ทุกวันนี้แผนแทบจะไม่เป็นแผนจะแตกแหล่ไม่แตกแหล่ ... เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดในแผนนี้ มันอยู่ที่ตัวของเขมชาติ ถ้าตัวเองยังคุมไม่ได้แล้วมันจะไปคุมอะไรได้หา .... พูด !!!! คุมอะไรตัวเองไม่ได้ซักอย่างเดียว มีแต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป เช่นเดียวกับสุริยาวดี ... เธออาจไม่รู้ว่าเธอคือเป้าหมายของแผน แต่เธอก็ทะนงตัวและบอกใจตัวเองรวมทั้งเขมชาติเสมอว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร แต่ที่จริง มันเป็น และ มันมี แต่สุริยาวดีก็ยังเป็นสุริยาวดี เมื่อเธอตัดสินใจ ... ไม่คือไม่ ใช่คือใช่ No perhaps No maybe
ใจของเขมชาติก็เช่นเดียวกัน ใจเพียรบอกตัวเองว่ามันคือแผน ปากพูดไปอย่านึกว่าจะรู้สึกอะไร อย่านึกว่าจะเจ็บอีก ... ซึ่งไม่เลย อันที่จริง มันมี และ มันเจ็บ ผิดแต่ว่ามันกำลังจะปะทุ มันกำลังถึงเวลาที่จะต้อง ... ปิดเกมส์
หากจะเทียบเหตุการณ์วันนี้มันก็คล้ายไฟเพียรที่เก็บกักตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเยือกเย็น เงิน ... ไม่ได้ผล ... กำลัง ... ก็ไม่ได้ผล ... แผนที่มีทั้งลูกล่อลูกชน เหมือนจะได้แต่สุดท้ายตัวเองก็ไม่นิ่งพอ ยังเจ็บยังปวดอยู่กับอดีต ยังรวดยังร้าวกับปัจจุบันที่กำลังเป็นอยู่ สุดท้ายก็ยังผิดหวัง สุดท้ายก็ยังไร้ค่า สุดท้ายก็เป็นเพียงตัวอะไรสักอย่างที่ไม่น่าจดจำ สิ่งที่ทำได้คือมองหน้าน้ำตาคลอ ... บอกว่าไม่เชื่อ บอกว่าไม่จริง แต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้เลย และแล้วผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชีวิตของเขมชาติก็คือสุริยาวดี
หากดวงดอกไม้สีม่วงหวานคือเหตุที่ทำให้ใจของใครคนหนึ่งสลายลงจน "แผนการ" บังเกิด แหวนฟอร์เก็ตมีน็อตก็ คือ ฟางเส้นสุดท้ายที่เหยียบย่ำซ้ำซ้อน crush หัวใจที่แหลกสลายลงแล้วให้เป็นฝุ่นผงปลิวไปกับตา "แม้นรักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อได้วายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย" เมื่อเธอตัดสินใจเด็ดขาดหันหลังจากไปไม่เหลียวหลังกลับมาแล้วจริง ๆ ทิ้งแล้วซึ่งหัวใจที่เคยบอกว่าจะดูแล หัวใจที่เคยเอ่ยปากว่ามอบไว้ให้เธอแต่เพียงผู้เดียว แล้วฟางเส้นน้อย ๆ ก็ทำให้ลาหลังหัก และ ฟางเส้นน้อย ๆ ก็กลายเป็นเชื้อไฟ ที่จะบวกกับคำลวงให้มันมอดไหม้ลามเป็นไฟกองใหญ่ ... แล้วเผาทุกสิ่งให้เป็นจุณ
แล้วเธอจะต้องรู้สึกเหมือนกัน ... สุริยาวดี
Just gonna stand there and watch me burn
It's all right because I like the way it hurts
Just gonna stand there and hear me cries
It's all right because I love the way you lie ... I love the way you lie.
