ขอเกริ่นความเดิมก่อนนะคะ
ตัวดิฉันและสามีเรียนจบ ป.โท ทำงานอยู่ต่างจังหวัดบ้านพ่อ แม่สามี ต้องกลับมาดูแลเพราะท่านแก่แล้วและมีลูกคนเดียว เริ่มแรกดิฉันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ทำงานได้หลายปี ก็ค้นพบตัวเองคืออยากสอนเด็กมัธยม และไม่พร้อมจะเรียนต่อเอก ก็ออกมาสอน ร.ร.มัธยมเอกชน (ทั้งนี้ปรึกษาทางบ้านแล้ว) ทำงานดีมีความสุข ทางบ้านเริ่มทำหอพัก อาคารให้เช่า ก่อนหน้ามีบ้านให้เช่า สามีเครียดที่ทำงานตัวเอง มาคุมงานก่อสร้างด้วย ดิฉันเองเนื่องจากทำงาน ร.ร.เอกชน ไม่สามารถรับส่งลูกได้ ก็เลยต้องยกให้สามีรับผิดชอบไป ช่วงนั้น ยอมรับว่า ดูแลสามีน้อยลง เพราะกำลังสนุกกับงานที่ ร.ร. มีสอนพิเศษเสาร์ อาทิตย์ กิจกรรมต่างๆ เกือบทุกอาทิตย์ ไปเช้า กลับ เกือบทุ่มก็มี รับผิดชอบงานที่โรงเรียนหลายตำแหน่ง เอางานกลับมาทำที่บ้าน มีช่วงนึง ต้องตื่นมาเตรียมงานตอน ตี3 ยันเช้า เกือบ 2 เดือน พอตอนเย็น 2 ทุ่มก็ไม่ไหวแล้วตาจะปิดให้ได้ ทะเลาะกันบ่อยมากๆ สามีไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอางาน ร.ร. มาทำที่บ้าน ไม่ทำให้เสร็จที่ ร.ร. ดิฉันพยายามอธิบาย ที่ ร.ร. ก็เข้าสอน วันนึงสอนประมาณ 5 ชม เหลืออยู่ 3 ชม. พยายามเคลียร์แล้ว แต่ไม่หมด งานมีเข้าเรื่อยๆ ทำแผน เตรียมการสอน อุปกรณ์ ปัญหาเด็ก งาน ร.ร.อื่นๆ อีกจิปาถะ
ผ่านมาถึงปี 55 ช่วงนั้น แม่บ้านลาออก ย่าไม่สบายหนัก ทำอะไรไม่ได้ ได้แค่กินกับนอน ต้องไปหาหมอทุก 2 เดือน พ่อกับแม่ดิฉัน เริ่มไม่แข็งแรง ยายป่วยเป็นมะเร็ง และทำอพาร์ทเมนต์อีกที่นึง ทางบ้านเลยตัดสินใจให้ออกจากงาน ตัวดิฉันเองตอนนั้น ก็เห็นดีด้วย เหนื่อยที่จะทะเลาะกัน มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูก ออกมารับผิดชอบรับส่งลูก ที่ โรงเรียน และเรียนพิเศษ ดูแลหอพักเอง ไม่ได้จ้างแม่บ้าน ดูแลบ้าน และเป็นตัวสแตนบายด์คอยดูแลเผื่อต้องมีใครป่วย เข้า ร.พ. เพราะต้องดูแลพ่อ แม่ ทั้งสองฝ่าย สามีแฮปปี้ ชอบให้คุณภรรยาอยู่ใกล้ๆ ชอบให้เอาใจ หาข้าวให้กิน ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน
แต่ตัวดิฉันเอง อยากสอนหนังสือเด็กๆ รู้สึกมีความสุข สนุกที่ได้สอนหนังสือ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น และ ร.ร.เดิมเปิดรับสมัครครู ถามคุณสามีเค้าก็บอก มีความสุขก้ไป แต่เรารู้ลึกๆ เค้าไม่อยากให้ไป ตัวดิฉันเอง กลัวว่าถ้าไปแล้ว จะไม่มีเวลาดูแลครอบครัวอีก ถึงแม้ว่าจะไม่บ้างานเหมือนเดิมก็เถอะ เพราะที่ ร.ร.เค้าควบคุมเวลาเข้าออก บางวันต้องเขาเวร เลิก 5 โมงครึ่ง แล้วปัญหาเดิมจะกลับมา
ตัดสินใจไม่ได้ค่ะ ถ้าปีนี้ไม่สอน ใบประกอบวิชาชีพก็จะหมดอายุ แล้วอายุจะเยอะเกินไป ช่วยแนะนำ หรือเตือนสติแรงๆ ด้วยค่ะ
ไปสมัครงานดีมั้ย?
