อาโลฮา พุธลัลลา ..... กราบสวัสดี มวลมหาประชาชวนชิมชาวคนก้นครัวทุกท่านคะ
บ่งบ๊งศรี มา อีก แล้วววววว วันนี้มาพร้อมเมนูเด็ดจานด่วน อร่อยล้ำจานเส้นที่โปรดปราณ
จัดให้เป็นเมนูเด็ดประจำบ้าน จะว่าเป็นเมนูสิ้นคิดก็ย่อมได้ เพราะวัตถุดิบนั้น พร้อมเสมอ

วันนี้บ่งบ๊งศรีมีเมนูเด็ดจานโปรดของสมาชิกที่บ้าน นำพามาฝากน้องพี่คนช่างทำช่างกิน
เป็นเมนูง่าย ๆ สำหรับสาวกคนปลื้มอาหารด่วนจานเส้น ทำไม่ยาก ไม่ต้องคิดมากด้วย
สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งบ๊งได้นำพาจานที่เห็นนี้ไปยั่วยวลมวลชนชาวเฟสบุ๊ค
แล้วก็ตั้งชื่อให้ดูขึงขังมากความ ว่า "ผัดหมี่มาลายู" หลายคนสนใจอยากจะไปลองทำ
น้อง ๆ ขอให้บ่งบ๊งบอกสูตรและวิธีผัดให้ด้วย ซึ่งเวลานั้นเราก็ได้บอกไปแบบคร่าว ๆ
แนะนำให้ผัดแบบก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วของชาวไทย นั่นหล่ะ แต่เขาก็อยากให้ทำให้ชม
บ่งบ๊งจึงได้ทำให้ชมไปแล้วในบล๊อกอาหาร แต่เกรงว่าชาวก้นครัวอาจไม่คุ้นเคยกับการ
เข้าไปชมที่บล๊อกแกงค์ วันนี้จึงขอนำพาเมนูง่าย ๆ ไม่เรื่องมากมาแปะไว้ตรงนี้ด้วย

บ่งบ๊งไม่ทราบว่าจะเรียกก๋วยเตี๋ยวแบบนี้ว่าอย่างไร จึงขอเรียกตามที่ได้ชิมมาจริง ๆ
คือตัวเองได้เคยชิมก๋วยเตี๋ยวผัดหมี่แบบนี้ในสามประเทศที่มีชาวมาลายูพำนักอาศัย
อร่อยครั้งแรกที่เมืองปีนัง ไปอร่อยแซ่บต่อที่สิงค์โปร์ แล้วไปจบลงที่บาหลี อินโดนีเซีย
คือทั้งสามประเทศเขาผัดเหมือนกันหมด ส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ ก็คล้ายกันนะคะ
แล้วก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป แต่เป็นคนละชนิดกับ 'ผัดหมี่โกเรง - Mie Goreng'
ในแบบของอินโดฯ ใครที่พำนักอาศัยในสามประเทศนี้ และเคยรับประทานผัดหมี่แบบใด
โปรดนำพาหน้าตาผัดหมี่มาแปะไว้ที่กระทู้นี้ พร้อมข้อมูลรายละเอียด จะเป็นพระคุณยิ่ง





แล้วเขาก็เสริฟมาให้พร้อมกับพริกชีฟ้าดองน้ำส้ม ที่สิงค์โปรเป็นพริกชี้ฟ้าเขียว
มาเลเซียเป็นพริกชี้ฟ้าเขียวและแดงผสมรวมกัน ที่อินโดก็มีพริกดองแบบนี้ด้วย
ทำให้เรานึกถึงก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วของบ้านเราที่ต้องมีพริกดองเสริฟมาให้ด้วย




ส่วนผสม

ผัดหมี่สิงค์โป – ผัดหมี่มาลายู - ผัดซีอิ๊วชาวไทย

เส้นบะหมี่ไข่ 500 กรัม
เนื้อไก่หั่นชิ้น 200 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
กระเทียมสับ 1 หัว
กะหล่ำปลี/ถั่วงอก/ผักคะน้า/ผักบ๊อกฉอย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย [สมัยก่อนไม่มี]
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนคาว
ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนคาว
น้ำตาลทราย  2 ช้อนคาว
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนคาว
พริกป่น มากน้อยตามชอบ
พริกไทยป่น

หมายเหตุ - ผัดหมี่โกเรง Mie Goreng ในแบบของชวาจะต้องใส่หัวหอมแดงเพิ่มเข้าไป
แล้วก็ต้องเพิ่มซอสมะเขือเทศให้สีก๋วยเตี๋ยวเป็นสีแดง บางร้านปรุงน้ำพริกเฉพาะของร้าน


