บันทึกของฉัน : มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

สวัสดีทุกๆคนค่ะ ที่เราเขียนบันทึกนี้ จะมาเล่าสู่กันฟัง ใจนึงอยากจะเอาไว้อ่านเอง เพื่อเอาไว้ย้อนอ่าน
ตอนเราแก่แล้ว(?) อีกใจนึงก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นแนวแก่ใครที่อยากเข้ามหาลัยนี้ด้วยค่ะ

เราเป็นเด็กแอด 57 คนนึง (แต่ดันไม่ได้แอด) เพิ่งจบม.6 มาหมาดๆเลยค่ะ ครอบครัวไม่ได้มีฐานะอะไรแต่
ได้ทุน 80 ปี จึงเลือกมาเรียนที่นี่ (ถ้าไม่ได้ทุนเราคงไม่ได้เรียนที่นี่ เพราะดูแล้วแพงมาก) เอาล่ะ มาเริ่มเรื่องกันเลยยย..

วันแรกที่เราไปเอแบคบางนา..แค่ทางเข้าก็ดูลึกลับซับซ้อนแล้วค่ะ พอไปเจอตึก ตื่นตามากไม่เคยเห็นอะไรที่มันดูหรู
อะไรแบบนี้ ไม่รู้จะไปทางไหน แต่โชคดีที่แถวนั้นรปภ. เยอะมากก เราว่าแทบจะมีทุกมุมเลยนะ เราเลยเดินถามไปเรื่อยๆค่ะ
ที่สมัครสอบอยู่ที่ SM115 พอไปถึงเขาก็ให้กรอกแบบฟอร์ม เสีย 500 บาท ค่าใบสมัครและได้กระเป๋ามาใบนึง
ข้างในมีคู่มือเล่มใหญ่มากค่ะ เปิดดูถึงกับเงิบ อิ้งล้วนเลย.. มีภาพมาให้ดูด้วยยย -w-


จากนั้นเขาก็ให้ไปทดสอบภาษาอังกฤษค่ะ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราต้องเรียน Intensive Course กี่ชั่วโมง (15/30/60/120 hrs.)
ทำในคอม ข้อสอบมีสอง Part ค่ะ Grammar 30 ,Reading 30 ให้เวลา 1 ชั่วโมง แต่เรารู้สึกว่าทำไมมันก็เหมือนๆกัน
คือเขาจะให้ passage มาเป็นเรื่องราวแล้วเว้นว่างให้เราเลือกคำใส่ลงไป เรารู้สึกว่าเราแปลออกนะ แต่ไม่รู้จะตอบไรดี 5555
แล้วคือ passage มันอยู่หน้าแรก เราอ่านไปสามบรรทัด เจอคำตอบข้อแรกพอดีเลยตอบเลย และกด next ทันที เพื่อที่จะ
ไปอ่านคำถาม ข้อ 2 ก่อนค่อยมาอ่านใน passage ปรากฎว่าแม่เจ้า เงิบจ้า กด back ไปอ่านอีกไม่ได้ เลยมั่วไปเลย 5-6 ข้อ T^T
สรุปคือเราได้เรียน 120 hrs. ถถถถถถ เขาให้เราถามคะแนนได้นะ เราได้ 38 แต่เขาบอกว่า ถ้า 42 จะได้เป็น 60 hrs.
เราเฟลมาก ไม่ใช่อะไร แม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น แต่อีกมุมนึงก็ดีค่ะ เรียนเยอะๆเพราะเราก็ไม่ได้เก่งมาก่อน เรียนกับครูตปท.
ก็แค่สัปดาห์ละวัน ไม่คุ้นเคยกับพวกนี้เลย เรียนเยอะๆขยันๆ น่าจะทำให้เราพัฒนาได้ (เราปลอบใจตัวเองแบบนี้ 5555)

ส่วนคณิตศาสตร์ ต้องเรียน Intensive เหมือนกันค่ะ แต่จะดูจากเกรดของเราตอนม.ปลาย เราได้สี่ แต่ได้เรียน 30 hrs.
เพราะเราจบจากสายศิลป์มามั้ง ไม่ได้เรียนเลขเต็มหลักสูตรรึเปล่า อาจจะเป็นแบบนั้น = =;
สรุปค่าใช้จ่ายแค่ Intensive + ค่าแรกเข้า ปาไปสองหมื่นเจ็ดนิดๆ (นี่ขนาดยังไม่ได้เปิดเทอม)

ก่อนวันไปเรียนอาทิตย์นึง เราก็เข้าไปจองหอค่ะ เราอยู่หอใน มีห้องสองคน สามคน อันนั้นราคาก็จะประมาณ 3500-4500 /เดือน
ห้องดูแต่เราเลือกอยู่หอในชั้น 13 ค่ะ ซึ่งแค่สองพันบาทเอง รวมค่าน้ำค่าไฟแล้ว คือมันถูกที่สุดในนั้นแล้ว เลยนี่แหละใช่เลย
แต่แค่นอนรวมกัน ไปอยู่จริงๆแล้วมันโอเคมากเลยนะ มีแอร์ (เปิดเป็นเวลา) ,เน็ต,เครื่องทำน้ำอุ่น ตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อย
แต่เราชอบหนีร้อนลงไปนั่งเล่นที่คาเฟ่ ไม่ก็ห้องเพื่อน ชั้น 13 ไม่ได้ถ่ายภาพปัจจุบันมา (ซึ่งแต่ละคนมีของมาแบบจัดเต็มเหมือน
ห้องตัวเองเล็กๆเลย น่ารักดีค่ะ แต่บางเตียงก็รก) แต่เขาก็จะมีอาณาเขตมารค์ไว้ชัดเจน
ภาพนี้เราถ่ายมาจากอัลบัมที่พนักงานให้ดูค่ะ เพราะขึ้นไปดูห้องจริงไม่ได้


