ขยะกว่า 70% ในประเทศจีนคือเศษอาหาร และขยะเศษอาหารเหล่านี้นั้นยากที่จะเก็บรวบรวม หรือนำมาผ่านขบวนการแปรรูป หรือนำมารีไซเคิล และขยะเศษอาหารเหล่านี้ยังเป็นอันตรายต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อมหากไม่ถูกกำจัดอย่างถูกต้องและเป็นระบบ
ในเมืองหลวงของประเทศจีนอย่างปักกิ่งนั้น เศษอาหารกว่า 11,000 ตัน ถูกโยนทิ้งจากครัวเรือนต่อวัน ในขณะที่อีก 2,500 ตัน นั้นถูกทิ้งโดยร้านอาหารต่างๆ
"ประเทศจีนยังต้องพยายามอีกนานกว่าจะหาวิธีการกำจัดขยะที่ดีกว่านี้ เพราะยังขาดทั้งนโยบายจากรัฐ การจัดการด้านวิทยาศาสตร์ และขบวนการจัดการ" นายเหริน เหลียนห่าย ศาสตราจารย์คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจปักกิ่ง (Beijing Technology and Business University) กล่าว
ขยะจากเศษอาหารในจีนเป็นน้ำถึง 74% แรงกัดทับจากการถูกฝังรวมกับปฏิกิริยาทางเคมีของการย่อยสลายของจุลินทร์ทรีย์ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำขยะเหล่านี้เกิดการหมักและยังทำให้กากซึ่งเป็นอันตรายและเป็นสารก่อมะเร็งไหลซึมออกมา
ปัจจุบันทั้งทางรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน(เอ็นจีโอ)และบริษัทอื่นๆต่างกำลังเร่งหาทางออกในการกำจัดขยะจากเศษอาหาร แต่วิธีต่างๆนั้นมักไม่ประสบผลสำเร็จหรือมักจะยุ่งยากเกินไป การนำขยะจากเศษอาหารมาเลี้ยงหมูและเอามาทำเป็นปุ๋ยผสมนั้นเป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมมากที่สุด หากแต่ก็มีผลกระทบด้านลบเช่นกัน
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลวิจัยที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความเป็นกังวลว่าการนำเศษอาหารซึ่งมีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบมาเลี้ยงหมูนั้นอาจทำให้หมูเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพรีออนได้ หน่วยงานท้องถิ่นในบางเมืองของประเทศจีน เช่น เมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ถึงกับออกกฎหมายห้ามเลยทีเดียว
การรณรงค์ต่างๆ เช่น การรณรงค์แยกขยะ ก็มีปัญหาอย่างเช่นการที่คนเก็บขยะนำขยะที่แยกเสร็จแล้วมาเก็บรวมกันอีก การจัดการขยะนั้นต้องทำเป็นห่วงโซ่ และหากยังไม่มีช่องทางที่จะรองรับ ก็คงไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญต่อการแยกขยะได้
อย่างไรก็ตามยังมีองค์กรอิสระต่างๆที่พยายามรณรงค์การแยกขยะผ่านทางกิจกรรมต่างๆ เช่น สมาคมอาสาสมัครคุ้มครองสิ่งแวดล้อม มณฑลฝูเจี้ยน ได้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนขยะที่ถูกแยกอย่างถูกต้องกับผักสดปลอดสารพิษ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาแยกขยะ
การกำจัดขยะอีกวิธีที่กำลังถูกทดลองคือ โรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะในเขตอุตสาหกรรมเฉาหยาง ในเมืองปักกิ่ง ขยะแห้งกว่า 1,600 ตันถูกส่งเข้าเตาหลอมต่อวัน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 220 ล้านกิโลวัตต่อช่วงโมง เท่ากันกับการใช้ถ่านหิน 70,000 ตัน อย่างไรก็ตามทางจีนยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำโครงการนี้ในระดับทั่วประเทศได้หรือไม่
ทั้งนี้ทางด้านรัฐบาลปักกิ่งนั้นมีแผนที่จะสร้างโรงงานแปรรูปขยะเปียกอย่างน้อยหนึ่งโรงงานในทุกเขตและมณฑล แต่ปัญหาคือไม่มีใครแน่ใจว่าจะสร้างเป็นโรงงานรูปแบบใด และความไม่แน่ใจนี้ยังถูกเพิ่มแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากแผนการสร้างโรงงานอีก 100-150 โรงงานทั่วประเทศให้เสร็จก่อนปี 2016 ซึ่งคาดว่าโรงงานเหล่านี้จะมีกำลังกำจัดขยะได้กว่า 30 ล้านตันต่อปี
