลังจากทนความเจ็บป่วยอยู่หลายเดือน พวกเขาทั้งสองโชคดีกลับมาลุกเดินได้อีกครั้ง พร้อมกับเป็นฝ่ายเข็นรถเข็นที่นั่งมาออกจากโบสถ์
หลังจากนั้นเมื่อคุณหมอนัดเราไปพบปรากฏอาการเส้นเลือดอุดตันที่ดวงตาของเราดีขึ้น อาการบวมที่นัยน์ตายุบลง
ครั้งที่สองไปตรวจอาการดีขึ้นมากจนคุณหมอยังแปลกใจ และนัดดูอาการเราห่างขึ้นจากทุกเดือนกลายเป็นสามเดือนครั้ง
คร้งที่สามอาการยุบตัวเกือบเป็นปกติ จากเส้นเลือดที่อุตตันจนแตกกระจายตัวเป็นเส้นๆ กลับแห้งเหลือเป็นจุดๆ เล็กน้อย
ครั้งที่สี่อาการคงตัวจากครั้งที่แล้ว และยังต้องนัดตรวจเช็คกันทุกๆ 3 เดือน ตลอดไป คุณหมอไม่แน่ใจว่าโรคนี้จะกลับมาอีกหรือไม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคที่เราเป็นอยู่ แม้จะหายก็ใช่จะกลับมามองเห็นได้ 100% แต่แค่นี้สำหรับเรานับว่าเป็นของขวัญที่วิเศษแล้ว
มาวันนี้เราเพิ่งไปรักษาอีกครั้ง แต่คราวนี้รักษาเกี่ยวกับคอ เราหมุนคอไปด้านขวาไม่ได้มันเจ็บและตึงมากจากศีรษะไปถึงบ่า เราหาหมอจัดกระดูกก็แล้ว หมอนวดก็แล้ว อบสมุนไพรก็แล้วไม่หาย วันนี้คุณพ่อสัมผัสลงบนบ่าของเราและจับเราหมุนคอ ช่วงที่จับเราหมุนคอและวางมือลงบนบ่า เรารู้สึกบางอย่างตรงศีรษะข้างที่เราเจ็บ และหลังจากการรักษาเสร็จอาการเจ็บของเราดีขึ้นมากแม้ยังไม่หายทีเดียว แต่ไม่เป็นไรยังเหลือเวลาอีกวัน สู้ๆ
แต่วันนี้มีเครสหนึ่งมีอาการเจ็บปวดที่แขนมา คุณพ่อบอกเลยว่ายังไม่รักษาให้เพราะรักษาวันนี้ก็ยังไม่หาย จะต้องทนเจ็บไปอีกสักระยะ ส่วนอีกเครสเป็นอาการเดียวกับคุณปิ่นรักษากับคุณพ่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปรากฏกระดูกเข่าที่ยุบตังไม่มีวันหาย ตอนนี้กลับมาเริ่มเติมเต็มอีกครั้ง แต่ก็ยังต้องรักษาอีก
สำหรับใครที่หมดหวังและอยากลองที่จะมาทำการรักษายังเหลือเวลาอีกสองวันตามกำหนดการนี้นะคะ
พิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มเวลา 13.00 น. ( สำหรับคนที่ต้องการมาเข้าพิธีรักษาเลย น่าจะเริ่มประมาณ 14.00 น. นะ อันนี้เรากะเองนะคะผิดถูกอย่าว่ากัน )
วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2557 ณ วัดเซนต์นิโคลัส พัทยา ถนนสุขุมวิท ก.ม.145 ต.หนองปรือ
อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. 0-3871-6401
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มเวลา 16.00 น. ( สำหรับคนที่ต้องการมาเข้าพิธีรักษาเลย น่าจะเริ่มประมาณ 17.00 น. นะ อันนี้เรากะเองนะคะผิดถูกอย่าว่ากัน )
วันศุกร์ที่ 25 เมาายน 2557 ณ วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี 6 ถนนรามคำแหง 184 มีนบุรี
กรุงเทพมหานคร โทร. 0-2518-0320 ต่อ 316 ( การเดินทางสะดวกสุดรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่ก็ taxi ไม่มีรถประจำทางผ่านคะ โบสถ์อยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างลึก อาจจะเสร็จประมาณ 20.00-21.00 น. ขึ้นอยู่กับปริมาณคนรักษา ควรมีเบอร์ taxi เพื่อเรียกรถมารับขากลับด้วยคะ จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วรอรถเกือบชั่วโมง )
