เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ไปเปิดเจอโฆษณา ตัวนี้ ทำให้อยากไปกินอย่างแรงเพราะเป็นคนที่ชอบเนื้อเป็นชีวิตจิตใจ (ความจริงเคยไปกินมาแล้วรอบนึง แต่จำไม่ค่อยได้ เห็นอีกก็เลยอยากกินอีก)
ตัวเบนเองมีความเชื่อว่าของถูกและดีมีแค่ 1% เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่แล้ว You get what you pay. ด้วยราคาที่สูงถึง 1,399 บาทสำหรับแค่เนื้อย่าง จากที่ตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ 500-700 บาท เบนว่าแปลว่ามันมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเนื้อคุณภาพดีมาให้กินจริง
ร้านนี้อยู่ที่ Nihonmachi สุขุมวิท 26 ข้าง K-Village ชื่อร้านเบนไปมาสองครั้งแล้วบอกตามตรงว่าไม่รู้ว่าชื่ออะไร ลองไป search รู้สึกจะชื่อว่า Rising หรืออะไรสักอย่างค่ะ ร้านมันจะอยู่ใต้บันได
เข้าไปในร้านอย่างแรงเลยคือ รู้สึกอึดอัดและกลิ่นควันมันเยอะมาก รู้เลยว่าเครื่องดูควันทำงานแบบไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นข้อเสียมาก เพราะการกินให้อร่อยไม่ใช่แค่รสชาติที่ลิ้นอย่างเดียว มันต้องเรื่องของกลิ่นด้วย แล้วกลิ่นควันในร้านเยอะขนาดนี้ แย่เลย
เข้าไปตอนแรกไม่รู้สึกหนาวเหมือนร้านปิ้งย่างร้านอื่น ปัญหาที่สองก็จะตามมาไม่ช้า แต่หยุดไว้ตรงนี้ก่อน มาเรื่องของอาหาร
ร้านนี้มี Buffet สามราคาให้เลือกคือ 599 บาท 999 บาท 1,399 บาท เบนเลือกกินแบบ 1,399 บาท เพราะพ่ออยากกินปูค่ะ(และพ่อเป็นคนจ่าย ว่าไงว่าตามค่าา) เพราะฉะนั้นพวกเมนูในหมวด 599 กับ 999 เบนจะไม่ค่อยได้สั่งทาน เลยไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
อยากจะแนะนำสำหรับคนชอบทานร้านอาหารปิ้งย่างพวกนี้ อาหารที่มาเสิร์ฟส่วนใหญ่จะมาแบบแข็งๆ เราควรจะรอให้เนื้อทุกชนิดหายแข็ง และใกล้เคียงอุณหภูมิของห้องให้มากที่สุดก่อนที่จะนำลงไปย่าง เนื่องจาก ถ้านำเนื้อลงไปย่างทั้งที่ยังแข็งๆอยู่ texture ของเนื้อจะเสีย(เนื้อมันจะเหี่ยวๆแห้งๆฝ่อๆ เพราะว่าน้ำในเนื้อมันยังแข็งเป็นน้ำแข็งอยู่ระหว่าง cell เนื้อ ตัว cell เนื้อที่หดอยู่เนื่องจากโดยผนึงน้ำแข็งบีบไม่ได้มีโอกาสได้ขยายตัว ก่อนที่น้ำของเนื้อจะละเหยออกไป ทำให้ cell เนื้อมันลีบกว่าที่ควรจะเป็น(เบนไม่ได้เรียนด้านวิทยาศาสต์มา หากนักวิทยาศาสต์คนไหนจะมาแก้ไขข้อมูลส่วนนี้ให้ก็ยินดีนะคะ)) เพราะฉะนั้นสั่งมาก็นั่งคุยกันไปก่อนค่ะ
ข้อดีอย่างแรกที่เจอร้านนี้คือ เตาร้อนมาก ได้ใจไปเลย ต้องนั่งแบบห่างๆ แล้วเค้าก็มีไม้คีบให้คนละอันเลย ไม่ต้องแย่งกัน
มาถึงเรื่องของเนื้อ เบนสั่งทุกเมนูของ 1,399 มาลองหมดเลย
