"โลว์คอสต์" บุก "ญี่ปุ่น-เกาหลี" ระเบิดศึก"ตั๋วถูก"ชนการบินไทย!?

จากประชาชาติออนไลน์

3 ยักษ์โลว์คอสต์ "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์-นกสกู๊ต-ไทยไลอ้อนแอร์" ประกาศแลกหมัดบนสังเวียนบินระยะกลาง-ไกล "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์" พร้อมเทกออฟพฤษภาคมนี้ ส่วน "นกสกู๊ต" ลั่นไตรมาส 3 เปิดแน่ ขณะที่ "ไทยไลอ้อนแอร์" ตั้งเป้าอีก 2 ปีเดินหน้าลุย หลังฐานบินเมืองไทยแน่น เผยทุกค่ายมุ่งเจาะตลาด "ญี่ปุ่น-เกาหลี-จีน" เอาใจคนไทย จับตาสงครามราคาระเบิดอีกรอบ คาดเค้กก้อนใหญ่ "การบินไทย" สะเทือน

ความเคลื่อนไหวของธุรกิจสายการบินที่น่าจับตามองในขณะนี้ คือ การเปิดศึกชิงน่านฟ้าของสายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ที่หันมารุกตลาดการบินระยะกลาง-ไกล (Medium Haul / Long Haul) หรือใช้เวลาบินประมาณ 4-8 ชั่วโมง ซึ่งล่าสุด สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และนกสกู๊ต มีแผนจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ จากเดิมที่เน้นการใช้บริการเฉพาะเส้นทางภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก และคาดว่าตลาดนี้จะมีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตที่ดี เนื่องจากปัจจุบันนักเดินทาง ท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้หันมาใช้บริการโลว์คอสต์มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้สายการบินอื่น ๆ กล้าตัดสินใจที่จะกระโดดเข้าสู่ตลาดโลว์คอสต์ลองฮอลมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาสายการบินไทย แอร์เอเชีย ได้เปิดตัวสายการบินใหม่ ภายใต้ "ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์" สำหรับทำการบินระยะกลางและระยะไกล และได้รับอนุมัติใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศจากกรมการบินพลเรือนแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้แต่งตั้งนายนัดดา บุรณศิริ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคาดว่าไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีสายการบิน "นกสกู๊ต" บริษัทร่วมทุนระหว่างสายการบินนกแอร์และสกู๊ต สายการบินราคาประหยัดในกลุ่มสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เพื่อเปิดเส้นทางบินโลว์คอสต์สำหรับเส้นการบินลองฮอล คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3 นี้ ขณะที่ไทยไลอ้อนแอร์ สายการบินสัญชาติอินโดนีเซียที่ได้เข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย และใช้ฐานการบินที่ดอนเมืองเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็มีแผนเปิดเส้นทางบินลองฮอลด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวจากวงการการบินโลว์คอสต์แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การทยอยเปิดตัวของ 3 สายการบินดังกล่าวจะทำให้การแข่งขันของโลว์คอสต์แอร์ไลน์เปลี่ยนโฉมหน้าไป จากเดิมที่การแข่งขันของเส้นทางภายในประเทศและเส้นทางประเทศเพื่อนบ้านจะมีความรุนแรงก็จะขยายวงไปถึงเส้นทางบินระยะกลาง ซึ่งใช้เวลาบินประมาณ 4-6 ชั่วโมง และเส้นทางบินระยะไกลที่ใช้เวลาบินประมาณ 6-8 ชั่วโมง"

"ไทยแอร์ฯ-นกสกู๊ต" คู่เปิดสนาม

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์มีเครื่องบินเข้ามาแล้ว 2 ลำ เป็นเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จากเดิมมีแผนจะเปิดให้บริการเที่ยวบินประจำใน 3 เส้นทางในภูมิภาคเอเชียเหนือในช่วงไตรมาสแรก แต่ต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เอื้อ และต้องหันมาทำตลาดด้วยการขายแบบเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ในช่วงเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวบินประจำได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าเส้นทางแรกที่เปิดให้บริการคือ เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์เตรียมแถลงข่าวเปิดตัวสายการบินและเส้นทางบินอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 เมษายนนี้

ขณะที่นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์กล่าวว่า ตลาดโลว์คอสต์เส้นทางบินระยะกลางและไกลถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และมีแผนเปิดให้บริการนกสกู๊ตในช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ตามแผน 5 ปีแรกได้เตรียมเช่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 จำนวน 7 ลำ ลำแรกจะเข้ามาในปีนี้ ตามด้วยลำที่ 2 ในปีหน้า เส้นทางที่สนใจจะบินนั้นมีทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และปักกิ่ง (จีน) ซึ่งดีมานด์ทั้งฝั่งไทยและ 4 เดสติเนชั่นนี้ดีมาก

"นกสกู๊ตและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ จะช่วยเพิ่มปริมาณที่นั่งผู้โดยสารในตลาดเอเชียเหนือได้มากขึ้น อย่างเส้นทางญี่ปุ่น คาดว่าทั้ง 2 สายการบินจะช่วยเพิ่มที่นั่งในตลาดอีก 15% ส่วนราคาตั๋วบินนั้นจะต้องตั้งแบบคุ้มค่า เพื่อกระตุ้นดีมานด์ให้ดีต่อเนื่อง และถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนไทยจะได้บินไปแถบเอเชียเหนือ ซึ่งเป็นเดสติเนชั่นยอดนิยมของคนไทย" นายพาทีกล่าว

