คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
พืชตามพระวินัยนั้นมี ๒ ชนิด คือ
ภูตคาม และ พีชคาม
ภูตคาม หมายเอา พืชที่พรากแล้วงอกใหม่ไม่ได้ ภิกษุพรากเองก็ดี ใช้ผู้อื่นก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ส่วนพีชคาม สามารถงอกใหม่ได้ ภิกษุพรากต้องอาบัติทุกกฏ
แต่น้ำและยา ๔ ชนิด คือ มูตร คูถ เถ้า และดิน
เอามาดื่มและฉันเป็นยาได้เลย ไม่เป็นอาบัติ
ในอรรถกถา ท่านว่า ถ้าเจตนาจะรักษาพยาบาล
ภิกษุแม้พรากของเขียว ตัดไม้มาเผาเอาเถ้า หรือ ขุดดิน ไม่ปรับอาบัติ...
ภูตคาม และ พีชคาม
ภูตคาม หมายเอา พืชที่พรากแล้วงอกใหม่ไม่ได้ ภิกษุพรากเองก็ดี ใช้ผู้อื่นก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ส่วนพีชคาม สามารถงอกใหม่ได้ ภิกษุพรากต้องอาบัติทุกกฏ
แต่น้ำและยา ๔ ชนิด คือ มูตร คูถ เถ้า และดิน
เอามาดื่มและฉันเป็นยาได้เลย ไม่เป็นอาบัติ
ในอรรถกถา ท่านว่า ถ้าเจตนาจะรักษาพยาบาล
ภิกษุแม้พรากของเขียว ตัดไม้มาเผาเอาเถ้า หรือ ขุดดิน ไม่ปรับอาบัติ...
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาสนาพุทธ
ภิกษุมีแผล เด็ดใบไม้มารักษา ต้องอาบัติหรือไม่?
แต่ต้องอาบัติข้อไหน และต้องปลงยังไง
ขอบคุณครับ