เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ศาลแขวงดุสิต นายเจริญชัย อัศวพิริยอนันต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงดุสิต เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี มักจะเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจยย. และรถยนต์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาสังคม สาเหตุหลักมักจะมาจากเมาสุรา และแข่งขันความเร็วบนทางหลวง
ดังนั้นศาลแขวงดุสิตจะเริ่มนำมาตรการสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (EM) มาใช้กับผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาในข้อหาเมาแล้วขับ และข้อหาแข่งรถบนถนนสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการในคำพิพากษาลงโทษจำเลย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่อยู่อาศัยตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายในกำหนด 7-15 วัน หรือภายในเวลาที่ผู้พิพากษาเห็นสมควรเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกระบวนยุติธรรมทางอาญา และอำนวยความยุติธรรมแก่จำเลย และผู้ใช้รถใช้ถนนจะได้ปลอดภัยมากขึ้น.
เดลินิวส์
มาตราการนี้จะได้ผลแค่ไหน สำหรับผมคนไม่ค่อยชอบเที่ยวออกนอกบ้านไม่รู้สึกอะไรเลย นั้งเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้านสบายแน่ ถ้าคนที่ต้องเดินทางทำงานอาจจะเสียเวลาการทำงาน (ไม่รู้ที่ทำงานจะหักเงินเดือนไหม) คนชอบเที่ยวอาจจะอึดอัดบ้าง
ส่วนการให้บำเพ็ญประโยชน์ยังมีอยู่ไหมและได้ผลแค่ไหนครับ อยากให้เป็นการไปช่วยดูแลคนเจ็บ หรือคนพิการตามรพ.หรือสถานเลี้ยงคนพิการ จะได้เห็นความทุกข์ความลำบาก บางที่ก็ขาดคนช่วยดูแลผู้พิการ (ถ้าไม่ตั้งใจดูแลคนไข้จนคนไข้ทรุดลงจะโดนโทษหนักกว่าเดิม)
ศาลเตรียมใช้ "กำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์" กับผู้ทำผิดบนถนนตั้งแต่สงกรานต์นี้
ดังนั้นศาลแขวงดุสิตจะเริ่มนำมาตรการสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (EM) มาใช้กับผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาในข้อหาเมาแล้วขับ และข้อหาแข่งรถบนถนนสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการในคำพิพากษาลงโทษจำเลย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่อยู่อาศัยตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ภายในกำหนด 7-15 วัน หรือภายในเวลาที่ผู้พิพากษาเห็นสมควรเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกระบวนยุติธรรมทางอาญา และอำนวยความยุติธรรมแก่จำเลย และผู้ใช้รถใช้ถนนจะได้ปลอดภัยมากขึ้น.
เดลินิวส์
มาตราการนี้จะได้ผลแค่ไหน สำหรับผมคนไม่ค่อยชอบเที่ยวออกนอกบ้านไม่รู้สึกอะไรเลย นั้งเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้านสบายแน่ ถ้าคนที่ต้องเดินทางทำงานอาจจะเสียเวลาการทำงาน (ไม่รู้ที่ทำงานจะหักเงินเดือนไหม) คนชอบเที่ยวอาจจะอึดอัดบ้าง
ส่วนการให้บำเพ็ญประโยชน์ยังมีอยู่ไหมและได้ผลแค่ไหนครับ อยากให้เป็นการไปช่วยดูแลคนเจ็บ หรือคนพิการตามรพ.หรือสถานเลี้ยงคนพิการ จะได้เห็นความทุกข์ความลำบาก บางที่ก็ขาดคนช่วยดูแลผู้พิการ (ถ้าไม่ตั้งใจดูแลคนไข้จนคนไข้ทรุดลงจะโดนโทษหนักกว่าเดิม)