ปล. ก่อนพิมพ์เราก็คิดอยู่นะว่าจะพิมพ์ดีไหม ( เราเข้าใจว่าจะต้องมีกลุ่มคนที่แอนตี้ ) แต่เราก็คิดกลับไปอีกทีเหมือนกันอีกล่ะว่า ถ้าในวันนั้นเราไม่มาเจอกระทู้ที่เกี่ยวกับการรักษาของคุณพ่อคอร์ซี่ แล้วเราจะมีวันนี้ไหม เราจะต้องดิ้นรนทนการรักษาแบบเสี่ยงๆ และเสียเงินอีกมากมายไปเท่าไหร่ รึปล่อยให้ดวงตาของเราค่อยๆ มืดบอดไปตามการรุกรานของโรคที่เป็น น้ำตาแห่งความตื่นตันความยินดีในวันที่ชีวิตเรากลับมาดีอีกครั้ง ( แม้จะไม่เหมือนเดิมก็ตาม ) มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถช่วยให้คนอื่นกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นแบบเราบ้าง เมื่อคิดดังนั้นเราจึงเลือกที่แบ่งปันประสบการณ์ของเราไว้เป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ บ้างนะคะ
และสำหรับใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่เราอยากให้คนที่กำลังคิดว่าหมดหนทางลองมารักษาดูเผื่อจะโชคดีแบบเรารึหลายคนที่เขาดีขึ้น และสำหรับท่านใดที่ไม่ได้นับถือพระเจ้าก็ไม่เป็นไรเช่นกันคะ เพราะคุณพ่อคลอซี่ ท่านรักษาให้หมด เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับว่าจะรักษาได้รึเปล่า ถ้าท่านบอกยังไม่ได้ก็คือไม่ได้คะ และในการรักษาไม่มีการเก็บค่ารักษาใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ
ปัญหาชีวิต ลงแท็กนี้เพราะเห็นว่า คนที่ต้องเจอโรครุมเร้านับเป็นปัญหาชีวิตเช่นกัน
สุขภาพกาย ลงแท็กซี้เพราะเห็นว่า เกี่ยวข้องกับโรค
แต่ถ้าคิดว่าลงผิดแท็กต้องขออภัยด้วยนะคะ
สำหรับคนเจ็บป่วยที่กำลังสิ้นหวังคะ
แต่ที่เราเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดกับตัวเรา ก็เพื่อเผื่อใครบางคนหมดทางรึกำลังสิ้นหวัง รึทุกข์ทรมานจากโรคต่างๆ ที่กำลังรุมเร้า เพราะเราเองก็กำลังเผชิญอยู่สารพัดโรคเช่นกัน และแต่ละโรคที่เราเป็นล้วนหาสาเหตุไม่ได้ ( ใครไม่เป็นไม่รู้จริงๆ นะว่ามันทุกข์แค่ไหน โดยเฉพาะจากคนปรกติที่กำลังจะกลายเป็นคนพิการ )
เรามีโรคประจำตัวหลักๆ ( ยิบๆ ย่อยๆ อีกสารพัดไม่เกี่ยวนะจ๊ะ ) เป็นความดันโลหิตสูงเมื่อตอนอายุ 23 โดยไม่ทราบสาเหตุ ( ทำการตรวจหาปัจจัยที่เป็นจากแพทย์แผนปัจจุบันมาแล้วไม่พบ ) เราต้องกินยามานับสิบปี แถมปัจจุบันเราต้องเจอะแจ็คพ็อตอีกดอก เมื่อดันมาเป็น โรคเส้นเลือดอุตตันในจอประสาทตาข้างซ้าย โดยไม่ทราบสาเหตุอีกเช่นกัน ( เป็นโรคที่เกิดกับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป แต่เราเพิ่งเลข 3 เองนะ ของเราหมอบอกน่าจะหนึ่งในล้านมั้ง ช่างน่าภูมิใจในความโชคดีเสียนี่กระไร ) ส่วนการรักษาทางการแพทย์ไม่มี นอกจากรักษาตามอาการ นับจากฉีดยาเข้าตา ไปจนยิงเลเซอร์ และจบลงที่ผ่าตัด โดยที่ไม่รับรองผลว่าจะหาย ( ไม่หายก็บอดสนิท )