สิ่งที่ต้องเตรียม

ปลอกกระเทียมแล้วสับหยาบ ๆ

ล้างผักต่าง ๆ ให้สะอาด ตัดขนาดพอดี ถั่วงอกเด็ดหางเพื่อความสวยงาม

นำเส้นบะหมี่ล้างผ่านน้ำไหลเพื่อให้แป้งที่เคลือบเส้นหลุดออกไป
นำบะหมี่ลวกในน้ำร้อนจัด ๆ ลวกพอให้สุก ไม่ต้องให้ถึงกับเส้นนิ่มจนเละ
แล้วสะบัด ๆ ล้างผ่านน้ำเย็นทันที การแช่น้ำเย็นทำให้เส้นบะหมี่ไม่ติดกัน


วิธีปรุง

ตั้งกระทะใส่น้ำมัน [แนะนำให้ใช้กระทะที่ผัดแล้วไม่ติด อย่างกระทะเทฟล่อน] เยี่ยมสุดคะ
นำกระเทียมสับหยาบลงผัดให้หอม ตอกไข่ลงไป พอไข่อยู่ตัวแล้วใช้ตะหลิวเขี่ยไข่ให้กระจาย
ใส่เนื้อไก่ที่หั่นไว้ลงผัดให้สุก ใส่ผักที่สุกยากไปก่อน ตามด้วยเส้นบะหมี่ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำหวาน น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย ใส่พริกป่นสุดท้าย
ก่อนเสริฟ ซอยต้นหอมโรยหน้า โรยพริกไทย เสริฟพร้อมพริกชี้ฟ้าดองน้ำส้ม และพริกป่น

หมายเหตุ -  เราเพิ่ม "เหล้าจีน" ตอนท้ายสุดก่อนดับไฟเตา ชอบเมนูผัดที่ใส่เหล้าจีนไปด้วย

ผักต่าง ๆ เลือกตามที่ชอบ เรามีผักคะน้าฮ่องกง และถั่งงอก ก็จัดไป
แต่หลักใหญ่แล้วเขาต้องใส่ถั่วงอก ผักบ๊อกฉอย และกะหล่ำปลีนะคะ




เส้นบะหมี่ไข่เลือกตามชอบ มีเส้นบะหมี่จากหลากหลายชาติที่อร่อยเหาะ




วิธีการผัดคล้ายบรรดาก๋วยเตี๋ยวผัดของบ้านเรา คือใส่กระเทียมสับลงผัดก่อน




ใส่ไข่ลงผัด พอไข่เริ่มอยู่ตัวใช้ตะหลิวเขี่ย ๆ ให้ไข่กระจาย แต่ยังจับตัวเป็นก้อน
แล้วใส่เส้นบะหมี่ไข่ที่ลวกไว้ลงไป เส้นบะหมี่ไม่ต้องลวกให้สุกมากจนเละนะคะ
เพราะตอนผัดแล้วเส้นจะสุกขึ้นอีก ถ้าลวกนานเกินผัดแล้วจะเละ เส้นขาดหมด




ใส่ผักที่สุกยากไปก่อน บ่งบ๊งชอบลวกผักไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ผักหมอง
และที่สำคัญการทำผัดผักหรือผัดแบบนี้แล้วต้องใส่ผักในปริมาณมาก
ถ้ากระทะไม่ใหญ่พอจะทำให้การผัดยากคะ ผักจะหมองคล้ำ ไม่สวย




ส่วนผสมทั้งหมด นำมาผสมรวมกันไว้แบบนี้ทำให้การผัดง่ายขึ้นเยอะ
ส่วนผสมถ้วยนี้ ถ้าเพิ่มเต้าเจี้ยวดำ เพิ่มหอมแดง จะกลายเป็นผัดหมี่โครราช




ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป แล้วก็ใส่พริกป่นผัดไปพร้อมกันเลย




คลุกเคล้าให้ส่วนผสมและเส้น-ผักเข้ากันดีแล้ว ใส่ถั่วงอก
ถั่วงอกควรใส่หลังสุดเพราะถั่วงอกสุกง่าย ผัดนานจะเหี่ยว
สังเกตุหอยทอดและผัดไทยบ้านเรา เขาใส่ถั่วงอกสุดท้าย
โดยใช้ตะหลิวผัดไปมาสองรอบเป็นอันเสร็จ ดับไฟได้




แขกมาลายูส่วนใหญ่เขาไม่ทานหมู ก็ต้องใช้เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว
แต่ถ้าแขกโพกผ้าขาว พวกนี้เขามังสวิรัฐิ ไม่ทานเนื้อสัตว์ใด ๆ
แต่ทานไข่ได้ เขาก็ใส่ไข่อย่างเดียว ไข่อย่างเดียวก็อร่อยดีนะ




เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวดการผัด ๆๆๆๆ ผัดหมี่[มาลายู] พร้อมรับประทาน




ใส่ถั่วงอกไปด้วยก็จะคล้ายกับ "ผัดหมี่ถังแตก" แบบโบราณที่เรา ๆ เคยรับประทาน




ที่สิงค์โปรเขาใช้เส้นคล้ายหมี่โซบะของญี่ปุ่น เส้นสีเหลืองจัด เนื้อแป้งเหนียว นุ่ม
คนผัดมาให้กินเป็นแขกมาลายูผิวดำทะมึน ผัดได้จัดจ้านเผ็ดร้อนเหมือนคนทำ หุหุ




อ๊ะ อ๊ะ อย่าเถียงนะ "ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว" นั้นเป็นของชาวไทย บ่งบ๊งจะเถึยงคอขึ้นเอ็นทันที
เพราะเมนูที่บ่งบ๊งศรีทำให้ดูในวันนี้ หมี่ผัดหน้าตาแบบนี้ไปรับประทานมาด้วยปากตัวเอง
ถึงสามประเทศ ปีนัง/มาเลเซีย บาหลี/อินโดนีเซีย และ สิงค์โปร ก็เป็นในแบบเดียวกัน




ผัดหมี่ในแบบของแขกย๊ะห์วา /ย๊ะหวา เขาใส่เนื้อวัว เรามีลูกชิ้นเนื้อวัวก็ใส่เพิ่มไปด้วย
เขาใส่ซีอิ๊วดำนิดหน่อย แต่เรามันพวกบ้าระห่ำกินซีอิ๊วดำก็ต้องแบบจัดหนักกันไปเลย
เราว่าชามของเราดำดีสีไม่ตกแล้วนะ แต่ชามของคุณพี่สาวดำกว่านี้ ดำเป็นนิโกรเลย




ชอบกลิ่นของต้นหอมมาก โดยเฉพาะตรงส่วนโคนขาว ๆ งั้นก็ต้องโรยต้นหอมให้ทั่ว  




ที่สิงค์โปรมักเสริฟมาในถ้วยชามกังไส จานชามลวดลายแบบจีน เราชอบจัง
เราก็เอาสักหน่อย เรียนแบบเขาให้ดูเป็นจีน/แขกมาลายู แบบลอกเขามาเป๊ะ ๆ




ซูม ซูม ซูม ซูมเส้นชัด ๆ เพื่อให้ผู้คนน้ำลายหก อยากกิน ... แผล่บ แผล่บ






สรุป ..... มวลมหาประชาชิมนึกออกกันหรือยังว่าเย็นนี้จะรับประทานเมนูใด
หากยังคิดไม่ตก เลือกไม่ถูก ลองเดินไปที่คลังแสงของท่าน ตรวจเช็กดูวัตถุดิบ
ถ้าใครมีเส้นบะหมี่สำเร็จรูป มีผักต่าง ๆ หลงเหลือ อย่าปล่อยให้เป็นซากฟอสซิล
รีบ ๆ นำมาจำหน่ายจ่ายออกจากคลังแสง ลองทำหมี่ผัดมาลายูแบบนี้กันนะคะ

ผัดหมี่ไม่ยากเลย แต่สำหรับคนทำอาหารไม่เป็น ไม่มีพื้นฐานในการปรุงอาหาร
เขาก็จะต้องบอกว่า "ไปซื้อเขากินเถอะ ทำเองไม่ได้ ทำไม่เป็น มันยุ่งยาก"
ทำตามขั้นตอนที่บ่งบ๊งบอก แค่นี้คุณก็เป็นนักปรุงมือใหม่ที่สำเร็จวิชามารแล้วคะ



ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นที่เป็นกำลังใจ
บ่งบ๊งเชื่อว่าการทำอาหารไม่ยากเกินความสามารถ อาหารทุกจานไม่มีบทสรุปตายตัว
อย่างที่ "ป้าอ้วนเหนียวเนื้อ" ท่านเคยเขียนไว้ "มีวัตถุดิบอะไรก็ใส่ไป ดัดแปลงกันไป
ถ้าเรามั่นใจว่าแบบนี้มันต้องอร่อย ๆ จานนั้น ๆ ก็จะต้องอร่อยในความรู้สึกของเรา"
ขอให้คุณมีความตั้งใจ ใส่ใจกับสิ่งที่ทำ อาหารทุกจานของคุณก็จะน่ารับประทานยิ่งนัก