ปูนั้นเป็นปู Taraba มาจากญี่ปุ่น มาเป็นก้ามแบบ Frozen แข็งมาเลย (กรุณารอให้หายแข็งก่อนนะคะ อย่างที่บอก) texture ของเนื้อปูนั้นใช้ได้ ไม่ยุ้ย แต่จะบอกว่าสุดยอดก็ปล่าว แต่เรียกว่าใช้ได้ ส่วนรสชาตินั้นออกเค็มเล็กน้อย ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็ได้
และว่าด้วยเรื่องของน้ำจิ้ม มี choice จำกัดมาก คือมีแค่นี้
แถมออกเป็นแบบหวานๆมันๆ กินกับเนื้อมันเยอะๆแล้วเลี้ยน ถ้าน้ำจิ่มเด็ดกว่านี้ร้านนี้จะเลิศมาก
เนื้อแบบแพงนั้นมีทั้งหมด 4 ตัว
เบนติดใจสองตัวคือ เบอร์ 62 Wagyu Rib Rosu
มันเยอะ ลายสวย เนื้อกลิ่นหอม และนุ่ม
อีกตัวคือ เบอร์ 59 Shimofuri Wagyu Karubi
ตัวนี้มันจะน้อยกว่าตัวแรก แต่ว่าเนื้อนุ่ม อันนี้สั่งกินได้เรื่อยๆ ตัวแรกกินได้แค่นิดหน่อยเพราะมันมาก
เบอร์ 60 นั้นมันจะน้อยกว่า เนื้อนุ่ม แต่เรื่องกลิ่นและรสชาติไม่ติดใจเท่าสองตัวแรก
ส่วนเบอร์ 61 นั้นเป็นลิ้น มาเป็นก้อนหนาๆเลย ถึงจะใช้ได้ แต่สู้ลิ้นลูกเต๋าที่ร้าน yakinikutan ไม่ได้เลย ถ้าใครชอบลิ้น
ขอพูดถึงเรื่อง technic การย่างเนื้อเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย คือ เนื้อที่มีมันมากๆนั้น ควรจะทำให้สุกหน่อย เพื่อให้มันละลาย และกรอบๆนิดนึง ส่วนเนื้อ(อย่างดี)ที่มันน้อย (จำพวกนี้มักจะนำไปทำ steak มากกว่า slice บาง) ควรจะย่างแบบ medium rare เพราะกลิ่นและน้ำของเนื้อจะได้ยังคงอยู่ ทำให้เนื้อยังชุ่มช่ำ ส่วนลิ้นนั้นสำหรับเบนเองเห็นว่าถ้าสุกแล้วจะอร่อยกว่า เพราะด้วยส่วนลิ้นเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อเยอะมาก ถ้าสุกแล้วจะเหนี่ยวน้อยลง
ตัวสุดท้ายที่อยู่ในหมวดแพงคือ ซี่โครงแกะ แต่ตัวนี้ไม่ approve เลย เพราะทั้งเหนียวและแข็ง
มีเนื้อในส่วนของ 999 ที่เบนลองสั่งมาลอง จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพ
แล้วก็ยังมีกุ้งที่มาแบบแข็งๆ พอรับได้ แต่จะไม่สั่งอีก
หอยเซลล์พ่อแม่เบนก็บอกว่าใช้ได้ค่ะ แต่เบนไม่ได้ลอง
แล้วก็มีสั่งผักดอง(ใช้ได้) และกิมจิ(เปรี้ยวบาดลิ้น) มาอีกนิดหน่อย
สั่งค่อยข้างน้อย เพราะเน้นที่กินอย่างมีความสุข ไม่เน้นกินคุ้ม เพราะถ้ากินให้คุ้มไม่เคยมีความสุขเลยหลังกินเสร็จ แถมเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอีกต่างหาก รวมถึงถ้าต้องไปลดน้ำหนัก ต้องจ่ายอีกไม่รู้เท่าไหร กินแบบมีความสุขและพอประมาณดีกว่า ถือว่าได้ลองกินของหลายอย่าง
ที่นี่ให้เวลากิน 90 นาที กินเหลือคิดคนละ 300 บาท เครื่องดื่มไม่รวมในราคาที่กล่าวมา แต่รวมขนมและผลไม้ที่สุดแสนจะ basic เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
ถึงเนื้อร้านนี้จะดีมาก แต่อาจจะไม่กลับไปอีกเนื่องจาก ในร้านควันเยอะมากและร้อน นั่งแล้วอึดอัด และน้ำจิ้มไม่อร่อย
<ไปเห็นคนอื่นทำ เลยขอทำบ้าง> ถ้าใครสนใจ ติดตามอาหารและขนม แบบรายวัน (พร้อมชีวิตเบนอีกนิดหน่อย) สามารถติดตามกันได้ที่