ทีนี้ก็ปัญหาใหญ่สิ ขนาดเหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ยังจะสารพัดโรคเลย แถมตายังจะบอดอีก ด้วยความที่กลุ้ม ยิ่งกลุ้มยิ่งเครียด เครียดชนิดกะถ้าต้องตาบอดก็ขอลาโลกแล้วกัน ( ไม่อยากอยู่เป็นภาระใคร ) ช่วงนั้นวิ่งหาสารพัดหมอเลยจริงๆ ( ก็กลัวตาบอดนิ ทำไงได้ ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง จะได้มีกินมีใช้ตลอดชาตินี่นา ) ซึ่งอาการก็ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งสำหรับการไปตรวจในครั้งต่อมา แต่พอไปอีกครั้งอาการก็กลับมาแย่อีก ตอนนั้นกลุ้มมากเที่ยวเสิร์ชหาข้อมูลในเนตหมอที่ไหนดี ไปหาได้ไปหมดกระทั่งวันหนึ่งได้มาเจอกระทู้หนึ่งในพันทิป ข้อความในกระทู้ประมาณเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยการสัมผัสมือ ( ขออภัยเจ้าของกระทู้ที่จำชื่อไม่ได้นะคะ ) กล่าวถึงการรักษาขอ "คุณพ่อคอร์ซี่" ไว้เพียงสั้นๆ เราก็เลยนำชื่อท่านไปค้นหาในเนต และได้เจอคลิปที่ท่านรักษาคุณปิ่นจนหาย รวมทั้งตารางการมารักษาของคุณพ่อก่อนหน้าไม่กี่วัน ( อ๋อ... อันนี้เป็นการรักษาเมื่อปีที่แล้วนะ )
ช่วงระหว่างไม่กี่วันที่รอเราได้ทำสิ่งที่หลงลืมไปนาน ( เพราะความขี้เกียจส่วนตัวพรุ่งนี้ก็ได้ พรุ่งนี้ก็ได้น่า สุดท้ายก็ไม่ได้ทำสักที ) ไปคว้าพระคำภีร์ไบเบิ้ลมาอ่าน ( ต้องขออภัย เราไม่ใช่คาทอลิกและโปรเตสแตนต์ และเราไม่ใช่ศาสนิกชนที่ดีนัก แต่เราก็พยายามรักษาศีลให้มากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้ ) ช่วงนั้นจากที่เคยสวดถึงพระองค์เพียงความรู้สึกผิวเผิน กลับทุ่มเทวิงวอนและขอบคุณพระองค์สุดใจ
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง เริ่มจากวันแรกก่อน ( เราไปร่วมพิธีรักษาอยู่ 2 วัน ) ก่อนทำพิธีรักษาหลังผ่านพ้นพิธีมิสซาไปแล้ว ทางทีมงานของคุณพ่อคอร์ซี่ก็จะฉาย VTR ให้ดู ถึงคนป่วยที่ท่านไปรักษามา บางคนไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่เป็นสิบๆ ครั้ง บางครั้งแรกก็หาย บางคนคร้งแรกไม่รู้สึกอะไรจนกระทั่งผ่านไปหลายครั้งจึงเกิดปาฏิหารย์ แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกตื้นตันที่สุดระหว่างได้ดูคือ ภาพความรู้สึกดีใจของคนที่หาย มันเป็นความรู้สึกตื้นตั้น ที่กลั่นกลองมาจากความรู้สึกของผู้คนเหล่านั้นจริงๆ อืมม์... มันคงจะดีไม่น้อยเชียว ถ้าหนึ่งในนั้นเป็นเราด้วย