ได้สิได้ให้ยืนอยู่ที่ตรงนั้น
ให้เห็นกันกับตาว่ามอดไหม้
ความปวดเจ็บก้าวย่ำอยู่ในใจ
ไม่เป็นไรให้ใจได้ชินชา
ได้สิได้ให้ยืนอยู่ที่ตรงนี้
ดูให้ดีว่าโทมนัสา
น้ำตาตกคงระรื่นชื่นอุรา
เสน่หากลั่นออกมาจากคำลวง
อย่าลืมฉัน(กึ่งรีวิว)ในคืนนี้ : Crush and Burn ...
ทุกวันนี้แผนแทบจะไม่เป็นแผนจะแตกแหล่ไม่แตกแหล่ ... เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดในแผนนี้ มันอยู่ที่ตัวของเขมชาติ ถ้าตัวเองยังคุมไม่ได้แล้วมันจะไปคุมอะไรได้หา .... พูด !!!! คุมอะไรตัวเองไม่ได้ซักอย่างเดียว มีแต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป เช่นเดียวกับสุริยาวดี ... เธออาจไม่รู้ว่าเธอคือเป้าหมายของแผน แต่เธอก็ทะนงตัวและบอกใจตัวเองรวมทั้งเขมชาติเสมอว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร แต่ที่จริง มันเป็น และ มันมี แต่สุริยาวดีก็ยังเป็นสุริยาวดี เมื่อเธอตัดสินใจ ... ไม่คือไม่ ใช่คือใช่ No perhaps No maybe
หากจะเทียบเหตุการณ์วันนี้มันก็คล้ายไฟเพียรที่เก็บกักตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเยือกเย็น เงิน ... ไม่ได้ผล ... กำลัง ... ก็ไม่ได้ผล ... แผนที่มีทั้งลูกล่อลูกชน เหมือนจะได้แต่สุดท้ายตัวเองก็ไม่นิ่งพอ ยังเจ็บยังปวดอยู่กับอดีต ยังรวดยังร้าวกับปัจจุบันที่กำลังเป็นอยู่ สุดท้ายก็ยังผิดหวัง สุดท้ายก็ยังไร้ค่า สุดท้ายก็เป็นเพียงตัวอะไรสักอย่างที่ไม่น่าจดจำ สิ่งที่ทำได้คือมองหน้าน้ำตาคลอ ... บอกว่าไม่เชื่อ บอกว่าไม่จริง แต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้เลย และแล้วผู้หญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชีวิตของเขมชาติก็คือสุริยาวดี
หากดวงดอกไม้สีม่วงหวานคือเหตุที่ทำให้ใจของใครคนหนึ่งสลายลงจน "แผนการ" บังเกิด แหวนฟอร์เก็ตมีน็อตก็ คือ ฟางเส้นสุดท้ายที่เหยียบย่ำซ้ำซ้อน crush หัวใจที่แหลกสลายลงแล้วให้เป็นฝุ่นผงปลิวไปกับตา "แม้นรักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อได้วายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย" เมื่อเธอตัดสินใจเด็ดขาดหันหลังจากไปไม่เหลียวหลังกลับมาแล้วจริง ๆ ทิ้งแล้วซึ่งหัวใจที่เคยบอกว่าจะดูแล หัวใจที่เคยเอ่ยปากว่ามอบไว้ให้เธอแต่เพียงผู้เดียว แล้วฟางเส้นน้อย ๆ ก็ทำให้ลาหลังหัก และ ฟางเส้นน้อย ๆ ก็กลายเป็นเชื้อไฟ ที่จะบวกกับคำลวงให้มันมอดไหม้ลามเป็นไฟกองใหญ่ ... แล้วเผาทุกสิ่งให้เป็นจุณ
It's all right because I like the way it hurts
Just gonna stand there and hear me cries
It's all right because I love the way you lie ... I love the way you lie.
ให้เห็นกันกับตาว่ามอดไหม้
ความปวดเจ็บก้าวย่ำอยู่ในใจ
ไม่เป็นไรให้ใจได้ชินชา
ได้สิได้ให้ยืนอยู่ที่ตรงนี้
ดูให้ดีว่าโทมนัสา
น้ำตาตกคงระรื่นชื่นอุรา
เสน่หากลั่นออกมาจากคำลวง