www.facebook.com/fovefoodtour ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
[CR] ร้าน Buffet เนื้อย่าง Yakiniku ราคา Hi-So
ตัวเบนเองมีความเชื่อว่าของถูกและดีมีแค่ 1% เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่แล้ว You get what you pay. ด้วยราคาที่สูงถึง 1,399 บาทสำหรับแค่เนื้อย่าง จากที่ตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ 500-700 บาท เบนว่าแปลว่ามันมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีเนื้อคุณภาพดีมาให้กินจริง
ร้านนี้อยู่ที่ Nihonmachi สุขุมวิท 26 ข้าง K-Village ชื่อร้านเบนไปมาสองครั้งแล้วบอกตามตรงว่าไม่รู้ว่าชื่ออะไร ลองไป search รู้สึกจะชื่อว่า Rising หรืออะไรสักอย่างค่ะ ร้านมันจะอยู่ใต้บันได
เข้าไปในร้านอย่างแรงเลยคือ รู้สึกอึดอัดและกลิ่นควันมันเยอะมาก รู้เลยว่าเครื่องดูควันทำงานแบบไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นข้อเสียมาก เพราะการกินให้อร่อยไม่ใช่แค่รสชาติที่ลิ้นอย่างเดียว มันต้องเรื่องของกลิ่นด้วย แล้วกลิ่นควันในร้านเยอะขนาดนี้ แย่เลย
เข้าไปตอนแรกไม่รู้สึกหนาวเหมือนร้านปิ้งย่างร้านอื่น ปัญหาที่สองก็จะตามมาไม่ช้า แต่หยุดไว้ตรงนี้ก่อน มาเรื่องของอาหาร
ร้านนี้มี Buffet สามราคาให้เลือกคือ 599 บาท 999 บาท 1,399 บาท เบนเลือกกินแบบ 1,399 บาท เพราะพ่ออยากกินปูค่ะ(และพ่อเป็นคนจ่าย ว่าไงว่าตามค่าา) เพราะฉะนั้นพวกเมนูในหมวด 599 กับ 999 เบนจะไม่ค่อยได้สั่งทาน เลยไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
อยากจะแนะนำสำหรับคนชอบทานร้านอาหารปิ้งย่างพวกนี้ อาหารที่มาเสิร์ฟส่วนใหญ่จะมาแบบแข็งๆ เราควรจะรอให้เนื้อทุกชนิดหายแข็ง และใกล้เคียงอุณหภูมิของห้องให้มากที่สุดก่อนที่จะนำลงไปย่าง เนื่องจาก ถ้านำเนื้อลงไปย่างทั้งที่ยังแข็งๆอยู่ texture ของเนื้อจะเสีย(เนื้อมันจะเหี่ยวๆแห้งๆฝ่อๆ เพราะว่าน้ำในเนื้อมันยังแข็งเป็นน้ำแข็งอยู่ระหว่าง cell เนื้อ ตัว cell เนื้อที่หดอยู่เนื่องจากโดยผนึงน้ำแข็งบีบไม่ได้มีโอกาสได้ขยายตัว ก่อนที่น้ำของเนื้อจะละเหยออกไป ทำให้ cell เนื้อมันลีบกว่าที่ควรจะเป็น(เบนไม่ได้เรียนด้านวิทยาศาสต์มา หากนักวิทยาศาสต์คนไหนจะมาแก้ไขข้อมูลส่วนนี้ให้ก็ยินดีนะคะ)) เพราะฉะนั้นสั่งมาก็นั่งคุยกันไปก่อนค่ะ
ข้อดีอย่างแรกที่เจอร้านนี้คือ เตาร้อนมาก ได้ใจไปเลย ต้องนั่งแบบห่างๆ แล้วเค้าก็มีไม้คีบให้คนละอันเลย ไม่ต้องแย่งกัน
มาถึงเรื่องของเนื้อ เบนสั่งทุกเมนูของ 1,399 มาลองหมดเลย
ปูนั้นเป็นปู Taraba มาจากญี่ปุ่น มาเป็นก้ามแบบ Frozen แข็งมาเลย (กรุณารอให้หายแข็งก่อนนะคะ อย่างที่บอก) texture ของเนื้อปูนั้นใช้ได้ ไม่ยุ้ย แต่จะบอกว่าสุดยอดก็ปล่าว แต่เรียกว่าใช้ได้ ส่วนรสชาตินั้นออกเค็มเล็กน้อย ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็ได้
