ชื่อตอนนี้ก็คือ "เจ้าหญิงแห่งสายฝน"
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วที่ นิเกะ ได้พบกับราชา ที่คงคิดว่าน่าจะเป็นตาแก่แบบไหน
ที่แท้กลับเป็นไอ้เด็กเปี๊ยกที่อายุน้อยกว่าตนซะอีกแน่ะ (กินเด็ก ๆ ๆ ๆ ๆ แฮ่ ๆ)
ทางฝ่ายราชาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน
"เฮ่ย... บอกว่าให้ส่งคนที่สวยที่สุดมาไม่ใช่เหรอ? ล้อเล่นอะไรรึเปล่าเนี่ย?"
"นั่นสิขอรับ"
แต่ก็เอาเถอะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ช่วยไม่ได้นี่นา
ราชา ลูวิซ บอกว่าตนเบื่อหน่ายกับดวงอาทิตย์ซะแล้วสิ ได้ยินมาว่าราชวงศ์ของ นิเกะ มีความสามารถควบคุมลมฟ้าอากาศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝน ก็เลยออกปากขอกันโต้ง ๆ เลยว่า "เรียกฝนให้ดูหน่อยสิ ข้าอยากเห็น"
อย่า มา ล้อ เล่น นะ เฟ้ยยยยย ไอ้เด็กบ้า!!
เจอเข้าแบบนี้ ที่ปรึกษาคนสนิท มีหรือจะยอม
ยาม---!!!
ปล่อยนะเฟ้ย ฉันจะสั่งสอนให้เจ้าเด็กเปี๊ยกนี้ให้มันรู้สำนึก
แต่ลูวิซ ไม่ได้โมโห แถมยังรู้สึกสนใจอีกตะหาก เพราะว่ามีไม่กี่คนหรอกนะ ที่กล้าชนกับเขาตรง ๆ น่ะ
ส่งเข้าคุกโลด แถมยังหัวเราะเยาะใส่อีก (เด็กชัด ๆ)
คนที่กล้าแข็งข้อกับฉันน่ะ น่าสนใจดีนี่... เลือกเอาละกัน ว่าจะอดตายอยู่ในนี้ หรือจะยอมมาเป็นของเล่นของฉัน (พูดเหมือนพระเอกนิยาย NC เลยพับผ่า)
กรอดดดด
แต่ผู้ที่มีพลังเรียกลมที่คมปลาบขนาดตัดมีดพกให้ขาดได้ มีเหรือจะยอมอยู่เฉย
นิเกะ ทนอาการท้องร้องฝืนเรียกลมออกมาตัดลูกกรงที่หน้าต่าง
ทางด้านราชาลูวิซ ก็กำลังทำงานอยู่ในห้อง
จนกระทั่งที่ปรึกษาออกจากห้องไป ลูวิซ ก็โยนเอกสารทิ้ง เปรยอย่างเบื่อหน่ายว่า
ไอ้การจัดสรรงบประมาณ มันก็แค่เกมพัซเซิลเท่านั้นแหละ ...น่าเบื่อ...
"อ้อ เหรอ~~~ งั้นให้พี่สาวช่วยเอามะ?"
แล้วนิเกะก็เปิดฉากรุก ตามแบบฉบับสายพี่สาว
จับกดซะเลย
หึหึหึ มาให้พี่สาวหม่ำซะดี ๆ (ไม่ใช่ละ = =')
ลูวิซก็แซวกลับ "เห... ฉันไม่ใช่ประเภทชอบให้ผู้หญิงอยู่บนซะด้วยสิ"
แต่จุดอ่อนของนิเกะ ก็กำเริบ โรคแพ้ความหิวน่ะเอง แถมยังฝืนเรียกลมมาหมาด ๆ อีก ก็เลย
ฉันจะฆ่าไอ้เด็กบ้านี่ แล้วเอามาย่างกินซะเลย...
