สวัสดีครับเพื่อน ๆ สมาชิกทุกคน วันนี้ผมมีเรื่องการมาแบ่งปัน เป็นเรื่องการทำบัตรเครดิต Wisdom ของทางธนาคารกสิกรไทย
โดยบัตรเครดิตนี้จะมีได้ ก็ต่อเมื่อมีเงินฝากก้อนโต หรือ ซื้อประกันชีวิตมูลค่าสูง ซึ่งผมกับคุณพ่อได้ทำบัตรนี้เพื่อช่วยเหลือให้ผู้จัดการสาขาหนึ่งได้ผลงาน โดยผมซื้อประกันชีวิตแบบ 1525 (ส่งเบี้ย 15 ปี ได้เงินคืนในปีที่ 25) ส่วนคุณพ่อซื้อแบบ 410 (ส่งเบี้ยประกัน 4 ปี ได้คืนในปีที่สิบ)
ปัจจุบันนี้ที่บ้านของผมมีกรมธรรม์ประกันชีวิตรวมกันทั้งบ้านกว่า 30 ฉบับแล้ว ดังนั้น ที่พวกผมซื้อประกัน Wisdom ทั้งสองฉบับนี้ด้วยเหตุผลเดียวจริง ๆ คือการช่วยเหลือผู้จัดการสาขา
ตลอดเวลาที่ผมถือบัตรเครดิต Wisdom มานี้ ผมไม่ได้รับความอำนวยสะดวกอะไรจากบัตรนี้อย่างที่โฆษณาเท่าใดนัก เนื่องจากผมอยู่ต่างจังหวัด (ผมอยู่ขอนแก่นครับ) และสิทธิ์ต่าง ๆ ในขอนแก่นก็ไม่ได้มีมากนัก (ผมทำบัตรนี้มา 3 ปี โดยปีแรกไม่มีอะไร ปีที่สองสามารถใช้เล่น fitness first ได้และตรวจสุขภาพที่ รพ.ขอนแก่นรามฟรี ส่วน lounge ของการบินไทย ก็เพิ่งให้เที่ยวบินจังหวัดขอนแก่นเข้าใช้ได้ไม่นานมานี้) แต่นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ครับ
หลายครั้งที่ผมเห็นสิทธิประโยชน์มากมายที่น่าสนใจที่บัตร Wisdom นี้มีทางโฆษณาสื่อต่าง ๆ แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ ด้วยว่าผมอยู่ต่างจังหวัด ทำให้หลายครั้งที่ผมต้องเสียดายเหมือนกัน
แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่ผมเจอ ผจก.ฝ่าย Wisdom ที่เคยดูแลมากระทำกับผม
ก่อนหน้าที่ผมจะทำบัตร Wisdom นี้ตัว ผจก. Wisdom คนนี้มาบ้านผมบ่อยมากครับ แต่พอหลังจากผมทำบัตรไปแล้ว ผมไม่เคยเจอเธออีกเลย และเมื่อผมมีปัญหา พอดีว่ามีงานจัดสัมมนาโดยสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้า Wisdom เท่านั้น ซึ่งผมพลาดงานนี้ไป แต่พอดีมีพี่ที่ผมสนิทด้วยแกโทรหาผมว่าทำไมไม่เห็นผมในงาน เพราะงานนี้มันดีมาก ๆ ผมเลยโทรถาม ผจก. Wisdom คนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงได้ตกหล่นไป สิ่งที่ผมเจอจาก ผจก. Wisdom คนนี้คือการที่เค้าตอบว่าเค้าส่งเรื่องให้คนอื่นไปแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของเค้า ก่อนที่เค้าจะวางสายผมแทบจะทันที
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้สึกแย่กับการกระทำของเค้ามากครับ ก่อนกับหลังขายบัตรได้ ทำไมเค้าต่างกันขนาดนี้ ... นอกจากนี้ผมยังได้ยินคนพูดมาถึงหูผม เค้าเคยพูดว่า "ไม่อยากดูแลหรอกลูกค้าประกันชีวิตน่ะ เพราะ wealth มันน้อย" เพราะเค้าอยากได้ลูกค้ากลุ่มเงินฝากมากกว่า เพราะตัวเลขโชว์มันจะสูงกว่า ผมไม่รู้ว่าเค้าพูดอย่างนี้จริงหรือไม่ แต่เค้าเคยพูดกับผมเองจริง ๆ ว่าเค้าสนใจอยากให้ลูกค้าฝากเงินมากกว่าที่จะซื้อประกัน
