ตายายขนเงินทำบุญเป็นว่าเล่น ทั้งที่ลูกหลานยังลำบาก

คือบางทีก็น้อยใจน่ะครับ บริจาคที่ดิน 10 ไร่ พร้อมสร้างวัดในที่ดินที่ว่านี้อีก ทั้งศาลา ทั้งโบส ฯลฯ.รวมแล้วเกือบ 15 ปีที่สร้างที่ทำ หมดเงินไป ร่วม 10 ล้าน.แต่ไม่ได้ลงทีเดียวนะครับ..ค่อยๆทำ เงินก็มาจากค่าเช่าอพาทเม้น ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ค่าเช่าที่นา เงินบำนาญ ฯลฯ.ใครอยากบวชไม่มีเงินบอกมาจะเป็นเจ้าภาพให้ ตายายทำบุญเฉลี่ยปีละ 3-5แสนบาท.ล่าสุด ไปหาหมอตรวจสุขภาพ เห็นโรงพยาบาล ค่อนข้างแออัด เดินไปที่ห้อง ผอ.บอกจะบริจาคเงินให้ 1 แสนบาท เพื่อช่วยพัฒนาโรงพยาบาล.เราคิดว่าอย่างน้อยเวลามาเค้าเห็นตายายเราจะได้บริการที่ดีแล้วเร็วกว่าเดิม..สรุปไม่มีไรเปลี่ยนแปลงยังคงนั่งรอนานๆ และไม่มีสิทธิพิเศษอะไร.ตอนนี้กำลังมีโครงการพาพระไปอินเดียเพื่อไปปฏิบัติธรรมที่สังเวชณียสถานทั้ง4 งานนี้น่าจหมดอีกหลายแสน และอีกหลายอย่างที่จะทำ จะบริจาค..ฯลฯ...แต่ลูกหลาน อย่างตัว จขกท.ที่เป็นคนปรนิบัติรับใช้ขับรถพาไปนู้นนี่นั่น บางครั้งต้องลางานเพื่อไปทำบุญ ตอนนี้ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หนี้สินท่วมหัว บ้านยังไม่มี รถต้องผ่อน ภาระเลี้ยงลูกอีก พูดง่ายๆคือเข้าขั้นลำบาก ยังสร้างหลักปักฐานไม่ได้เลยอายุ30แล้ว..เวลาพาไปทำบุญบอกยายขอตังเติมน้ำมันหน่อยสิ.คำตอบที่ได้คือ.ยายไม่มีเงินหนูก็้เติมไปสิคิดซะว่าทำบุญทำทานกับยายไรงี้.มีใครที่มีปู่ย่าตายายเป็นแบบนี้บ้างมั้ยครับ.ปล.ที่ไม่พูดถึงพ่อแม่เพราะพวกท่านก็หาเลี้ยงปากท้องตัวเองเหมือนกัน..ทำให้ผมที่เป็นหลานซึ่งมีเวลาว่างมากสุดคอยดูแลตากับยาย เวลาผมไปเบิกเงินมาให้ทำบุญแต่ละครั้งน้ำตาจะไหล..เมื่อคิดถึงความลำบากของเรา..ซึ่งตากับยายก็รู้ว่าเราลำบากถึงขนาดขึ้นศาลประนอมหนี้กับบัตรเครดิตแกก็รู้ หมายศาลแปะหน้าบ้านเรื่องประนอมหนี้จนนีบไม่ถ้วนแกก็อ่านหมดรู้หมด..แต่ไม่คิดจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เราเลย หรือเพราะว่าเราไม่เคยขอท่านเลยไม่ให้..บางครั้งน้อยใจจนตั้งใจพูดให้แกได้ยินว่า.."คนที่ไม่เคยขอ..ไม่ได้แปลว่าไม่อยากได้"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่