เลิกดื้อไม่เข้าท่า แล้วก็เรียกฝนมาให้ดูซะทีสิ
นิเกะบอกว่าการเรียกฝน ไม่ใช่การแสดงปาหี่ที่นึกจะทำก็ทำ ต้องมีการเตรียมการ
ลูวิซก็บอกอีกว่าถ้าจะให้เตรียมสิ่งของอะไรล่ะก็ จัดให้ได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ใช้เรียกฝน ไม่ใช่สิ่ง แต่เป็น "ความรู้สึก" ของผู้เรียกเองตะหาก
ผู้ที่จะเรียกฝน ต้องสัมผัสกับความงดงามของดินแดนแห่งนี้เสียก่อน ลูวิซได้ยินก็แต่ได้ยืนทำหน้างง
ที่ปรึกษาที่ทราบข่าวว่านิเกะแหกคุก ก็รีบเข้ามารายงาน แต่...
งั่ม งั่ม งั่ม
คืนนั้นเอง
นิเกะกลับฝันถึงความทรงจำที่ไม่ใช่ของตัวเอง
เป็นเด็กชายคนหนึ่ง กับหญิงสาว ที่พูดคุยกันเรื่องของบทเพลง และฝน
ว่าแต่... ความฝันที่ไม่ได้มาจากความทรงจำของตัวเองเหรอ? ... ทำไมล่ะ?
รับวันใหม่ด้วยการปรากฎตัวของสามเมดสาว ที่จะมาดูแลนิเกะ นับแต่บัดนี้
วี้ดว้ายกระตู้ฮู้กันใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อถึงตอนเลือกชุดให้
ทางด้านลูวิซ ก็จัดเตรียมมื้อเช้าสุดหรูไว้รอแล้ว
และแล้ว นิเกะ ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเจ้าหญิงอย่างเต็มตัว ก็โผล่มา
ซ่อนรูปนะเรา
"ใหญ่" เอาการ
เล่นเอาราชาตัวเปี๊ยกถึงกับอึ้งไปเลย
แล้วนิเกะ ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งเข้าพอดี
ดอกไม้นะเอง
ตัวดอกน่ะ ไม่ได้หายาก แต่เป็นสีของมันตะหาก นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่เห็นดอกไม้ชนิดนี้สีนี้
ถ้ามีของดี ๆ แบบนี้อยู่ แสดงให้ดูแต่แรกก็สิ้นเรื่อง
แต่ก็เจอคำพูดเย็นยะเยือกเข้าไป
"กะอีกแค่ดอกไม้ ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ"
กระแสลมแห่งดราม่าพัดวูบ
นิเกะก็เลยถอนหายใจแล้วพูดกลับ
อาณาจักรของตัวเองแท้ ๆ แต่ไม่คิดที่จะมองเลยสินะ เสียเปล่าจริง ๆ...
ตกกลางคืน
ที่ปรึกษากำลังรายงานเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของประเทศข้าศึกที่ส่อแววไม่สู้ดีนัก ให้เตรียมพร้อมเผื่อฉุกเฉินไว้ดีกว่า
แต่ลูวิซกลับไม่ใส่ใจ เก็บคำพูดของนิเกะมาคิด ถามกับที่ปรึกษาว่า ตนเป็นพวกเสียเปล่าเหรอ?
เดินไปมองที่หน้าต่างด้วยอารามคิดไม่ตก แล้วก็เห็นใครบางคนที่หอคอยฝั่งตรงข้าม
นิเกะนั่นเอง
เธอเองก็เก็บคำพูดของตัวเองมาทบทวนเหมือนกัน ที่พูดใส่หน้าเด็กตัวแค่นั้นว่าเป็นพวกเสียเปล่า
ขณะเดียวกัน ลูวิซ ก็ตามขึ้นมา
สองว่าที่สามีภรรยา พูดคุยปรับความเข้าใจกัน พร้อมกับดูดาวไปด้วย ชมเมืองไปด้วย
ลูวิซถามว่า ที่ผู้เรียกฝนจำเป็นต้องสัมผัสกับความงดงามของดินแดนนั้นก่อนน่ะ หมายความว่ายังไง?