นอกจากผมต้องมาเจอสภาวะที่บัตรนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อคนต่างจังหวัดแล้ว ผมยังต้องเจอการดูแลของ ผจก. Wisdom แบบนี้อีก ผมก็ยังโอเคอยู่ได้ เพราะถือว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น ในอนาคตบัตรนี้ก็ต้องมีการปรับปรุงอยู่แล้ว
แต่ว่าผมคิดผิดครับ เพราะว่าผมและพ่อต่างก็ได้รับจดหมายจากทางธนาคารกสิกรไทยว่าคุณสมบัติของเราสองคนไม่ผ่านเกณฑ์การถือบัตร Wisdom อีกต่อไป
ด้วยว่าบัตร Wisdom นี้มีอายุ 3 ปี ซึ่งของผมจะสิ้นสุดลงในปีนี้ ทางธนาคารจึงสงวนสิทธิ์ที่จะทำการต่ออายุบัตรให้ ทันทีที่ผมอ่านจดหมายฉบับนี้จบ ทำให้ผมรู้สึกหน้าชา เหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง ผมงงมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะในเมื่อผมยังส่งประกันชีวิตถึง 15 ปี แต่ทำไมบัตรถึงมีอายุแค่ 3 ปี นโยบายนี้มันมีมาแต่แรกหรือ เพราะผมไม่เคยเห็น หรือว่าเพราะผมสะเพร่าเชื่อใจ ผจก.ธนาคารมากเกินไป ? ผมเองเกิดคำถามต่าง ๆ นานา
ผมเลยโทรถามธนาคารสาขาที่รู้จักกัน จนท.สาขาบอกว่า ตัวนโยบายอายุบัตร 3 ปีนี้เพิ่งออกมาได้สักพัก เลยมีการปรับใช้ ซึ่งถ้าหากต้องการรักษาสภาพการเป็น Wisdom ผมต้องเอาเงินฝากก้อนโตไปฝากประจำหรือซื้อกองทุน ผมเลยงงว่าทำไมถึงมาปรับใช้ย้อนหลังแบบนี้ ? การกระทำแบบนี้ของธนาคารกสิกรไทยเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้าหรือเปล่า ? นึกอยากจะเปลี่ยนกฎ ก็ปรับใช้ย้อนหลังกับลูกค้าแบบนี้
ถ้าหากธนาคารจะให้บัตรมีมีอายุ 3 ปีสำหรับกลุ่มลูกค้า "เงินฝากหรือกองทุน" ผมก็เข้าใจนะครับ เพราะเค้าฝาก 6 เดือนก็ได้บัตรนี้แล้ว แม้จะถอนเงินหรือขายกองทุนไป ก็ยังจะได้บัตรนี้ต่อไป ผมเข้าใจได้ถ้าหากธนาคารต้องการให้อายุบัตรลูกค้ากลุ่มนี้แค่ 3 ปี
แต่กับลูกค้ากลุ่มประกันชีวิตล่ะครับ ? เค้าส่งเบี้ยกันหลายปีเลยนะครับ และก็ส่งสะสมให้กับธนาคารคุณทุก ๆ ปีเลยนะครับ และอย่างกรณีของผม พอผมส่งเสร็จในปีที่ 15 ผมต้องรออีก 10 ปีเลยนะครับ ถึงจะได้เงินคืน ... มันแปลว่าผมเอาเงินไปฝากไว้กับคุณตั้งนานเป็นสิบ ๆ ปีเลยนะครับ ทำไมกสิกรไทยถึงทำกับผมได้ครับ
แล้วยังไงต่อไปดีล่ะครับ ... มันก็แปลว่าผมต้องส่งประกันชีวิตไปอีก 12 ปี โดยที่ไม่มี benefit อะไรเลย เพราะว่าประกันชีวิตที่ผมซื้อนั้นคือของ 'เมืองไทยประกันชีวิต' ที่การดูแลนั้นด้อยกว่าบริษัทอื่น ๆ เพราะว่าไม่มีตัวแทนดูแลอย่างแท้จริง ด้วยว่าผมซื้อประกันผ่านทางธนาคาร ทำให้ผลงานมันเข้าของส่วนกลาง ตัวแทนเองก็ไม่อยากดูแลผมเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ใช่ผลงานของเค้า
