เล่ห์รัก กลทีป์ [บทนำ]

กระทู้สนทนา
เก้า  กลทีป์  กิจสุพัฒน์ภาคิน

' คนจะรักกัน คนจะมีใจให้กัน มันจำเป็นต้องหล่อด้วยหรือ
เขาต้องเจ็บปวดหัวใจ เพียงเพราะมีร่างกายที่อัปลักษณ์งั้นหรือ ?
ในโลกใบนี้ ยังมีอยู่ไหมคนที่มองกันที่หัวใจ มิใช่เเค่รูปกายภายนอก '

นุ่น ชนกพลอย  พรรณวิลัย

'เป้าหมายของรายวิชาจิตวิทยาเเละพฤติกรรมมนุษย์
คือ การเข้าใจจุดประสงค์ เเละสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพ
เเละ "พฤติกรรมการเปลี่ยนเเปลงตัวเองเพื่อคนที่เรารัก"
นี่เเหละที่ท้าทายสำหรับเธอ หน้าที่สำคัญต่อไปนี้
คือ การทำให้เขาสมหวังกับความรักให้ได้ '




' การรักเเล้ว ไม่ได้รักตอบ เป็นทุกข์ '
เเล้วเธอ จะช่วยทำให้เขาสมหวังได้อย่างไร ?


โดย  ไพจิตรา




ฝากคอมเมนต์ให้ ไพจิตรา ด้วยนะคะ
อยากทราบจริงๆ ว่าผลงานที่เขียนออกมานี้ เป็นอย่างไรบ้าง
อยากให้ท่านผู้อ่าน ช่วยเเสดงความคิดเห็น ติ ชม ค่ะ
เพื่อจะได้นำไปปรับปรุง ให้ดีขึ้น ในโอกาสต่อไป