"ไทยไลอ้อนแอร์" รอจังหวะลุย

นายนำพล รุ่งสว่าง ผู้จัดการแผนการขายและการตลาด บริษัท ไทย ไลอ้อน เมนทารี จำกัด ผู้บริหารสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ไทยไลอ้อนแอร์สนใจทำการบินในเส้นทางระยะไกล เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เนื่องจากแนวโน้มตลาดนี้ดีมานด์สูง โดยเฉพาะตลาดคนไทยที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวโซนเอเชียตะวันออกเป็นจำนวนมาก และจะเห็นได้จากปีนี้ สายการบินโลว์คอสต์ทั้งไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์และนกสกู๊ต ที่หันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้ สำหรับไทยไลอ้อนแอร์เตรียมจะให้บริการในเส้นทางลองฮอล คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน 2 ปีนับจากนี้ หรือราวปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ไทยไลอ้อนแอร์จะมีฝูงบินรวม 20 ลำ เพื่อมาขยายเน็ตเวิร์กเส้นทางบินทั้งในและระหว่างประเทศให้แข็งแกร่งมากขึ้น

สำหรับปีนี้หลัก ๆ บริษัทจะเน้นแผนขยายการลงทุนระยะยาวในไทยต่อเนื่อง และจะทยอยรับมอบเครื่องบินเฉลี่ยเดือนละ 1 ลำ ทำให้ปีนี้ไทยไลอ้อนแอร์จะมีเครื่องบินรวม 12-13 ลำ และนอกจากฐานการบินที่ดอนเมือง ตอนนี้บริษัทพยายามผลักดันให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางหรือฮับทางการบินอีกแห่ง โดยจะนำเครื่องบินเอทีอาร์มาทำการบินในเส้นทางหาดใหญ่-สุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่-หัวหิน, หาดใหญ่-สุบังจายา ประเทศมาเลเซีย และหาดใหญ่-เมดาน ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนเส้นทางภายในประเทศเส้นทางอื่น ๆ บริษัทได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางยอดนิยม เช่น ดอนเมือง-เชียงใหม่ เป็น 5 เที่ยวบินต่อวัน ดอนเมือง-หาดใหญ่ 4 เที่ยวบินต่อวัน และภายในปีนี้จะเปิดเส้นทางบินหลัก ๆ ครบทั้งหมด อาทิ ดอนเมือง-อุบลราชธานี, ดอนเมือง-อุดรธานี, ดอนเมือง-เชียงราย และดอนเมือง-สุราษฎร์ธานี

สำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศ นอกจากดอนเมืองไปมาเลเซียและอินโดนีเซียแล้ว ภายในปีนี้จะเพิ่มเส้นทางบินจากดอนเมืองไปฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเก๊า รวมไปถึงจีนใน 2-3 เมือง ได้แก่ กว่างโจว เสิ่นเจิ้น และอู่ฮั่น รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ชื่นชอบการมาเที่ยวเมืองไทย

วงการชี้สะเทือนการบินไทย

ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจสายการบินตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ว่า การเกิดขึ้นของสายการบินโลว์คอสต์ ตลาดบินระยะกลาง-ไกล ทั้งไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และนกสกู๊ต ที่มีแผนจะเปิดบริการดังกล่าว รวมถึงไทยไลอ้อนแอร์ก็มีแผนดังกล่าวภายใน 2 ปี จะเป็นการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดของสายการบินพรีเมี่ยม โดยเฉพาะสายการบินไทย ที่มีตลาดหลักคือเส้นทางบินไปญี่ปุ่น และเป็นเส้นทางสร้างรายได้หลักให้กับการบินไทย    

ขณะที่นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การที่มีสายการบินโลว์คอสต์เตรียมลงแย่งเค้กตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น มองว่าตลาดที่น่าจะตอบสนองได้ดีสุดคือคนไทย เพราะมีพฤติกรรมชื่นชอบตั๋วบินราคาประหยัด อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดคนญี่ปุ่นแล้วส่วนใหญ่นิยมใช้บริการสายการบินพรีเมี่ยม ซึ่งเส้นทางบินไทย-ญี่ปุ่น การบินไทยมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ปัจจุบันบินไป 5 เมือง ได้แก่ โตเกียว, โอซากา, ฟูกูโอกะ, นาโกย่า และซัปโปโร

แหล่งข่าวในวงการธุรกิจการบินรายหนึ่งกล่าวว่า การเปิดตัวของโลว์คอสต์ลองฮอล ทั้งไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และนกสกู๊ต ได้สร้างความตื่นตัวและเป็นที่จับตามองจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างมาก เนื่องจากธรรมชาติของสายการบินโลว์คอสต์ซึ่งปกติราคาตั๋วบินจะถูกกว่าสายการบินพรีเมี่ยมไม่ต่ำกว่า 30% ที่สำคัญเชื่อว่ากลยุทธ์หลักของสายการบินเหล่านี้จะยังคงใช้จุดขายด้านราคาถูกเช่นเดียวกับโลว์คอสต์ระยะสั้นออกมาเป็นระยะแน่นอน

"อย่างโปรโมชั่นของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ในช่วงเปิดตัวเส้นทางกรุงเทพฯ-ญี่ปุ่นที่วางไว้ก่อนหน้านี้และมีการโพสต์ในเว็บต่าง ๆ เริ่มต้นเพียงแค่ 1,990 บาทต่อเที่ยวเท่านั้น แต่ล่าสุดจะออกมาเท่าไหร่นั้นคงต้องรอโปรโมชั่นอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้" แหล่งข่าวกล่าว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่