และว่าด้วยเรื่องของน้ำจิ้ม มี choice จำกัดมาก คือมีแค่นี้
แถมออกเป็นแบบหวานๆมันๆ กินกับเนื้อมันเยอะๆแล้วเลี้ยน ถ้าน้ำจิ่มเด็ดกว่านี้ร้านนี้จะเลิศมาก
เนื้อแบบแพงนั้นมีทั้งหมด 4 ตัว
เบนติดใจสองตัวคือ เบอร์ 62 Wagyu Rib Rosu
มันเยอะ ลายสวย เนื้อกลิ่นหอม และนุ่ม
อีกตัวคือ เบอร์ 59 Shimofuri Wagyu Karubi
ตัวนี้มันจะน้อยกว่าตัวแรก แต่ว่าเนื้อนุ่ม อันนี้สั่งกินได้เรื่อยๆ ตัวแรกกินได้แค่นิดหน่อยเพราะมันมาก
เบอร์ 60 นั้นมันจะน้อยกว่า เนื้อนุ่ม แต่เรื่องกลิ่นและรสชาติไม่ติดใจเท่าสองตัวแรก
ส่วนเบอร์ 61 นั้นเป็นลิ้น มาเป็นก้อนหนาๆเลย ถึงจะใช้ได้ แต่สู้ลิ้นลูกเต๋าที่ร้าน yakinikutan ไม่ได้เลย ถ้าใครชอบลิ้น
ขอพูดถึงเรื่อง technic การย่างเนื้อเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย คือ เนื้อที่มีมันมากๆนั้น ควรจะทำให้สุกหน่อย เพื่อให้มันละลาย และกรอบๆนิดนึง ส่วนเนื้อ(อย่างดี)ที่มันน้อย (จำพวกนี้มักจะนำไปทำ steak มากกว่า slice บาง) ควรจะย่างแบบ medium rare เพราะกลิ่นและน้ำของเนื้อจะได้ยังคงอยู่ ทำให้เนื้อยังชุ่มช่ำ ส่วนลิ้นนั้นสำหรับเบนเองเห็นว่าถ้าสุกแล้วจะอร่อยกว่า เพราะด้วยส่วนลิ้นเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อเยอะมาก ถ้าสุกแล้วจะเหนี่ยวน้อยลง
ตัวสุดท้ายที่อยู่ในหมวดแพงคือ ซี่โครงแกะ แต่ตัวนี้ไม่ approve เลย เพราะทั้งเหนียวและแข็ง
มีเนื้อในส่วนของ 999 ที่เบนลองสั่งมาลอง จะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพ
แล้วก็ยังมีกุ้งที่มาแบบแข็งๆ พอรับได้ แต่จะไม่สั่งอีก
หอยเซลล์พ่อแม่เบนก็บอกว่าใช้ได้ค่ะ แต่เบนไม่ได้ลอง
แล้วก็มีสั่งผักดอง(ใช้ได้) และกิมจิ(เปรี้ยวบาดลิ้น) มาอีกนิดหน่อย
สั่งค่อยข้างน้อย เพราะเน้นที่กินอย่างมีความสุข ไม่เน้นกินคุ้ม เพราะถ้ากินให้คุ้มไม่เคยมีความสุขเลยหลังกินเสร็จ แถมเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอีกต่างหาก รวมถึงถ้าต้องไปลดน้ำหนัก ต้องจ่ายอีกไม่รู้เท่าไหร กินแบบมีความสุขและพอประมาณดีกว่า ถือว่าได้ลองกินของหลายอย่าง
ที่นี่ให้เวลากิน 90 นาที กินเหลือคิดคนละ 300 บาท เครื่องดื่มไม่รวมในราคาที่กล่าวมา แต่รวมขนมและผลไม้ที่สุดแสนจะ basic เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา
ถึงเนื้อร้านนี้จะดีมาก แต่อาจจะไม่กลับไปอีกเนื่องจาก ในร้านควันเยอะมากและร้อน นั่งแล้วอึดอัด และน้ำจิ้มไม่อร่อย
<ไปเห็นคนอื่นทำ เลยขอทำบ้าง> ถ้าใครสนใจ ติดตามอาหารและขนม แบบรายวัน (พร้อมชีวิตเบนอีกนิดหน่อย) สามารถติดตามกันได้ที่
www.facebook.com/fovefoodtour ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น