ขอบคุณล่วงหน้าจ้า ยิ้ม






บทนำ


                        “เวลาสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันได้อธิบายให้นักศึกษาทุกคนในคลาสนี้ได้เข้าใจแล้ว ตั้งแต่ความหมายของพฤติกรรมมนุษย์ ปัจจัยพื้นฐานของพฤติกรรม สิ่งแวดล้อม แรงจูงใจ ไปจนถึงองค์ประกอบพื้นฐาน ทางจิตวิทยา” เสียงราวกับผู้ชำนาญในการพากย์เสียงหญิงในหนังไทยสมัยก่อน ดังขึ้นทั่วห้องเรียนรวมขนาดใหญ่ ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่ที่พูดคุยกันเสียงดังเจี๊ยวจ้าว หยุดกลางคันแล้วหันมาสนใจกับหญิงวัยใกล้เกษียณอายุราชการหน้าชั้นเรียนแทน
                     ร่างผอมสูงสวมเสื้อสูทสีดำ กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักตราประจำมหาวิทยาลัยที่ตนสังกัดอยู่  กระโปรงทรงเอยาวคลุมเข่า และรองเท้าหนังคัทชู ผมดำแซมขาวเล็กน้อยบ่องบอกถึงความมากของอายุ ถูกเกล้าเป็นมวยไว้ด้านหลัง ช่างดูเรียบร้อย น่าเกรงขาม และทรงคุณวุฒิ สมกับตำแหน่งที่นำหน้าชื่อนั้นยิ่งนัก เธอสวมแว่นตาวงรี รับกับรูปหน้าเรียวยาว เสียแต่แก้มที่ตอบซูบ และริ้วรอยเริ่มมาเยือนตามหน้าผาก และหางตา
                     ผู้ช่วยศาสตราจารย์วัลนิกา อาจารย์ผู้สอนรายวิชาจิตวิยาทั่วไปและพฤติกรรมมนุษย์ เริ่มต้นเปิดอภิปรายหน้าชั้นเรียน เพื่อดึงความสนใจนักศึกษา โดยนำเอาเนื้อหาที่เคยสอนไปเมื่อหลายอาทิตย์ที่แล้วขึ้นมาเปิดประเด็น และเชื่อมโยงเข้ากับโปรเจ็คซ์ชิ้นใหญ่ ที่นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายในห้องนี้ จะต้องดำเนินการให้เรียบร้อย ซึ่งจะเป็นตัวพิสูจน์ความรู้ความเข้าใจของนักศึกษา ให้ตรงกับจุดประสงค์ของรายวิชานี้
                     “หลังจากนี้ ดิฉันจะมอบหมายงานให้กับนักศึกษาเป็นรายบุคคล...”  อาจารย์วัลนิกา นิ่งชั่วครู่ก่อนจะเปรยสายตามองไปทั่วห้อง เพื่อสำรวจพฤติกรรมของนักศึกษา แน่นอนว่านักศึกษาของอาจารย์ เริ่มตื่นตัว ขยับนิด ขยับหน่อย หมุนปากกา เตรียมเปิดสมุดบันทึก และมีเสียงกระซิบกระซาบตามมา
                     ราวกับว่าพวกเขากำลังตื่นตระหนก กับพายุรายงานเล่มใหญ่ ที่เตรียมจะพัดถล่ม หอบเอาเวลาในการเที่ยวเล่น และสังสรรค์ของพวกเขาให้หายไปในพริบตา
                     “...โดยให้นักศึกษา ทำการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ที่ตนเองสนใจ และก่อนจะสำเร็จการศึกษา ทุกคนต้องนำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์นี้ให้อาจารย์ และเพื่อนๆนักศึกษาฟัง ที่สำคัญคือ คุณต้องตอบคำถามได้ เพราะนั่นจะเป็นตัววัดว่าคุณทำการศึกษาพฤติกรรมนั้นจริง และมีความรู้ความเข้าใจในหัวข้อที่คุณเลือกเป็นอย่างดี แน่นอนว่าจะต้องมีรูปเล่มในการนำเสนองาน”
                     ยังคงมีเสียงกระซิบกระซาบเป็นคลื่นความถี่ ลอยไปมาในห้องเรียนรวมนั้น  บ้างหันไปสนทนาปราศรัยกับเพื่อนข้างๆ บ้างนั่งจดขยุกขยิกอยู่บนสมุดโน้ตของตนเอง  ซึ่งภาพตรงหน้านั้นสะท้อนให้ผู้เป็นอาจารย์เห็นว่า นักศึกษาเริ่มเห็นความสำคัญ และให้ความสนใจกับงานของตนอยู่
                     ก็ลองไม่สนใจดูสิ! แล้วจะรู้ว่าการลงทะเบียนเรียนซ้ำใหม่อีกรอบ และต้องมานั่งเรียนกับรุ่นน้องของตัวเองในรายวิชาง่ายๆเช่นนี้ จะเป็นอย่างไร
                    อาจารย์เห็นมาหลายรายแล้ว...
