กรุงเทพประกันภัย เอาเปรียบคู่กรณีที่เสียชีวิต

ขอแชร์ประสบการณ์ตรงที่ได้รับจากบริษัทกรุงเทพประกันภัยที่ไร้จรรยาบรรณของพนักงานและเอาเปรียบการจ่ายสินไหมคู่กรณีที่เสียชีวิต

เหตุเกิดวันที่ 8 สิงหาคม 2556 พี่สาวขับรถยนต์จอดติดไฟแดงแยกโรงเรียนฤทธิยะ แถว รพ.ภูมิพลและมีรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกสินค้าเต็มรถของบริษัทคอมมานเดอร์ทรานสปอร์ต   มาชนท้ายรถยนต์พี่สาว ทำให้พี่สาวอาการบาดเจ็บสาหัสมากก่อนเสียชีวิต ซึ่งพี่สาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องเลี้ยงดูลูกสองคนเพียงคนเดียว รถพ่วงมีประกัน พรบ.ส่วนหัวกับกรุงเทพประกันภัย พรบ.ส่วนหางกับอินทรประกันภัย ส่วนประกันภาคสมัครใจทำกับกรุงเทพประกันภัย วงเงิน 1,000,000 บาท ผลจากอุบัติเหตุทำให้พี่สาวเสียชีวิตวันที่ 15 สค.56 ทั้งที่ลูกสองคนยังเรียนหนังสืออยู่ ลูกชาย 20 ปี ลูกสาว 15 ปี ซึ่งก่อนพี่สาวเสียชีวิตนั้น พนง.เคลมของกรุงเทพประกันภัยที่ติดต่ออยู่ ชื่อวัชรินทร์ พูดจาดีทุกอย่าง แต่หลังจากพี่สาวเสียแล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ต่อไปนี้คือการกระทำและคำพูดของ พนง และทีมบริหารชื่อประลองพลของกรุงเทพประกันภัย

1.พนง.เคลมกรุงเทพประกันภัยโทรมานัดให้ไปเจอกันที่ สน. สายไหม วันที่เขานัดเป็นวันทำงานของดิฉัน จึงขอเลื่อนนัดเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ได้ไหม คำตอบที่ได้คือ ไม่ได้ เสาร์อาทิตย์ผมต้องอยู่กับลูกเมีย ดิฉันอึ้งมาก อยากทราบจริงๆว่าคำพูดแบบนี้เป็นมาตราฐานการให้บริการของกรุงเทพประกันภัยใช่ไหม

2. กรุงเทพประกันภัยพยายามประวิงเวลาในการจ่ายเงินชดเชย พรบ.มีเหตุผลมากมายมาอธิบายว่าทำไมจ่ายไม่ได้ ในขณะที่อินทรประกันภัย ยืนยันเลยว่าจ่ายได้เพราะ พรบ.เป็นกฏหมายบังคับที่ต้องจ่าย และขอทำเรื่องจ่ายเลย สุดท้ายอินทรฯยืนยันจ่าย ในที่สุดกรุงเทพประกันภัยจึงต้องจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหตุผลที่กรุงเทพประกันภัยไม่จ่ายเพราะลูกสาวคนเล็กของพี่สาวยังไม่ครบ 20 ปี แต่อินทรฯ จ่ายเพราะเหตุผล พรบ.เป็นกฎหมายบังคับต้องจ่ายและลูกพี่สาวสองคนยังเรียนอยู่ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ข้อตกลงนี้ได้ลงบันทึกที่ สน.สายไหม ในวันที่ 19 พย 56 และกรุงเทพประกันภัย ยังตกลงจ่ายค่าซากรถ 50,000 บาท โดยจะจ่ายภายใน 30 วัน

