ทักษิณเคยพูดไว้สมัยที่ตนเป็นนายกว่า......ความคิดของฝ่ายอนุรักษ์นิยมคือความคิดแบบอนาล๊อก กาลเวลาผ่านมาหลายปีก็ได้พิสูจน์ความจริงให้เห็นแล้วว่าคำพูดของทักษิณถูกต้องตรงความจริง และปรากฏให้เห็นบ่อย
อมาตย์ต้องการกลับไปสู่โลกอนาล๊อกเหมือนเดิม......แช่แข็งประเทศไทย....ย้อนยุคไปสู่กรุงศรีอยุธยา
ปี 2542 สมัยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี มีนายชำนิ ศักดิเศษฐ รมต.ช่วย มหาดไทยสมัยนั้น ประชุมข้าราชการกรมการปกครองระดับนายอำเภอทั่วประเทศ ไม่เห็นชอบ ไม่อนุมัติโครงการบัตรประจำตัวประชาชนสมาทการ์ด และทะเบียนบ้านระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่บอกเหตุผล(เข้าใจว่าเป็นโครงการที่น่าจะใช้งบประมาณมากในเวลานั้น) ซึ่งตัวแทนกรมการปกครองได้พูดถึงโครงการดังกล่าวต่อหน้านายชำนิ และข้าราชการทุกคน ณ ที่นั้น
ปี 2545 สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการดังกล่าวของกรมการปกครอง ผลคือประชาชนได้มีบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านในระบบคอมพิวเตอร์ ใช้ในปี 2547 ยังจำกันได้ไหมที่ปีนั้นผู้คนมากมายแห่กันไปถ่ายบัตรประชาชน และเปลี่ยนทะเบียนบ้านกันจนล้นที่ว่าการอำเภอและเขต
ปี 2545 สมัยนั้นยังมีฟิล์มถ่ายรูปใช้กันอยู่ แต่ทักษิณคิดแบบดิจิตัล มองเห็นการพัฒนาอนาคตแบบดิจิตัล
วิวัฒนาการย่อมต้องเดินหน้า ไม่ถอยหลัง ปัจจุบันท่านทราบไหม โรงหนังทุกแห่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเขาเลิกฉายหนังด้วยฟิล์มแล้ว เขาหันมาฉายหนังด้วยเครื่องฉายดิจิตัลโปรเจคเตอร์กันแล้ว ระบบฟิล์มทั่วโลกเขาเลิกกันหมดแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโกดักต้องปรับตัวขนานใหญ่เพื่อการอยู่รอด หันมาผลิตกล้องถ่ายรูปโกดักแทน แล้วอมาตย์ไทยละ ยอมปรับตัวเหมือนบริษัทโกดักหรือเปล่า?
ทำให้เห็นถึงความคิดของฝ่ายอมาตย์ในยุคปัจจุบันยังคงยึดมั่นในแบบอนาล๊อกไม่เปลี่ยนแปลง .....ยังไม่ต้องมีรถไฟความเร็วสูง ต้องใช้งบประมาณทำให้ถนนลูกรังในชนบทลาดยางก่อนให้หมดเสียก่อน ประชาธิปไตยไม่สำคัญเท่าปฎิรูปรัฎฐาธิปัตย์
ท่านละ.......ความคิดของท่านเป็นแบบใด..........อนาล๊อก หรือ ดิจิตัล
วิวัฒนาการของโลกคือ วิวัฒนาการดิจิตัล วิวัฒนาการของอมาตย์ แมลงสาป สลิ่ม ม๊อบกบฏคือ วิวัฒนาการอนาล๊อก
อมาตย์ต้องการกลับไปสู่โลกอนาล๊อกเหมือนเดิม......แช่แข็งประเทศไทย....ย้อนยุคไปสู่กรุงศรีอยุธยา
ปี 2542 สมัยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี มีนายชำนิ ศักดิเศษฐ รมต.ช่วย มหาดไทยสมัยนั้น ประชุมข้าราชการกรมการปกครองระดับนายอำเภอทั่วประเทศ ไม่เห็นชอบ ไม่อนุมัติโครงการบัตรประจำตัวประชาชนสมาทการ์ด และทะเบียนบ้านระบบคอมพิวเตอร์ โดยไม่บอกเหตุผล(เข้าใจว่าเป็นโครงการที่น่าจะใช้งบประมาณมากในเวลานั้น) ซึ่งตัวแทนกรมการปกครองได้พูดถึงโครงการดังกล่าวต่อหน้านายชำนิ และข้าราชการทุกคน ณ ที่นั้น
ปี 2545 สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติโครงการดังกล่าวของกรมการปกครอง ผลคือประชาชนได้มีบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านในระบบคอมพิวเตอร์ ใช้ในปี 2547 ยังจำกันได้ไหมที่ปีนั้นผู้คนมากมายแห่กันไปถ่ายบัตรประชาชน และเปลี่ยนทะเบียนบ้านกันจนล้นที่ว่าการอำเภอและเขต
ปี 2545 สมัยนั้นยังมีฟิล์มถ่ายรูปใช้กันอยู่ แต่ทักษิณคิดแบบดิจิตัล มองเห็นการพัฒนาอนาคตแบบดิจิตัล
วิวัฒนาการย่อมต้องเดินหน้า ไม่ถอยหลัง ปัจจุบันท่านทราบไหม โรงหนังทุกแห่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเขาเลิกฉายหนังด้วยฟิล์มแล้ว เขาหันมาฉายหนังด้วยเครื่องฉายดิจิตัลโปรเจคเตอร์กันแล้ว ระบบฟิล์มทั่วโลกเขาเลิกกันหมดแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโกดักต้องปรับตัวขนานใหญ่เพื่อการอยู่รอด หันมาผลิตกล้องถ่ายรูปโกดักแทน แล้วอมาตย์ไทยละ ยอมปรับตัวเหมือนบริษัทโกดักหรือเปล่า?
ทำให้เห็นถึงความคิดของฝ่ายอมาตย์ในยุคปัจจุบันยังคงยึดมั่นในแบบอนาล๊อกไม่เปลี่ยนแปลง .....ยังไม่ต้องมีรถไฟความเร็วสูง ต้องใช้งบประมาณทำให้ถนนลูกรังในชนบทลาดยางก่อนให้หมดเสียก่อน ประชาธิปไตยไม่สำคัญเท่าปฎิรูปรัฎฐาธิปัตย์
ท่านละ.......ความคิดของท่านเป็นแบบใด..........อนาล๊อก หรือ ดิจิตัล