อ่านข่าวสารประเทศจีนได้ที่ facebook หอการค้าไทยในจีนค่ะ
https://www.facebook.com/chinathaicham
เรื่องของเศษอาหารในประเทศจีน ที่ไม่ใช่แค่เศษเรื่องเล็กๆ
ในเมืองหลวงของประเทศจีนอย่างปักกิ่งนั้น เศษอาหารกว่า 11,000 ตัน ถูกโยนทิ้งจากครัวเรือนต่อวัน ในขณะที่อีก 2,500 ตัน นั้นถูกทิ้งโดยร้านอาหารต่างๆ
"ประเทศจีนยังต้องพยายามอีกนานกว่าจะหาวิธีการกำจัดขยะที่ดีกว่านี้ เพราะยังขาดทั้งนโยบายจากรัฐ การจัดการด้านวิทยาศาสตร์ และขบวนการจัดการ" นายเหริน เหลียนห่าย ศาสตราจารย์คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจปักกิ่ง (Beijing Technology and Business University) กล่าว
ขยะจากเศษอาหารในจีนเป็นน้ำถึง 74% แรงกัดทับจากการถูกฝังรวมกับปฏิกิริยาทางเคมีของการย่อยสลายของจุลินทร์ทรีย์ เป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำขยะเหล่านี้เกิดการหมักและยังทำให้กากซึ่งเป็นอันตรายและเป็นสารก่อมะเร็งไหลซึมออกมา
ปัจจุบันทั้งทางรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน(เอ็นจีโอ)และบริษัทอื่นๆต่างกำลังเร่งหาทางออกในการกำจัดขยะจากเศษอาหาร แต่วิธีต่างๆนั้นมักไม่ประสบผลสำเร็จหรือมักจะยุ่งยากเกินไป การนำขยะจากเศษอาหารมาเลี้ยงหมูและเอามาทำเป็นปุ๋ยผสมนั้นเป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมมากที่สุด หากแต่ก็มีผลกระทบด้านลบเช่นกัน
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลวิจัยที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความเป็นกังวลว่าการนำเศษอาหารซึ่งมีเนื้อหมูเป็นส่วนประกอบมาเลี้ยงหมูนั้นอาจทำให้หมูเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพรีออนได้ หน่วยงานท้องถิ่นในบางเมืองของประเทศจีน เช่น เมืองเซี่ยเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ถึงกับออกกฎหมายห้ามเลยทีเดียว
การรณรงค์ต่างๆ เช่น การรณรงค์แยกขยะ ก็มีปัญหาอย่างเช่นการที่คนเก็บขยะนำขยะที่แยกเสร็จแล้วมาเก็บรวมกันอีก การจัดการขยะนั้นต้องทำเป็นห่วงโซ่ และหากยังไม่มีช่องทางที่จะรองรับ ก็คงไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญต่อการแยกขยะได้
อย่างไรก็ตามยังมีองค์กรอิสระต่างๆที่พยายามรณรงค์การแยกขยะผ่านทางกิจกรรมต่างๆ เช่น สมาคมอาสาสมัครคุ้มครองสิ่งแวดล้อม มณฑลฝูเจี้ยน ได้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนขยะที่ถูกแยกอย่างถูกต้องกับผักสดปลอดสารพิษ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาแยกขยะ
การกำจัดขยะอีกวิธีที่กำลังถูกทดลองคือ โรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะในเขตอุตสาหกรรมเฉาหยาง ในเมืองปักกิ่ง ขยะแห้งกว่า 1,600 ตันถูกส่งเข้าเตาหลอมต่อวัน สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 220 ล้านกิโลวัตต่อช่วงโมง เท่ากันกับการใช้ถ่านหิน 70,000 ตัน อย่างไรก็ตามทางจีนยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำโครงการนี้ในระดับทั่วประเทศได้หรือไม่
ทั้งนี้ทางด้านรัฐบาลปักกิ่งนั้นมีแผนที่จะสร้างโรงงานแปรรูปขยะเปียกอย่างน้อยหนึ่งโรงงานในทุกเขตและมณฑล แต่ปัญหาคือไม่มีใครแน่ใจว่าจะสร้างเป็นโรงงานรูปแบบใด และความไม่แน่ใจนี้ยังถูกเพิ่มแรงกดดันเพิ่มขึ้นจากแผนการสร้างโรงงานอีก 100-150 โรงงานทั่วประเทศให้เสร็จก่อนปี 2016 ซึ่งคาดว่าโรงงานเหล่านี้จะมีกำลังกำจัดขยะได้กว่า 30 ล้านตันต่อปี
อ่านข่าวสารประเทศจีนได้ที่ facebook หอการค้าไทยในจีนค่ะ
https://www.facebook.com/chinathaicham