ประมาณต้นเดือน ธค 56 ดิฉันได้โทรไปหา พนง.กรุงเทพประกันภัยว่าเช็อออกวันไหน เขาแจ้งว่าน่าจะเป็นวันที่ 18 ธค.56 ดิฉันงานยุ่งเลยโทรหากรุงเทพประกันภัยอีกทีประมาณวันที่ 20 กว่าๆ ธค 56  เขาบอกว่าพูดไม่รู้เรื่องรึไงบอกไปแล้วว่าเช็คออกวันที่ 18 ธค ครั้งนี้ดิฉันรู้สึกโกรธมาก ก็เลยถามกลับว่าคุณบอกเช็คน่าจะออกวันที่ 18 ธค. แต่คุณไม่โทรมายืนยันแล้วถ้าเช็คออกแล้ว ทำไมไม่โทรมาแจ้งละ  เขาก็เปลี่ยนเรื่องให้ดิฉันโทรไปนัด สน.สายไหม และอินทรฯ เขาจะจ่ายพร้อมอินทรฯ หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่สามารถติดต่อ พนง. ของกรุงเทพประกันภัยได้เลย โทรไม่ติดบ้าง ไม่รับสายและไม่โทรกลับ  ดิฉันพยายามโทรเข้าออฟฟิตหลายครั้ง ฝากเรื่องก็ไม่โทรกลับ ครั้งสุดท้ายดิฉันโทรไปฝากเรื่องกะคุณณัฐพงศ์ และบอกว่าดิฉันจะไม่โทรมาอีกแล้ว  ดิฉันจะไปฟ้อง คปภ ได้ผลทันที พนง. เคลมโทรกลับมาหาดิฉัน แล้วนัดว่าให้ไปเจอกันที่ สน. สายไหม วันที่ 13 มค 57 ดิฉันถามว่าตอนนี้ทำไมยอมจ่ายได้แล้ว ทั้งที่ไม่ได้นัดอินทรประกันภัย พนง.กรุงเทพประกันภัยบอกว่า เรื่องมันแล้วก็ให้แล้วไปครับ อย่าพูดถึงเลย ผมนัดสน.แล้ววันที่ 13 มค57

3. วันที่ 13 มค 57 เมื่อรับเช็คค่า พรบ.แล้ว พนง. กรุงเทพประกันภัยบอกว่าค่าซากรถไม่จ่าย 50,000 บาทแล้ว เพราะซากรถไม่มีคนรับซื้อ และวันนี้จะลากซากรถไป ดิฉันงงมาก ถามว่าแล้วคุณให้ราคาได้ยังไงครั้งที่แล้ว และได้บันทึกที่ สน.สายไหมไปแล้วด้วย และยังได้ถามถึงค่าสินไหมที่ขอให้จ่ายชดเชย 1,000,000 บาท เนื่องจากลูกสองคนของพี่สาวต้องใช้เป็นทุนการศึกษา เขาบอกแล้วจะแจ้งว่าจ่ายเท่าไหร่

4. วันที่ 22 มค57 ได้รับอีเมล์จากกรุงเทพประกันภัย ว่าจะจ่าย 500,000 บาท เขาบอกว่า เหมาะสมแล้ว ซึ่งดิฉันถามว่าคุณพิจารณาจ่ายจากอะไร สำหรับหนึ่งชีวิตของผู้หญิงที่เป็นทั้งแม่และพ่อ สำหรับลูกทั้งสองคนนับเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่จนเทียบกับความรู้สึกเสียใจไม่ได้เลยสักนิด มันคือการสูญเสียที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะไม่ได้ทำหน้าที่ของคนที่เป็นแม่ และเป็นการสูญเสียที่จะทำให้ลูกทั้งสองคนไม่มีโอกาสเรียกผู้หญิงที่ทำหน้าที่ของแม่ได้ โดยไม่ขาดตกบกพร่องว่าแม่อีกแล้ว...ตลอดกาล  สิ่งที่ลูกทั้งสองของพี่สาวดิฉันได้รับมันมากกว่าความเสียใจไปมากโข การสูญเสียครั้งนี้สำหรับตัวดิฉันเองก็ถือเป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดมากแล้ว แต่สำหรับลูกทั้งสองของพี่สาวมันคงไม่ใช่แค่การสูญเสียแต่เป็นการสูญหายไปเลยเสียมากกว่า เพราะพวกเขาจะไม่มีคนที่เป็นกำลังใจ เป็นรอยยิ้ม เป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดยามทุกข์ใจ รวมถึงทุกอย่างที่คนเป็นแม่พร้อมจะทำให้ลูกได้โดยไร้เงื่อนไข ส่วนลูกสองคนของพี่สาวยังต้องเรียนอีกหลายปี เฉพาะค่ากินอยู่อย่างเดียวของเด็กสองคน เงินนี้ก็คงใช้ได้แค่ 3-4 ปีเท่านั้น ถึงแม้จะรวมเงิน พรบ.ก็เถอะ แต่กรุงเทพประกันภัยยืนยันจะจ่ายเท่านั้น ดิฉันก็ไม่รู้จะว่าไงต่อ