เมื่อไม่กี่วันมานี้เราไปสำรวจใต้หอมาค่ะ เพิ่งรู้ว่ามีด้วย และพบว่า มันมีตู้กดน้ำหยอดเหรียญด้วย ตู้นึง.. !! เราเพิ่งบ่นกับเพื่อนไปเองว่า
ทำไมที่นี่ไม่มีตู้กดน้ำนะ กลัวน้ำตามร้านขายไม่ออกรึเปล่า แต่ในที่สุดก็ค้นพบค่ะ 555
แล้วก็ตรงหอ A มีอินเตอร์เน็ตค่าเฟ่ ให้ใช้ฟรีด้วยค่ะ เปิดบ่ายสองถึงสองทุ่ม เราว่ามันก็ดีนะ หัวเราะ

วันเรียนนั้น เดือนแรกเราเรียนแค่สองวัน รู้สึกเซงๆแบบรู้งี้อยู่บ้านดีกว่า แต่เดือนต่อไปก็จะเรียนจันทร์ - ศุกร์ค่ะ
ตารางเรียนได้หลังจองหอ แต่ก็ไม่เป็นไร บ่นไปก็เท่านั้น (แต่ก็อยากบ่น อิอิ)
วันแรกที่เรียนก็สเต็ปเดิมเลยค่ะ เดินถามพี่ซีเคียว จนถึงห้อง วันนึงเรียนสามชั่วโมงค่ะ วันแรกเราเรียนกับ อ.พม่า
เขาพูดเร็วไปหน่อย จับใจความได้ไม่หมดเลย สอบ dictation วันแรกก็ประเดิมเลยเอาไข่ต้มมากิน เต็มห้า 555555
(dictation คือ เขาจะพูด passage ยาวๆประมาณ 4-5 บรรทัด สามรอบค่ะ รอบแรกเร็ว รอบสองจะสโลวให้ รอบสามคือเช็คที่เขาอ่าน
แล้ว dictation จะมีการสอบก่อนเริ่มเรียนทุกวันค่ะ)แล้วอาจารย์เขาก็พูดๆ เกี่ยวกับคะแนน ประวัติเขา บทเรียน อะไรแบบนี้

ส่วนอ.คนที่สอง เราได้ อ.อินเดียค่ะ อาจารย์คนนี้เขาพูดช้ากว่าคนแรก เลยฟังออกกว่าเดิมหน่อย เขาตั้งใจพูดให้เราฟังเขาทันแหละ
อ.คนนี้ dictation เราได้ 4.5 คือปริ่มมากๆ หลังจากได้ 0 มา คือ อ.คนนี้เขาจะบอกด้วยว่ามีคอมมาร์นะ จุดฟูลสต๊อปนะ
แต่เราก็รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้คะแนนไม่ดี คือเราฟังสำเนียงอาจารย์ไม่ออก แบบมันไม่มีที่เราเคยได้ยิน สำเนียงคนไทยอะ T^T

การเรียนก็จะมีเขียนบ้าง แล้วทุกคลาสจะให้เขียน Journal ทุกวันเป็นการบ้านค่ะ มีหนังสือให้อ่านนอกเวลา แล้ววันนึงก็จะให้
เราออกไปพูดหน้าห้องว่าแบบเรื่องนี้เป็นยังไง เราจำได้เลย ครั้งแรกนี่ขาสั่นมา เกร็งที่สุด ตะกุกตะกัก ฮืออออออ
บางวันก็ให้เราเขียนเรื่องที่เขากำหนด ส่งท้ายคาบเลยก็มีแต่เราก็ไม่เคยท้อนะ อาจเป็นเพราะชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว
แต่ไม่เก่ง เฉยๆเอง แฮ่ -w- ภาพนี้เป็นหนังสือที่ใช้เรียน Intensive ค่ะ



ส่วนเรื่องอาหาร ก็จะมีอยู่สองที่ค่ะ ใต้ตึก CL กับ AU Mall ราคาพอๆกัน 45-50 บาท+ แต่ก็มีอีกที่นึง ตรง AU Mall จะมี Cafeteria
ในนั้นต่ำสุดจะจานละ 30 ค่ะ แน่นอนเราไปกินที่นั่นบ่อยสุด มีน้ำฟรีด้วยนะ แต่เราจะซื้อน้ำแข็งแก้วละ 2 บาท แล้วไปกดน้ำเอามากกว่า
เพราะแก้วรวมๆตรงน้ำฟรีเกรงว่าจะไม่สะอาด แล้วก็ไม่กี่อาทิตย์มานี้มีเซเว่นเปิดแล้วด้วย รู้สึกสะดวกขึ้นมากกกกก

พอหลังจากเลิกเรียนนั้น บางวันเราก็ไปฟิตเนตบ้าง เดินทัวร์มหาลัยบ้าง ไปตีแบตบ้าง มีคอรด์แบต เทนนิส บาส สควอรต์ โต๊ะสนุ๊ก
สระว่ายน้ำและอีกเยอะแต่เราจำไม่ได้แล้ว เราสามารถไปเล่นได้ฟรีด้วยค่ะ ปลื้มก็ตรงนี้ 5555 อันนี้คอรด์แบตมินตันค่ะ



คิดไม่ออกแล้วแฮะ ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านจบนะคะ ถ้ามีกิจกรรมอะไรต่อจากนี้ / เปิดเทอม เราก็จะมาอัพเรื่อยๆเน้อะ <3

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่