สุดท้ายกลายเป็นว่า ผมต้องมานั่งส่งเบี้ยประกันภัยปีละไม่น้อยอีก 12 ปี เพื่อให้ ผจก. ได้ผลงาน (ซึ่งตอนนี้เค้าหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ -*- ) บัตร Wisdom ที่ผมหวังรอคอย benefit ในอนาคตก็โดนธนาคารกสิกรไทยยึด, ประกันภัยก็เคลมไม่ค่อยจะง่าย (ซึ่งถ้าซื้อบริษัทอื่นคงได้รับการดูแลที่แตกต่างกันแน่นอน) แล้วผมก็ไม่สามารถที่จะยกเลิกประกันชีวิตตอนนี้ได้ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะขาดทุนอย่างแน่นอน
ที่ผมมาตั้งกระทู้ในวันนี้ เพื่อ
1. เตือนเพื่อน ๆ สมาชิกที่คิดจะทำบัตรประเภทนี้ครับว่าบัตรนี้มันมีอายุแค่ 3 ปี ซึ่งข้อมูลตรงนี้ธนาคารมักจะไม่เปิดเผยกับลูกค้าครับ ถ้าเราไม่ถามเอง
2. เพื่อให้เพื่อน ๆ สมาชิกกลุ่มลูกค้าประกันชีวิตได้ทราบว่าบัตรของท่านไม่ได้มีอายุตามระยะเวลาที่ท่านส่งเบี้ยประกันแต่อย่างใด
ขอบคุณครับ
ปล. หลังจากที่ผมได้รับจดหมายยกเลิกบัตรจากกสิกรไทย ผมติดต่อผ่านทางสาขาไปยัง จนท.หน่วย Wisdom ขอนแก่นแล้ว ซึ่ง จนท.สาขาโทรคุยกับฝ่ายดูแล Wisdom ขอนแก่นต่อหน้าผมเลยครับ ซึ่งเค้ารับรู้แล้วว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นแต่จนถึงวันนี้ ผ่านมาหลายวันแล้วผมก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเค้าเลยครับ .... อะไรจะทิ้งขว้างผมได้ขนาดนี้ :'(
ข้อเตือนใจการทำบัตรเครดิต Wisdom กับธนาคารกสิกรไทย
โดยบัตรเครดิตนี้จะมีได้ ก็ต่อเมื่อมีเงินฝากก้อนโต หรือ ซื้อประกันชีวิตมูลค่าสูง ซึ่งผมกับคุณพ่อได้ทำบัตรนี้เพื่อช่วยเหลือให้ผู้จัดการสาขาหนึ่งได้ผลงาน โดยผมซื้อประกันชีวิตแบบ 1525 (ส่งเบี้ย 15 ปี ได้เงินคืนในปีที่ 25) ส่วนคุณพ่อซื้อแบบ 410 (ส่งเบี้ยประกัน 4 ปี ได้คืนในปีที่สิบ)
ปัจจุบันนี้ที่บ้านของผมมีกรมธรรม์ประกันชีวิตรวมกันทั้งบ้านกว่า 30 ฉบับแล้ว ดังนั้น ที่พวกผมซื้อประกัน Wisdom ทั้งสองฉบับนี้ด้วยเหตุผลเดียวจริง ๆ คือการช่วยเหลือผู้จัดการสาขา
ตลอดเวลาที่ผมถือบัตรเครดิต Wisdom มานี้ ผมไม่ได้รับความอำนวยสะดวกอะไรจากบัตรนี้อย่างที่โฆษณาเท่าใดนัก เนื่องจากผมอยู่ต่างจังหวัด (ผมอยู่ขอนแก่นครับ) และสิทธิ์ต่าง ๆ ในขอนแก่นก็ไม่ได้มีมากนัก (ผมทำบัตรนี้มา 3 ปี โดยปีแรกไม่มีอะไร ปีที่สองสามารถใช้เล่น fitness first ได้และตรวจสุขภาพที่ รพ.ขอนแก่นรามฟรี ส่วน lounge ของการบินไทย ก็เพิ่งให้เที่ยวบินจังหวัดขอนแก่นเข้าใช้ได้ไม่นานมานี้) แต่นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ครับ
หลายครั้งที่ผมเห็นสิทธิประโยชน์มากมายที่น่าสนใจที่บัตร Wisdom นี้มีทางโฆษณาสื่อต่าง ๆ แต่ผมก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ ด้วยว่าผมอยู่ต่างจังหวัด ทำให้หลายครั้งที่ผมต้องเสียดายเหมือนกัน
แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่ผมเจอ ผจก.ฝ่าย Wisdom ที่เคยดูแลมากระทำกับผม
ก่อนหน้าที่ผมจะทำบัตร Wisdom นี้ตัว ผจก. Wisdom คนนี้มาบ้านผมบ่อยมากครับ แต่พอหลังจากผมทำบัตรไปแล้ว ผมไม่เคยเจอเธออีกเลย และเมื่อผมมีปัญหา พอดีว่ามีงานจัดสัมมนาโดยสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้า Wisdom เท่านั้น ซึ่งผมพลาดงานนี้ไป แต่พอดีมีพี่ที่ผมสนิทด้วยแกโทรหาผมว่าทำไมไม่เห็นผมในงาน เพราะงานนี้มันดีมาก ๆ ผมเลยโทรถาม ผจก. Wisdom คนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงได้ตกหล่นไป สิ่งที่ผมเจอจาก ผจก. Wisdom คนนี้คือการที่เค้าตอบว่าเค้าส่งเรื่องให้คนอื่นไปแล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของเค้า ก่อนที่เค้าจะวางสายผมแทบจะทันที
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้สึกแย่กับการกระทำของเค้ามากครับ ก่อนกับหลังขายบัตรได้ ทำไมเค้าต่างกันขนาดนี้ ... นอกจากนี้ผมยังได้ยินคนพูดมาถึงหูผม เค้าเคยพูดว่า "ไม่อยากดูแลหรอกลูกค้าประกันชีวิตน่ะ เพราะ wealth มันน้อย" เพราะเค้าอยากได้ลูกค้ากลุ่มเงินฝากมากกว่า เพราะตัวเลขโชว์มันจะสูงกว่า ผมไม่รู้ว่าเค้าพูดอย่างนี้จริงหรือไม่ แต่เค้าเคยพูดกับผมเองจริง ๆ ว่าเค้าสนใจอยากให้ลูกค้าฝากเงินมากกว่าที่จะซื้อประกัน
นอกจากผมต้องมาเจอสภาวะที่บัตรนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อคนต่างจังหวัดแล้ว ผมยังต้องเจอการดูแลของ ผจก. Wisdom แบบนี้อีก ผมก็ยังโอเคอยู่ได้ เพราะถือว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น ในอนาคตบัตรนี้ก็ต้องมีการปรับปรุงอยู่แล้ว
แต่ว่าผมคิดผิดครับ เพราะว่าผมและพ่อต่างก็ได้รับจดหมายจากทางธนาคารกสิกรไทยว่าคุณสมบัติของเราสองคนไม่ผ่านเกณฑ์การถือบัตร Wisdom อีกต่อไป
ด้วยว่าบัตร Wisdom นี้มีอายุ 3 ปี ซึ่งของผมจะสิ้นสุดลงในปีนี้ ทางธนาคารจึงสงวนสิทธิ์ที่จะทำการต่ออายุบัตรให้ ทันทีที่ผมอ่านจดหมายฉบับนี้จบ ทำให้ผมรู้สึกหน้าชา เหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง ผมงงมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะในเมื่อผมยังส่งประกันชีวิตถึง 15 ปี แต่ทำไมบัตรถึงมีอายุแค่ 3 ปี นโยบายนี้มันมีมาแต่แรกหรือ เพราะผมไม่เคยเห็น หรือว่าเพราะผมสะเพร่าเชื่อใจ ผจก.ธนาคารมากเกินไป ? ผมเองเกิดคำถามต่าง ๆ นานา