                     หลังจากนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์วัลนิกา เริ่มต้นเปิดไฟล์งานบางอย่าง ด้วยไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์  ก่อนที่จะเริ่มอธิบายงานวิจัยตัวอย่าง ให้แก่นักศึกษาฟัง สายตานับร้อยของนักศึกษา จับจ้องไปที่จอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ ขณะที่มือก็ทำงานประสานกับสมองเพื่อจดบันทึกข้อมูลที่ได้ไว้ อย่างกับว่ากลัวมันจะหลุดลอยหนีหายไปเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าหากพลาดข้อมูลตรงหน้าไป คงรู้สึกเสียดายไม่น้อยทีเดียว
                    เมื่ออาจารย์ใช้เวลาครู่ใหญ่ ในการอธิบายข้อมูลในรูปเล่มเสร็จแล้ว เธอจึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่ยังมีข้อข้องใจถามได้ตามสมควร
สมความมุ่งหมายเมื่อนักศึกษาหญิงแถวหน้า หน้าตาคุ้นเคยใฝ่รู้ใฝ่เรียนยกมือขึ้น ด้วยสีหน้างุนงงและสงสัย ในขณะที่ผู้เป็นอาจารย์ พยักหน้า และผายมือไปหาเธอ เพื่อเป็นการอนุญาตให้เธอถามคำถามได้
                    “อาจารย์คะ แล้วในส่วนที่บอกว่ามีการนำเสนอนั้น กำหนดไหมคะ ว่าต้องนำเสนอแบบไหน”
ผู้เป็นอาจารย์พยักหน้าเชิงเข้าใจในความสงสัยดังกล่าว ในขณะที่นักศึกษาคนอื่นๆ ก็เงียบรอคอยคำตอบนั้นเช่นเดียวกัน
                    “เป็นคำถามที่ดีมากเลย ชนกพลอย เอาล่ะในส่วนของการนำเสนอ อาจารย์ไม่ได้กำหนดว่าคุณจะต้องนำเสนอแบบไหน อาจารย์เชื่อว่าพวกคุณมีศักยภาพมากพอ ที่จะมีการนำเสนองานที่แปลกใหม่ และน่าสนใจ และตรึงตรา ตรึงใจผู้ที่ฟังการนำเสนอของคุณ ”
ชนกพลอยพยักหน้าเข้าใจในคำถามที่มีคำตอบ ขณะที่แถวหลังสุดมีนักศึกษาหญิงหน้าตาสะสวย ยกมือขึ้นเพื่อถามข้อสงสัยของตนเช่นเดียวกัน อาจารย์พยักหน้าและผายมือเป็นการตอบรับเช่นเคย
                   “กำหนดส่ง และนำเสนองานวันไหนคะ” ผู้เป็นอาจารย์พยักหน้าเช่นเคย  ก่อนจะยกไมโครโฟนขึ้นจ่อปาก แล้วเริ่มต้นอธิบายข้อข้องใจนั้น
                   “อย่างที่อาจารย์กล่าวไปเมื่อสักครู่ ฉัตรมณี ว่าก่อนสำเร็จการศึกษา ดังนั้นพวกคุณจะเหลือเวลาอีก 3 เดือนในการหาข้อมูล และศึกษาวิจัยพฤติกรรมนั้น อาทิตย์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ รายงานทุกเล่มเกี่ยวกับงานวิจัยพฤติกรรมมนุษย์ของคุณ ต้องวางอยู่ที่โต๊ะอาจารย์ และตารางการนำเสนองานจะติดอยู่ที่บอร์ดข่าวสาร หน้าห้องพักของอาจารย์ นักศึกษารอติดตามได้เลยค่ะ”
                   ฉัตรมณีพยักหน้าอย่างเข้าใจ และก้มหน้าก้มตาจดบันทึกสิ่งที่เธอพึ่งจะได้คำตอบนั้น ลงในสมุดเล่มเล็กตรงหน้า ในขณะที่นักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีข้อสงสัยก็ยกมือถามอาจารย์ไปตามสมควร
                   เมื่อเห็นว่านักศึกษาในความปกครองของตน  มีความเข้าใจเกี่ยวกับงานโบว์แดงที่อาจารย์ผูกเป็นปมให้แก้แล้ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์วัลนิกา  จึงปล่อยให้นักศึกษาเลิกคลาสก่อนเวลา แม้จะดูน่าดีใจยิ่งนัก แต่ภาระงานที่นักศึกษาได้รับไปในวันนี้ ไม่ได้ทำให้การเลิกคลาสเร็วเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นแต่อย่างใด
                   แต่กลับทำให้พฤติกรรมของมนุษย์ที่เรียกว่า ‘นักศึกษา’ นี้เริ่มมีกริยาที่แสดงออกถึงความกระตือรือร้น ที่จะหาข้อมูลในการทำงานส่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เมื่อเผชิญสิ่งเร้า’ นั่นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่