หลังจากผ่านพ้นการรักษาของโรคแต่ละกลุ่มไป ในที่สุดก็มาถึงตากลุ่มเราบ้าง เรารักษาเป็นกลุ่มสุดท้ายคือเป็นกลุ่มที่รักษาทุกโรครวมกัน เราและคนในกลุ่มต่างพากันเข้าไปจับมือที่คุณพ่อ โดยไม่ได้มีการบอกเลยว่าเป็นโรคอะไรมา ระหว่างนั้นเราอธิษฐานขอประทานพรการรักษาจากพระองค์ ( พระเยซูคริสต์ ) ที่ดวงตาด้านซ้าย สักพักเรามีความรู้สึกเหมือนมีกระแสบางอย่างวิ่งเข้าสู่ดวงตาด้านซ้ายของเรา และจะทำให้เราหมดแรงอยู่หลายครั้ง และคุณพ่อก็จะบีบมือเราไว้เหมือนฉุดให้เราไม่ปล่อย กระทั่งตลอดการรักษาประมาณ 5 นาทีสิ้นสุดลง เรากลับเข้าไปนั่งที่เดิมพร้อมความรู้สึกตื้นตันจนน้ำตาคลอเบ้า ( ตื้นตันที่แม้เราจะเป็นเพียงลูกแกะสีเทา ที่บางเวลาหลงลืมพระองค์ ห่างไกลจากพระองค์ แต่... พระองค์กลับไม่เคยทอดทิ้งเรา ทรงทำให้เรารู้ตัวถึงโรคที่กำลังเผชิญ ถ้าวันนั้นเครื่องสำอางค์ไม่เข้าตา ทำให้ต้องไปรักษาตาที่โรงพยาบาล บางทีกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ตาเราคงต้องเกือบบอดแน่ รึถ้าในวันที่เรามานั่งเสิรช์หาข้อมูลในเนต พระองค์ไม่ได้ดลใจให้เราพิมพ์ข้อความบางอย่าง จนมาพบกับกระทู้ที่กล่าวถึง "คุณพ่อคอร์ซี่" ในพันทิป วันนี้เราก็ยังคงต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะสูญเสียดวงตา )
และจากการรักษาวันแรกเสร็จสิ้น เราก็ตามคุณพ่อคอร์ซี่มารักษาที่โบสถ์อีกแห่งหากแต่การรักษาวันนี้ ไม่ได้มีปาฏิหาริย์ใดๆ กับเราเช่นเมื่อวาน แต่เรามีความน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งกับคนไข้สองคนที่ต้องนั่งรถเข็นเข้ามารักษา หลังจากทนความเจ็บป่วยอยู่หลายเดือน พวกเขาทั้งสองโชคดีกลับมาลุกเดินได้อีกครั้ง พร้อมกับเป็นฝ่ายเข็นรถเข็นที่นั่งมาออกจากโบสถ์
หลังจากนั้นเมื่อคุณหมอนัดเราไปพบปรากฏอาการเส้นเลือดอุดตันที่ดวงตาของเราดีขึ้น อาการบวมที่นัยน์ตายุบลง
ครั้งที่สองไปตรวจอาการดีขึ้นมากจนคุณหมอยังแปลกใจ และนัดดูอาการเราห่างขึ้นจากทุกเดือนกลายเป็นสามเดือนครั้ง
คร้งที่สามอาการยุบตัวเกือบเป็นปกติ จากเส้นเลือดที่อุตตันจนแตกกระจายตัวเป็นเส้นๆ กลับแห้งเหลือเป็นจุดๆ เล็กน้อย
ครั้งที่สี่อาการคงตัวจากครั้งที่แล้ว และยังต้องนัดตรวจเช็คกันทุกๆ 3 เดือน ตลอดไป คุณหมอไม่แน่ใจว่าโรคนี้จะกลับมาอีกหรือไม่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคที่เราเป็นอยู่ แม้จะหายก็ใช่จะกลับมามองเห็นได้ 100% แต่แค่นี้สำหรับเรานับว่าเป็นของขวัญที่วิเศษแล้ว
มาวันนี้เราเพิ่งไปรักษาอีกครั้ง แต่คราวนี้รักษาเกี่ยวกับคอ เราหมุนคอไปด้านขวาไม่ได้มันเจ็บและตึงมากจากศีรษะไปถึงบ่า เราหาหมอจัดกระดูกก็แล้ว หมอนวดก็แล้ว อบสมุนไพรก็แล้วไม่หาย วันนี้คุณพ่อสัมผัสลงบนบ่าของเราและจับเราหมุนคอ ช่วงที่จับเราหมุนคอและวางมือลงบนบ่า เรารู้สึกบางอย่างตรงศีรษะข้างที่เราเจ็บ และหลังจากการรักษาเสร็จอาการเจ็บของเราดีขึ้นมากแม้ยังไม่หายทีเดียว แต่ไม่เป็นไรยังเหลือเวลาอีกวัน สู้ๆ
แต่วันนี้มีเครสหนึ่งมีอาการเจ็บปวดที่แขนมา คุณพ่อบอกเลยว่ายังไม่รักษาให้เพราะรักษาวันนี้ก็ยังไม่หาย จะต้องทนเจ็บไปอีกสักระยะ ส่วนอีกเครสเป็นอาการเดียวกับคุณปิ่นรักษากับคุณพ่อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ปรากฏกระดูกเข่าที่ยุบตังไม่มีวันหาย ตอนนี้กลับมาเริ่มเติมเต็มอีกครั้ง แต่ก็ยังต้องรักษาอีก
