ฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์จำคุก บก.ลายจุด 2 เดือน ปรับ 3 พัน รอลงอาญา 1 ปี ไม่รายงานตัว คสช.

กระทู้สนทนา
MGR Online - ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์จำคุก “สมบัติ บุญงามอนงค์” หรือ บก.ลายจุด 2 เดือน ปรับ 3 พัน รอลงอาญา 1 ปี ขัดขืนประกาศ คสช.ไม่มารายงานตัว
       
       วันนี้ (9 ส.ค.) ที่ศาลแขวงดุสิต ถนนบรมราชชนนี ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.1515/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีแขวงดุสิต เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย ฐานฝ่าฝืนไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2557, ประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และ 29/2557 รวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
       
       จากกรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2557 คสช. ได้ออกคำสั่งที่ 3/2557 เรียกบุคคลมารายงานตัว โดยแจ้งให้นายสมบัติเข้ารายงานตัวต่อ คสช. ที่หอประชุมกองทัพบก แต่นายสมบัติไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่ง ต่อมา คสช. ได้ออกประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และ 29/2557 ให้บุคคลในรายชื่อที่ยังไม่มารายงานตัว มารายงานตัวภายในวันที่ 24 มิ.ย. 2557 พร้อมกำหนดโทษแก่ผู้ฝ่าฝืน แต่นายสมบัติก็ไม่ได้ไปรายงานตัวตามคำสั่งโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง กระทั่งวันที่ 5 มิ.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสมบัติจากบ้านพักที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ
       
       ในวันนี้ นายสมบัติ จำเลย เดินทางมาศาล พร้อมนายอานนท์ นำภา ทนายความ โดยภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นายอานนท์ เปิดเผยว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายสมบัติ 2 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี ส่วนเหตุผลในคำพิพากษานั้น คล้ายกับที่ศาลอุทธรณ์เคยมีคำพิพากษามาแล้ว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 วรรคหนึ่ง (เดิม) ให้ลงโทษปรับ 500 บาท ไม่พิพากษาจำคุก ส่วนความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และ 29/2557 ศาลไม่ลงโทษ เนื่องจากบัญญัติย้อนหลังการกระทำผิด และมุ่งหมายเฉพาะเจาะจงบุคคล ต่อมาโจทก์และจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2559 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และฉบับที่ 29/2557 อีกบทหนึ่ง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานไม่มารายงานตัวตามคำสั่งและประกาศ คสช.อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 1 ปี ต่อมานายสมบัติได้ยื่นคำร้องขอฎีกาคดีด้วยตนเอง เพราะเห็นว่าในชั้นอุทธรณ์ได้แก้คำพิพากษาโดยนำข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. กลับมาพิจารณาลงโทษจำคุกอีก ซึ่งเดิมศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องในข้อหานี้ไปแล้วและมีการเพิ่มโทษ
http://www.manager.co.th/game/viewnews.aspx?NewsID=9600000081284
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่