นิเกะจึงอธิบาย ที่ผู้เรียกฝนจำเป็นต้องทำแบบนั้น ก็เพื่อที่จะแต่ง "เพลง" ขึ้นมา
เป็นเพลง ที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ได้จากสภาพภูมิประเทศ อากาศ สิ่งแวดล้อม ผู้คน และความเป็นไปของเมืองนั้น ๆ
แล้วนำเอาประสบการณ์ความคิดคำนึงถึงเมืองนั้นมาร้อยเรียงเป็นบทเพลงเพื่อใช้สำหรับอัญเชิญฝน
ทะเลทรายตอนกลางคืน ใคร ๆ ก็รู้ว่าหนาว นิเกะก็เลยจามออกมา
ลูวิซส่งผ้าคลุมให้ แล้วบอกว่า ถ้าชอบดอกไม้นัก ก็ไว้จะให้คนพาไปที่สวนของวัง
"ให้คนพาไป" อะไรเล่า นายต้องพาฉันไปเองตะหากถึงจะถูก
Moment น่ารัก ๆ ของสองพระเอกนางเอก
เล่นกันจนเปียกปอน ที่ปรึกษาก็นำน้ำผลไม้มาให้ ...
...ห๊ะ?
นิเกะเห็นเข้าพอดี ก็เลยผลักลูวิซออกไป
แน่นอนว่าเธอโดนซะเอง
คืนวันนั้น
อาการของนิเกะไม่ถือว่าร้ายแรง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ธนูเองก็ไม่ได้อาบยาพิษอะไร ส่วนคนซุ่มยิงนั้นหนีไปได้
คาดว่าน่าจะเป็นนักฆ่าจากประเทศข้าศึก แต่ก็ไม่มีหลักฐาน
ราชาดูจะเยือกเย็นกว่าที่คิด แม้นิเกะที่ช่วยตัวเองจะถูกยิงต่อหน้า
ต้องขอบคุณเหตุการณ์ครั้งนี้นะ... เพราะมันช่วยให้ฉันไม่หลงลืมไปว่า โลกนี้ แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง
ต้องกำจัดศัตรูให้สิ้น ให้มันสยบแทบเท้า ครองโลกใบนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
...ใช่... โลกที่ตนอยู่นั้น ต่างกับโลกของนิเกะอย่างสิ้นเชิง
[spoil] Soredemo Sekai wa Utsukushii 2 - เจ้าหญิงแสบซ่า กับราชาตัวกระเปี๊ยก
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วที่ นิเกะ ได้พบกับราชา ที่คงคิดว่าน่าจะเป็นตาแก่แบบไหน
ที่แท้กลับเป็นไอ้เด็กเปี๊ยกที่อายุน้อยกว่าตนซะอีกแน่ะ (กินเด็ก ๆ ๆ ๆ ๆ แฮ่ ๆ)
ทางฝ่ายราชาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน
"เฮ่ย... บอกว่าให้ส่งคนที่สวยที่สุดมาไม่ใช่เหรอ? ล้อเล่นอะไรรึเปล่าเนี่ย?"
"นั่นสิขอรับ"
แต่ก็เอาเถอะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ช่วยไม่ได้นี่นา
ราชา ลูวิซ บอกว่าตนเบื่อหน่ายกับดวงอาทิตย์ซะแล้วสิ ได้ยินมาว่าราชวงศ์ของ นิเกะ มีความสามารถควบคุมลมฟ้าอากาศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝน ก็เลยออกปากขอกันโต้ง ๆ เลยว่า "เรียกฝนให้ดูหน่อยสิ ข้าอยากเห็น"
อย่า มา ล้อ เล่น นะ เฟ้ยยยยย ไอ้เด็กบ้า!!
เจอเข้าแบบนี้ ที่ปรึกษาคนสนิท มีหรือจะยอม
ยาม---!!!