ตัวดิฉันและสามีเรียนจบ ป.โท ทำงานอยู่ต่างจังหวัดบ้านพ่อ แม่สามี ต้องกลับมาดูแลเพราะท่านแก่แล้วและมีลูกคนเดียว เริ่มแรกดิฉันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ทำงานได้หลายปี ก็ค้นพบตัวเองคืออยากสอนเด็กมัธยม และไม่พร้อมจะเรียนต่อเอก ก็ออกมาสอน ร.ร.มัธยมเอกชน (ทั้งนี้ปรึกษาทางบ้านแล้ว) ทำงานดีมีความสุข ทางบ้านเริ่มทำหอพัก อาคารให้เช่า ก่อนหน้ามีบ้านให้เช่า สามีเครียดที่ทำงานตัวเอง มาคุมงานก่อสร้างด้วย ดิฉันเองเนื่องจากทำงาน ร.ร.เอกชน ไม่สามารถรับส่งลูกได้ ก็เลยต้องยกให้สามีรับผิดชอบไป ช่วงนั้น ยอมรับว่า ดูแลสามีน้อยลง เพราะกำลังสนุกกับงานที่ ร.ร. มีสอนพิเศษเสาร์ อาทิตย์ กิจกรรมต่างๆ เกือบทุกอาทิตย์ ไปเช้า กลับ เกือบทุ่มก็มี รับผิดชอบงานที่โรงเรียนหลายตำแหน่ง เอางานกลับมาทำที่บ้าน มีช่วงนึง ต้องตื่นมาเตรียมงานตอน ตี3 ยันเช้า เกือบ 2 เดือน พอตอนเย็น 2 ทุ่มก็ไม่ไหวแล้วตาจะปิดให้ได้ ทะเลาะกันบ่อยมากๆ สามีไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอางาน ร.ร. มาทำที่บ้าน ไม่ทำให้เสร็จที่ ร.ร. ดิฉันพยายามอธิบาย ที่ ร.ร. ก็เข้าสอน วันนึงสอนประมาณ 5 ชม เหลืออยู่ 3 ชม. พยายามเคลียร์แล้ว แต่ไม่หมด งานมีเข้าเรื่อยๆ ทำแผน เตรียมการสอน อุปกรณ์ ปัญหาเด็ก งาน ร.ร.อื่นๆ อีกจิปาถะ
ผ่านมาถึงปี 55 ช่วงนั้น แม่บ้านลาออก ย่าไม่สบายหนัก ทำอะไรไม่ได้ ได้แค่กินกับนอน ต้องไปหาหมอทุก 2 เดือน พ่อกับแม่ดิฉัน เริ่มไม่แข็งแรง ยายป่วยเป็นมะเร็ง และทำอพาร์ทเมนต์อีกที่นึง ทางบ้านเลยตัดสินใจให้ออกจากงาน ตัวดิฉันเองตอนนั้น ก็เห็นดีด้วย เหนื่อยที่จะทะเลาะกัน มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูก ออกมารับผิดชอบรับส่งลูก ที่ โรงเรียน และเรียนพิเศษ ดูแลหอพักเอง ไม่ได้จ้างแม่บ้าน ดูแลบ้าน และเป็นตัวสแตนบายด์คอยดูแลเผื่อต้องมีใครป่วย เข้า ร.พ. เพราะต้องดูแลพ่อ แม่ ทั้งสองฝ่าย สามีแฮปปี้ ชอบให้คุณภรรยาอยู่ใกล้ๆ ชอบให้เอาใจ หาข้าวให้กิน ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน
แต่ตัวดิฉันเอง อยากสอนหนังสือเด็กๆ รู้สึกมีความสุข สนุกที่ได้สอนหนังสือ ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้น และ ร.ร.เดิมเปิดรับสมัครครู ถามคุณสามีเค้าก็บอก มีความสุขก้ไป แต่เรารู้ลึกๆ เค้าไม่อยากให้ไป ตัวดิฉันเอง กลัวว่าถ้าไปแล้ว จะไม่มีเวลาดูแลครอบครัวอีก ถึงแม้ว่าจะไม่บ้างานเหมือนเดิมก็เถอะ เพราะที่ ร.ร.เค้าควบคุมเวลาเข้าออก บางวันต้องเขาเวร เลิก 5 โมงครึ่ง แล้วปัญหาเดิมจะกลับมา
ตัดสินใจไม่ได้ค่ะ ถ้าปีนี้ไม่สอน ใบประกอบวิชาชีพก็จะหมดอายุ แล้วอายุจะเยอะเกินไป ช่วยแนะนำ หรือเตือนสติแรงๆ ด้วยค่ะ