เพื่อนดิฉันที่เป็นทนายและไป สน.สายไหม กับดิฉันด้วยกันในครั้งแรกแนะนำว่าคงต้องพึ่งศาลแล้วละ  และดิฉันยังได้เล่าเรื่องพฤติกรรมและคำพูดของ พนง.เคลม ให้ทีมบริหารชื่อประลองพลฟัง คำตอบที่ได้รับช็อคสุดๆ ทีมบริหารบริษัทประกันภัยชั้นหนึ่งกรุงเทพประกันภัย  ตอบว่า แล้วไง เสาร์อาทิตย์เขาก็ต้องอยู่กับลูกเมีย ผิดตรงไหน ส่วนเรื่องให้ดิฉันไปนัด สน.สายไหม นัดอินทรฯนัดได้แล้วโทรมาแจ้งเขาคือ พนง.เคลมกรุงเทพประกันภัย คุณประลองพลบอกว่าก็ดีแล้ว เดี๋ยวคนของเรานัดแล้วคุณไม่ว่าง คุณนัดเองน่ะดีแล้ว ถ้าทีมบริหารก็เป็นอย่างนี้ด้วย มาตราฐานการให้บริการของกรุงเทพประกันภัยคงไม่ต้องพูดถึงจรรยาบรรณแล้ว เอาเปรียบได้เท่าไรก็คงเอาเปรียบเต็มที่ ส่วนเรื่องซากรถแม้ได้ลงบันทึกที่ สน.สายไหมแล้ว กรุงเทพประกันภัยก็ยังไม่ยอมจ่ายจนทุกวันนี้  สำหรับเพื่อนๆ ที่มีความรู้เรื่องการชดเชยค่าสินไหม อยากขอให้ช่วยแชร์ด้วยว่า ดิฉันควรต้องทำอย่างไรต่อไปค่ะ  

ทั้งนี้ดิฉันขอฝากถึงฝ่ายบริหารสูงสุดของกรุงเทพประกันภัยในการพิจารณาจ่ายค่าสินไหม และพิจารณาการกระทำของ พนง.กรุงเทพประกันภัยในกรณีนี้ด้วย และดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำตอบคงจะไม่ใช่แบบเดียวกันกับทีมบริหารนะค่ะ  

สุดท้ายนี้ดิฉันหวังว่าคงจะไม่มีใครโชคร้ายเหมือนครอบครัวดิฉันที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและยังได้รับการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณและพยายามเอาเปรียบคู่กรณีที่เสียชีวิตเฉกเช่นที่ พนง.กรุงเทพประกันภัยได้กระทำต่อครอบครัวดิฉัน และดิฉันเชื่อในกฎแห่งกรรมว่า ไม่ช้าหรือเร็วก็คงต้องส่งผลต่อผู้กระทำ ซึ่ง พนง.กรุงเทพประกันภัยอาจจะต้องเตรียมใจไว้บ้าง เพราะเรื่องกรรมเป็นเรื่องที่กำหนดไม่ได้