ปล่อยนะเฟ้ย ฉันจะสั่งสอนให้เจ้าเด็กเปี๊ยกนี้ให้มันรู้สำนึก
แต่ลูวิซ ไม่ได้โมโห แถมยังรู้สึกสนใจอีกตะหาก เพราะว่ามีไม่กี่คนหรอกนะ ที่กล้าชนกับเขาตรง ๆ น่ะ
ส่งเข้าคุกโลด แถมยังหัวเราะเยาะใส่อีก (เด็กชัด ๆ)
คนที่กล้าแข็งข้อกับฉันน่ะ น่าสนใจดีนี่... เลือกเอาละกัน ว่าจะอดตายอยู่ในนี้ หรือจะยอมมาเป็นของเล่นของฉัน (พูดเหมือนพระเอกนิยาย NC เลยพับผ่า)
กรอดดดด
แต่ผู้ที่มีพลังเรียกลมที่คมปลาบขนาดตัดมีดพกให้ขาดได้ มีเหรือจะยอมอยู่เฉย
นิเกะ ทนอาการท้องร้องฝืนเรียกลมออกมาตัดลูกกรงที่หน้าต่าง
ทางด้านราชาลูวิซ ก็กำลังทำงานอยู่ในห้อง
จนกระทั่งที่ปรึกษาออกจากห้องไป ลูวิซ ก็โยนเอกสารทิ้ง เปรยอย่างเบื่อหน่ายว่า
ไอ้การจัดสรรงบประมาณ มันก็แค่เกมพัซเซิลเท่านั้นแหละ ...น่าเบื่อ...
"อ้อ เหรอ~~~ งั้นให้พี่สาวช่วยเอามะ?"
แล้วนิเกะก็เปิดฉากรุก ตามแบบฉบับสายพี่สาว
จับกดซะเลย
หึหึหึ มาให้พี่สาวหม่ำซะดี ๆ (ไม่ใช่ละ = =')
ลูวิซก็แซวกลับ "เห... ฉันไม่ใช่ประเภทชอบให้ผู้หญิงอยู่บนซะด้วยสิ"
แต่จุดอ่อนของนิเกะ ก็กำเริบ โรคแพ้ความหิวน่ะเอง แถมยังฝืนเรียกลมมาหมาด ๆ อีก ก็เลย
ฉันจะฆ่าไอ้เด็กบ้านี่ แล้วเอามาย่างกินซะเลย...
เลิกดื้อไม่เข้าท่า แล้วก็เรียกฝนมาให้ดูซะทีสิ
นิเกะบอกว่าการเรียกฝน ไม่ใช่การแสดงปาหี่ที่นึกจะทำก็ทำ ต้องมีการเตรียมการ
ลูวิซก็บอกอีกว่าถ้าจะให้เตรียมสิ่งของอะไรล่ะก็ จัดให้ได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ใช้เรียกฝน ไม่ใช่สิ่ง แต่เป็น "ความรู้สึก" ของผู้เรียกเองตะหาก
ผู้ที่จะเรียกฝน ต้องสัมผัสกับความงดงามของดินแดนแห่งนี้เสียก่อน ลูวิซได้ยินก็แต่ได้ยืนทำหน้างง
ที่ปรึกษาที่ทราบข่าวว่านิเกะแหกคุก ก็รีบเข้ามารายงาน แต่...
งั่ม งั่ม งั่ม
คืนนั้นเอง
นิเกะกลับฝันถึงความทรงจำที่ไม่ใช่ของตัวเอง
เป็นเด็กชายคนหนึ่ง กับหญิงสาว ที่พูดคุยกันเรื่องของบทเพลง และฝน
ว่าแต่... ความฝันที่ไม่ได้มาจากความทรงจำของตัวเองเหรอ? ... ทำไมล่ะ?
รับวันใหม่ด้วยการปรากฎตัวของสามเมดสาว ที่จะมาดูแลนิเกะ นับแต่บัดนี้
วี้ดว้ายกระตู้ฮู้กันใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อถึงตอนเลือกชุดให้
ทางด้านลูวิซ ก็จัดเตรียมมื้อเช้าสุดหรูไว้รอแล้ว
และแล้ว นิเกะ ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเป็นเจ้าหญิงอย่างเต็มตัว ก็โผล่มา
ซ่อนรูปนะเรา "ใหญ่" เอาการ
เล่นเอาราชาตัวเปี๊ยกถึงกับอึ้งไปเลย
แล้วนิเกะ ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งเข้าพอดี
ดอกไม้นะเอง
ตัวดอกน่ะ ไม่ได้หายาก แต่เป็นสีของมันตะหาก นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่เห็นดอกไม้ชนิดนี้สีนี้
ถ้ามีของดี ๆ แบบนี้อยู่ แสดงให้ดูแต่แรกก็สิ้นเรื่อง
แต่ก็เจอคำพูดเย็นยะเยือกเข้าไป
"กะอีกแค่ดอกไม้ ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษ"
กระแสลมแห่งดราม่าพัดวูบ
นิเกะก็เลยถอนหายใจแล้วพูดกลับ
อาณาจักรของตัวเองแท้ ๆ แต่ไม่คิดที่จะมองเลยสินะ เสียเปล่าจริง ๆ...
