เกษตรแฟร์ @ ม.เกษตรฯ by laser : วันแรก 6 กิโลฯ

กระทู้สนทนา
งานหนึ่งที่ไม่ใช่งานวัดและไปแทบทุกปี คือ งานเกษตรแฟร์ @ ม.เกษตรฯ

งานนี้มักจัดใกล้ๆกับวันตรุษจีน คือประมาณปลายเดือน มค.ถึงต้นเดือน กพ.

แต่ปีนี้เจอสถานะการทางการเมือง ทำให้งานที่มีการเตรียมงานล่วงหน้ามานาน

ต้องประกาศล้มการจัดงานในวันที่ 31 มกรา - 8 กุมภา จนชมรมต่างๆในมหาวิทยาลัยเดือดร้อน

ต้องออกมาประกาศขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยซื้อของที่เตรียมไว้ หรือ สั่งไว้

จนนึกว่าปีนี้คงไม่ได้ไปงาน"กระเทียมและมะขามหวานแห่งชาติ"

สุดท้ายขาประประจำงานนี้ก็โล่งอกมีเฮ เพราะมีการจัดงานวันที่ 22-30 มีนาคม

แต่ก็ยังลุ้นกันว่า จะมีมะขามขายหรือไม่ เพราะใกล้หมดหน้ามะขามแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 23-3-14 ชวนแฟนไปเดินงานเกษตรแฟร์ เพราะวันเสาร์ฝนตกน้ำท่วมงาน

ปีนี้เข้างานทางด้านประตูถนนวิภาวดี-รังสิต เพราะกลัวว่าคนจะอั้นจากเมื่อวานที่ฝนตก

แห่กันมาวันนี้แทน จนรถติดหนักบนถนนพหลโยธิน ตั้งแต่แยกลาดพร้าวจนถึงแยกเกษตร

12.34 น.ถึง ม.เกษตร



เดิมตั้งใจว่าจะทานข้าวเที่ยงที่ร้านของคณะสัตวแพทย์

แล้วเดินไปซื้อมะขามที่อยู่ใกล้กัน แต่ขึ้นรถที่ให้บริการในงานผิดคัน

มาลงที่ข้างสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดกรุงเทพมหานคร กรมประมง

กลายเป็นว่าผิดกลายเป็นดี เพราะปีนี้ โซนมะขามและกระเทียม

ย้ายมาอยู่ริมสระน้ำฝั่งถนนพหลโยธิน ใกล้กับโซนตลาดน้ำและหอประชุมใหญ่ของ ม.เกษตร



แวะซื้อกระเทียมก่อน



เนื่องจากเลื่อนงานมาปลายเดือนมีนาคม จึงมีพันธุ์มะขามให้เลือกน้อย

ที่ไม่มีเลยคือมะขามหมู ที่มีร้านเดียวและไม่สวย คือ พันธุ์สีชมพู หรือ ศรีชมภู

เนื่องจากเป็นพันธุ์เบา ซึ่งจะหมดผลก่อนพันธุ์อื่นๆ แม้แต่พันธุ์อื่นๆที่ขายในงาน

หลายสวนหลายบ้าน ไม่มีมะขามขายแล้ว งานมะขามแห่งชาติปีนี้

จึงมีร้านมาออกงานไม่ถึง 20 ร้าน ชิมกันแป๊บเดียวครบทุกร้านแล้ว

ปกติซื้อแต่พันธุ์สีชมพูเพราะไม่มีกาก ปีนี้จำใจต้องซื้อพันธุ์สีทอง และพันธุ์ประกายทอง

ราคากิโลกรัมละ 120 บาททุกร้าน เพราะผลผลิตเหลือน้อยใกล้หมดเต็มที

ซื้อล็อตแรก 4 กก.ใส่ในกระเป๋าล้อลากที่เตรียมมาด้วย



จากนั้นเดินดูร้านค้าข้างสระน้ำฝั่งหอประชุม

แฟนแวะซื้อคอลลาเจ้าผสมทอง



เสร็จแล้วเดินเข้าโซนตลาดน้ำ

ร้านขายโมเดลอาหาร ร้านอาหารหลายแห่งนิยมใช้

เพราะไม่เน่าไม่เสีย ไม่ต้องเสียเวลาจัดตู้ทุกวัน



ปลานิลแดดเดียวไร้ก้างทอด ชิมแล้วอร่อยดี ซื้อไปสองชุดกลาง 140 บาท



ติดกันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ยังไม่เคยลองแวะสักหน่อย



มีไส้ให้เลือกหกไส้



นั่งทำกันตรงหน้า ตามแบบอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา



มีน้ำแกงให้เลือกสามอย่าง

คือ กระดูกหมู ตีนไก่และลูกชิ้นปลา ค่าน้ำแกง 10 บาท

ของแฟนเลือกน้ำแกงกระดูกหมู



ของตัวเองเลือกน้ำแกงตีนไก่



แต่แฟนยกกระดูกหมูให้



หนึ่งชามมีปากหม้อ 8 ตัว 40 บาท ปาดมาใส่ในชามทีละตัว



แฟนชอบปรุงแต่ตัวเองชอบรสเดิมๆ ไม่ใช่อร่อยเพราะปรุง

น้ำแกงออกหวาน จัดเป็นอาหารที่ไม่เหมะกับการถ่ายรูป

เพราะถ้าไม่รีบทานแป้งจะอืด ทำให้ไส้แตกกระจาย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่