สำหรับใครที่หมดหวังและอยากลองที่จะมาทำการรักษายังเหลือเวลาอีกสองวันตามกำหนดการนี้นะคะ
พิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มเวลา 13.00 น. ( สำหรับคนที่ต้องการมาเข้าพิธีรักษาเลย น่าจะเริ่มประมาณ 14.00 น. นะ อันนี้เรากะเองนะคะผิดถูกอย่าว่ากัน )
วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน 2557 ณ วัดเซนต์นิโคลัส พัทยา ถนนสุขุมวิท ก.ม.145 ต.หนองปรือ
อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โทร. 0-3871-6401
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พิธีบูชาขอบพระคุณ เริ่มเวลา 16.00 น. ( สำหรับคนที่ต้องการมาเข้าพิธีรักษาเลย น่าจะเริ่มประมาณ 17.00 น. นะ อันนี้เรากะเองนะคะผิดถูกอย่าว่ากัน )
วันศุกร์ที่ 25 เมาายน 2557 ณ วัดนักบุญโทมัส อไควนัส มีนบุรี 6 ถนนรามคำแหง 184 มีนบุรี
กรุงเทพมหานคร โทร. 0-2518-0320 ต่อ 316 ( การเดินทางสะดวกสุดรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่ก็ taxi ไม่มีรถประจำทางผ่านคะ โบสถ์อยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างลึก อาจจะเสร็จประมาณ 20.00-21.00 น. ขึ้นอยู่กับปริมาณคนรักษา ควรมีเบอร์ taxi เพื่อเรียกรถมารับขากลับด้วยคะ จากประสบการณ์ครั้งที่แล้วรอรถเกือบชั่วโมง )
ปล. ก่อนพิมพ์เราก็คิดอยู่นะว่าจะพิมพ์ดีไหม ( เราเข้าใจว่าจะต้องมีกลุ่มคนที่แอนตี้ ) แต่เราก็คิดกลับไปอีกทีเหมือนกันอีกล่ะว่า ถ้าในวันนั้นเราไม่มาเจอกระทู้ที่เกี่ยวกับการรักษาของคุณพ่อคอร์ซี่ แล้วเราจะมีวันนี้ไหม เราจะต้องดิ้นรนทนการรักษาแบบเสี่ยงๆ และเสียเงินอีกมากมายไปเท่าไหร่ รึปล่อยให้ดวงตาของเราค่อยๆ มืดบอดไปตามการรุกรานของโรคที่เป็น น้ำตาแห่งความตื่นตันความยินดีในวันที่ชีวิตเรากลับมาดีอีกครั้ง ( แม้จะไม่เหมือนเดิมก็ตาม ) มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถช่วยให้คนอื่นกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นแบบเราบ้าง เมื่อคิดดังนั้นเราจึงเลือกที่แบ่งปันประสบการณ์ของเราไว้เป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ บ้างนะคะ
และสำหรับใครไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่เราอยากให้คนที่กำลังคิดว่าหมดหนทางลองมารักษาดูเผื่อจะโชคดีแบบเรารึหลายคนที่เขาดีขึ้น และสำหรับท่านใดที่ไม่ได้นับถือพระเจ้าก็ไม่เป็นไรเช่นกันคะ เพราะคุณพ่อคลอซี่ ท่านรักษาให้หมด เพียงแต่ว่าขึ้นอยู่กับว่าจะรักษาได้รึเปล่า ถ้าท่านบอกยังไม่ได้ก็คือไม่ได้คะ และในการรักษาไม่มีการเก็บค่ารักษาใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ
ปัญหาชีวิต ลงแท็กนี้เพราะเห็นว่า คนที่ต้องเจอโรครุมเร้านับเป็นปัญหาชีวิตเช่นกัน
สุขภาพกาย ลงแท็กซี้เพราะเห็นว่า เกี่ยวข้องกับโรค
แต่ถ้าคิดว่าลงผิดแท็กต้องขออภัยด้วยนะคะ