--------------------------------

Update (27 เมย. 2557)
ข้อมูลการเข้าพบ คปภ.วันที่ 24 เมย 2557 ข้อความด้านล่างนี้อยู้ใน ความคิดเห็นที่ 178 ของเจ้าของกระทู้ค่ะ

เรียน สมาชิกเว็บ ppantip.com

วันนี้จะมา update ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังจากที่ได้หารือร่วมกับ คปภ. อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบจาก คปภ. ให้เพื่อนสมาชิกรับทราบเกี่ยวกับข้อมูลที่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย  ได้ทำการชี้แจงเรื่องการนัดหมายของ คปภ. ที่ บมจ. กรุงเทพประกันภัย
ได้ระบุว่า คปภ. ได้นัดหมายเพื่อเจรจาร่วมกันเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 แต่เจ้าของกระทู้ ไม่ได้เดินทางไปตามนัดหมายของ คปภ.
ทำให้ คปภ.ต้องทำการนัดหมายใหม่ ในวันที่ 24 เม.ย. 2557 นั้น ซึ่งทางเจ้าของกระทู้ได้ทำการชี้แจงเรื่องการนัดหมายดังกล่าว
ว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จาก คปภ.สำหรับการนัดหมายวันที่ 3 เมษายน 2557 นั้น

จากการเดินทางเข้าพบ คปภ.เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 เจ้าของกระทู้ได้รับทราบจาก คปภ. ว่า คปภ.มิได้มีการนัดหมายใดๆ กับเจ้าของกระทู้ในวันที่ 3 เมษายน 2557 แต่อย่างใด  ดังนั้น การชี้แจง เรื่องการนัดหมายในวันที่ 3 เมษายน 2557 ของ บมจ.กรุงเทพประกันภัย
จึงเป็นการบิดเบื้อนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

สำหรับผลการเจรจาร่วมกับ คปภ. เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557  นั้น กรุงเทพประกันภัยเสนอจ่ายค่าสินไหมเป็น 600,000 บาท
และตกลงยอมจ่ายค่ารถคันที่เสียหาย 50,000 บาท ตามที่เคยตกลงไว้ที่ สน.สายไหม ตามเอกสารแนบ

---------------------------------
แก้ไขเพิ่มเติม

เรียนถามว่า การที่ กรุงเทพประกันภัย นำยอดของ พรบ. ซึ่งเป็นภาคบังคับ มารวมกับยอดประกันภาคสมัครใจ แถมยังนำยอด พรบ.ของอินทรประกันภัยมารวมด้วย ซึ่งทำให้ดูเหมือนยอดที่จ่ายสูงขึ้น “ ใช่เรื่องที่ถูกต้องตรงกับความเป็นธรรมหรือไม่

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ กรุงเทพประกันภัยบ่ายเบี่ยงการจ่าย พรบ.มาตลอด แต่อินทรประกันภัยยืนยันจ่าย พรบ. กรุงเทพประกันภัยก็เลยต้องจ่ายตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

และการปฎิบัติงานของพนักงานของ กรุงเทพประกันภัย ที่ไม่เคยแจ้งติดต่อกลับว่าเช็คออกแล้วเพื่อให้มารับเช็ค “ถือเป็นการจงใจประวิงเวลาในการจ่ายค่าสินไหมหรือไม่”

----------------------------------------

ความคิดเห็นที่ 104  เป็นคำชี้แจงของ กรุงเทพประกันภัย เพื่อนสมาชิกช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
ประกาศ
เรียนเพื่อนสมาชิก ทางบมจ.กรุงเทพประกันภัย ขอชี้แจงรายละเอียดในประเด็นดังกล่าว ตามไฟล์เอกสารที่แนบมานี้ ค่ะ

จดหมายชี้แจง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่