ตกกลางคืน
ที่ปรึกษากำลังรายงานเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของประเทศข้าศึกที่ส่อแววไม่สู้ดีนัก ให้เตรียมพร้อมเผื่อฉุกเฉินไว้ดีกว่า
แต่ลูวิซกลับไม่ใส่ใจ เก็บคำพูดของนิเกะมาคิด ถามกับที่ปรึกษาว่า ตนเป็นพวกเสียเปล่าเหรอ?
เดินไปมองที่หน้าต่างด้วยอารามคิดไม่ตก แล้วก็เห็นใครบางคนที่หอคอยฝั่งตรงข้าม
นิเกะนั่นเอง
เธอเองก็เก็บคำพูดของตัวเองมาทบทวนเหมือนกัน ที่พูดใส่หน้าเด็กตัวแค่นั้นว่าเป็นพวกเสียเปล่า
ขณะเดียวกัน ลูวิซ ก็ตามขึ้นมา
สองว่าที่สามีภรรยา พูดคุยปรับความเข้าใจกัน พร้อมกับดูดาวไปด้วย ชมเมืองไปด้วย
ลูวิซถามว่า ที่ผู้เรียกฝนจำเป็นต้องสัมผัสกับความงดงามของดินแดนนั้นก่อนน่ะ หมายความว่ายังไง?
นิเกะจึงอธิบาย ที่ผู้เรียกฝนจำเป็นต้องทำแบบนั้น ก็เพื่อที่จะแต่ง "เพลง" ขึ้นมา
เป็นเพลง ที่สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่ได้จากสภาพภูมิประเทศ อากาศ สิ่งแวดล้อม ผู้คน และความเป็นไปของเมืองนั้น ๆ
แล้วนำเอาประสบการณ์ความคิดคำนึงถึงเมืองนั้นมาร้อยเรียงเป็นบทเพลงเพื่อใช้สำหรับอัญเชิญฝน
ทะเลทรายตอนกลางคืน ใคร ๆ ก็รู้ว่าหนาว นิเกะก็เลยจามออกมา
ลูวิซส่งผ้าคลุมให้ แล้วบอกว่า ถ้าชอบดอกไม้นัก ก็ไว้จะให้คนพาไปที่สวนของวัง
"ให้คนพาไป" อะไรเล่า นายต้องพาฉันไปเองตะหากถึงจะถูก
Moment น่ารัก ๆ ของสองพระเอกนางเอก
เล่นกันจนเปียกปอน ที่ปรึกษาก็นำน้ำผลไม้มาให้ ...
...ห๊ะ?
นิเกะเห็นเข้าพอดี ก็เลยผลักลูวิซออกไป
แน่นอนว่าเธอโดนซะเอง
คืนวันนั้น
อาการของนิเกะไม่ถือว่าร้ายแรง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ธนูเองก็ไม่ได้อาบยาพิษอะไร ส่วนคนซุ่มยิงนั้นหนีไปได้
คาดว่าน่าจะเป็นนักฆ่าจากประเทศข้าศึก แต่ก็ไม่มีหลักฐาน
ราชาดูจะเยือกเย็นกว่าที่คิด แม้นิเกะที่ช่วยตัวเองจะถูกยิงต่อหน้า
ต้องขอบคุณเหตุการณ์ครั้งนี้นะ... เพราะมันช่วยให้ฉันไม่หลงลืมไปว่า โลกนี้ แท้จริงแล้วมันเป็นยังไง
ต้องกำจัดศัตรูให้สิ้น ให้มันสยบแทบเท้า ครองโลกใบนี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
...ใช่... โลกที่ตนอยู่นั้น ต่างกับโลกของนิเกะอย่างสิ้นเชิง