ในวัฒนธรรมการทำงานของบริษัทญี่ปุ่นนั้น การทำโอทีคงเป็นสิ่งหนึ่งที่พนักงานทุกคนอาจเลี่ยงไม่ได้ จะต้องทำมากหรือน้อยก็แล้วแต่กรณี
โดยเฉพาะแผนกด้านวิศวกรรมที่ดิชั้นเป็นหนึ่งในนี้ มีหน้าที่ดูแลการผลิตในโรงงานที่ผลิตตลอด24ชั่วโมง และงานก็มีมากมาย
เรียกได้ว่าover load เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่มีในทีม เดี๊ยนก็เข้าใจนะคะว่าบริษัทต้องการใช้ทรัพยากรบุคลลให้คุ้มค่าที่สุด
บางก็คนก็คงenjoyที่จะได้ทำงานหนักๆ
แต่สำหรับตัวเดี๊ยนแล้วคิดว่าอยากมีเวลาเป็นของตัวเองมากกว่า
ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ก็ก็ทำโอทีเยอะนะคะ เพราะ อยากได้
เงิน เคยมีอยู่เดือนนึงทำไป60ชั่วโมง
ไม่เคยได้เห็นพระอาทิตย์ตอนเย็นเลย
ถ้าวันไหนกลับเร็วก่อนพระอาทิตย์ตก ดิชั้นเดินออกมาจากออฟฟิศแล้วจะงงๆนิดหน่อย เพราะปกติชินว่าเดินออกมาแล้วมันมืด
แต่พอผ่านไปสักพักไม่ถึงปี เริ่มอยากได้เวลามากกว่าเงินค่ะ ตอนนี้ทำโอทีประมาณ20ชั่วโมง
ตอนเย็นหลังเลิกงานอยากมีเวลาเป็นของตัวเอง ไปเดินเล่น ทำกับข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีส์Walking dead ออกกำลังกาย ฯลฯ
ได้เงินน้อยลงก็ไม่เป็นไร....
แต่ที่เกรงใจคือ เพื่อนๆพี่ๆในทีม เห็นพวกเค้าทำงานกันหนัก ดิชั้นจะกลับก่อนบ่อยๆก็ละอายใจตัวเอง....
เบื่อทำโอที อยากมีเวลาพักผ่อน ไปเที่ยว ฯลฯ
โดยเฉพาะแผนกด้านวิศวกรรมที่ดิชั้นเป็นหนึ่งในนี้ มีหน้าที่ดูแลการผลิตในโรงงานที่ผลิตตลอด24ชั่วโมง และงานก็มีมากมาย
เรียกได้ว่าover load เมื่อเทียบกับจำนวนคนที่มีในทีม เดี๊ยนก็เข้าใจนะคะว่าบริษัทต้องการใช้ทรัพยากรบุคลลให้คุ้มค่าที่สุด
บางก็คนก็คงenjoyที่จะได้ทำงานหนักๆ
แต่สำหรับตัวเดี๊ยนแล้วคิดว่าอยากมีเวลาเป็นของตัวเองมากกว่า
ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ก็ก็ทำโอทีเยอะนะคะ เพราะ อยากได้เงิน เคยมีอยู่เดือนนึงทำไป60ชั่วโมง
ไม่เคยได้เห็นพระอาทิตย์ตอนเย็นเลย
ถ้าวันไหนกลับเร็วก่อนพระอาทิตย์ตก ดิชั้นเดินออกมาจากออฟฟิศแล้วจะงงๆนิดหน่อย เพราะปกติชินว่าเดินออกมาแล้วมันมืด
แต่พอผ่านไปสักพักไม่ถึงปี เริ่มอยากได้เวลามากกว่าเงินค่ะ ตอนนี้ทำโอทีประมาณ20ชั่วโมง
ตอนเย็นหลังเลิกงานอยากมีเวลาเป็นของตัวเอง ไปเดินเล่น ทำกับข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีส์Walking dead ออกกำลังกาย ฯลฯ
ได้เงินน้อยลงก็ไม่เป็นไร....
แต่ที่เกรงใจคือ เพื่อนๆพี่ๆในทีม เห็นพวกเค้าทำงานกันหนัก ดิชั้นจะกลับก่อนบ่อยๆก็ละอายใจตัวเอง....