ผมเลยโทรถามธนาคารสาขาที่รู้จักกัน จนท.สาขาบอกว่า ตัวนโยบายอายุบัตร 3 ปีนี้เพิ่งออกมาได้สักพัก เลยมีการปรับใช้ ซึ่งถ้าหากต้องการรักษาสภาพการเป็น Wisdom ผมต้องเอาเงินฝากก้อนโตไปฝากประจำหรือซื้อกองทุน ผมเลยงงว่าทำไมถึงมาปรับใช้ย้อนหลังแบบนี้ ? การกระทำแบบนี้ของธนาคารกสิกรไทยเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์กับลูกค้าหรือเปล่า ? นึกอยากจะเปลี่ยนกฎ ก็ปรับใช้ย้อนหลังกับลูกค้าแบบนี้
ถ้าหากธนาคารจะให้บัตรมีมีอายุ 3 ปีสำหรับกลุ่มลูกค้า "เงินฝากหรือกองทุน" ผมก็เข้าใจนะครับ เพราะเค้าฝาก 6 เดือนก็ได้บัตรนี้แล้ว แม้จะถอนเงินหรือขายกองทุนไป ก็ยังจะได้บัตรนี้ต่อไป ผมเข้าใจได้ถ้าหากธนาคารต้องการให้อายุบัตรลูกค้ากลุ่มนี้แค่ 3 ปี
แต่กับลูกค้ากลุ่มประกันชีวิตล่ะครับ ? เค้าส่งเบี้ยกันหลายปีเลยนะครับ และก็ส่งสะสมให้กับธนาคารคุณทุก ๆ ปีเลยนะครับ และอย่างกรณีของผม พอผมส่งเสร็จในปีที่ 15 ผมต้องรออีก 10 ปีเลยนะครับ ถึงจะได้เงินคืน ... มันแปลว่าผมเอาเงินไปฝากไว้กับคุณตั้งนานเป็นสิบ ๆ ปีเลยนะครับ ทำไมกสิกรไทยถึงทำกับผมได้ครับ
แล้วยังไงต่อไปดีล่ะครับ ... มันก็แปลว่าผมต้องส่งประกันชีวิตไปอีก 12 ปี โดยที่ไม่มี benefit อะไรเลย เพราะว่าประกันชีวิตที่ผมซื้อนั้นคือของ 'เมืองไทยประกันชีวิต' ที่การดูแลนั้นด้อยกว่าบริษัทอื่น ๆ เพราะว่าไม่มีตัวแทนดูแลอย่างแท้จริง ด้วยว่าผมซื้อประกันผ่านทางธนาคาร ทำให้ผลงานมันเข้าของส่วนกลาง ตัวแทนเองก็ไม่อยากดูแลผมเท่าไหร่ เพราะว่ามันไม่ใช่ผลงานของเค้า
สุดท้ายกลายเป็นว่า ผมต้องมานั่งส่งเบี้ยประกันภัยปีละไม่น้อยอีก 12 ปี เพื่อให้ ผจก. ได้ผลงาน (ซึ่งตอนนี้เค้าหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ -*- ) บัตร Wisdom ที่ผมหวังรอคอย benefit ในอนาคตก็โดนธนาคารกสิกรไทยยึด, ประกันภัยก็เคลมไม่ค่อยจะง่าย (ซึ่งถ้าซื้อบริษัทอื่นคงได้รับการดูแลที่แตกต่างกันแน่นอน) แล้วผมก็ไม่สามารถที่จะยกเลิกประกันชีวิตตอนนี้ได้ด้วย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะขาดทุนอย่างแน่นอน
ที่ผมมาตั้งกระทู้ในวันนี้ เพื่อ
1. เตือนเพื่อน ๆ สมาชิกที่คิดจะทำบัตรประเภทนี้ครับว่าบัตรนี้มันมีอายุแค่ 3 ปี ซึ่งข้อมูลตรงนี้ธนาคารมักจะไม่เปิดเผยกับลูกค้าครับ ถ้าเราไม่ถามเอง
2. เพื่อให้เพื่อน ๆ สมาชิกกลุ่มลูกค้าประกันชีวิตได้ทราบว่าบัตรของท่านไม่ได้มีอายุตามระยะเวลาที่ท่านส่งเบี้ยประกันแต่อย่างใด
ขอบคุณครับ
ปล. หลังจากที่ผมได้รับจดหมายยกเลิกบัตรจากกสิกรไทย ผมติดต่อผ่านทางสาขาไปยัง จนท.หน่วย Wisdom ขอนแก่นแล้ว ซึ่ง จนท.สาขาโทรคุยกับฝ่ายดูแล Wisdom ขอนแก่นต่อหน้าผมเลยครับ ซึ่งเค้ารับรู้แล้วว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นแต่จนถึงวันนี้ ผ่านมาหลายวันแล้วผมก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากเค้าเลยครับ .... อะไรจะทิ้งขว้างผมได้ขนาดนี้ :'(