วันพุธที่ 8-2-23 ชวนผู้จัดการสาวสิงค์โปร์ไปเดินงานเกษตรแฟร์
งานแฟร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และน่าจะในประเทศไทย
ไม่ได้ไปเพื่อจะไปซื้อมะขาม
"งานมะขามแห่งชาติ @ เกษตรแฟร์ 2013"
https://ppantip.com/topic/30114670
เพราะช่วงหลังซื้อจากตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งมีขายเกือบทั้งปี
"ทำกินกันเอง by laser : ชามะระขี้นก"
https://ppantip.com/topic/41787437
เลิกงานจากที่ทำงานย่านรังสิตขับรถไปจอดที่อาคารจอดแล้วจรสถานีแยก คปอ.
จากนั้นต่อรถไฟฟ้าฟรีไปสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์
แว้นไปโซน K ฟู้ดทรัค แล้วเดินไปร้านอาหารของคณะสัตวแพทยศาสตร์
18.35 น.แจ้งน้อง ๆ หน้าร้านว่ามาสองคนน้อง ๆ พาไปนั่งโต๊ะ A47 ติดลำโพง
ลืมถ่ายรูปผู้จัดการกับวัวหัน
รายการอาหาร
น้องนิสิตแจ้งว่าโรบินฮู้ดวัวหันต้องรอรอบใหม่สองทุ่มรอไหมคะ
บอกน้องว่าสูงวัยมาไกลพาแขกต่างประเทศมายังไงก็จะรอนะจ๊ะ
แต่ยังเสียดายที่เนื้อจระเข้หมด ระหว่างรอกินไป 5 อย่างก่อน
ตำไทย 50 บาท รสเผ็ดน้อยปรุงรสได้ลงตัว
ไข่ยัดไส้ 59 บาท เจอที่ไหนต้องสั่งมาลอง
ใส่หมูสับ หอมใหญ่ มะเขือเทศและแครอทสับ ใส่ถั่วฝักยาวแทนถั่วลันเตา
ไข่ห่อนุ่มสุกกำลังดี ถูกใจไส้ที่ไม่ผัดกับซอสมะเขือเทศ
อาศัยความเปรี้ยวจากมะเขือเทศเพียงอย่างเดียว
ต้มยำกุ้งน้ำใส 89 บาท อ่อนเปรี้ยวไปนิด
ได้กุ้งก้ามกรามขนาดเล็ก 5 ตัว
กระต่ายทอดกระเทียมซอสกระเทียม 149 บาท
ที่เคยกินทุกครั้งไม่ชุปแป้งทอด เนื้อหมักนุ่มพอเหมาะ
นิสิตที่รับผิดชอบเรื่องกระต่ายเดินมาสอบถามความพึงพอใจ
เพราะมีลูกค้าบ่นว่ากระดูกเยอะ แต่จานที่กินแทบไม่เจอกระดูกเลย
ยกเว้นกระดูกเนื้อติดหน้าแข้ง ซอสน้ำจิ้มมีกลิ่นน้ำส้มสายชูอ่อน ๆ
ทิ้งช่วงไปนานพอสมควร สำหรับไก่หมักไวน์ย่างครึ่งตัว 139 บาท
ไก่หมักหอมกลิ่นไวน์ เนื้อนุมอร่อยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มแจ่วตัดรสไวน์
19.35 น้องนิสิตเดินมาแจ้งว่าวัวหันโรบินฮู้ดเปิดรอบใหม่แล้ว
รออยูสิบนาทีตกออเดอร์สะกิดให้ไปตาม น้องรีบขออภัยไปตามมาให้ทันที
วัวย่างโรบินฮู้ด 159 บาท
เนื้อเคี้ยวสนุกสุกทั่วถึง ผิวกรอบบางชิ้น หมักและฉีดซอสระหว่างย่างจนจนหอมเข้าเนื้อ
อิ่มแล้วเดินไปแจ้งเบอร์โต๊ะที่แคชเชียร์เพื่อจ่ายเงิน
สแกนจ่ายรวมน้ำหนึ่งชวดน้ำแข็งสองแก้ว 659 บาท
จ่ายเงินแล้วแล้วรับป้ายเพื่อยืนยันการจ่ายเงินมอบให้กับนิสิตที่ทางออก
การบริการดี ขยันถามไถ่ด้วยความสุภาพ มีความเป็นมืออาชีพไม่แพ้ร้านอาหารดัง ๆ
"เจอกันใหม่ปีหน้านะน้อง ๆ แต่ใครใกล้จะจบก็รีบจบนะ"
พาผู้จัดการเดินชมงานตั้งแต่โซนร้านค้า โซนต้นไม้ โซนร้านนิสิต โซนสัตว์เลี้ยง
แวะร้านขนมครกเศรษฐี ๙ หน้า ขนมครกสิงคโปร์กล่องละ 60 บาท
ขนมครก 9 หน้ากล่องละ 80 บาท ราคาของกินจากภายนอกตามค่าเช่าที่ที่แพง
เดินไปจนถึงโซน G ฝั่งประตูถนนวิภาวดีฯ หรือโซนมะขามและกระเทียมแห่งชาติ
ร้านน้อย มะขามศรีชมพูมีร้านเดียว มะขามหมูมีร้านเดียวกิโลฯ ละ 150 บาท คนเริ่มนิยมทำให้แพง
เดิมตั้งใจจะไม่ซื้อ แต่เดินชิมกันทุกร้านแล้วเปลี่ยนใจกลับมาซื้อร้านแรก
ซื้อพันธุ์สีทองและประกายทองอย่างละกิโลฯ ๆ ละ 140 บาท ไม่ได้ซื้อกรเทียมศรีสะเกษ
ได้ความรู้จากคนขายถึงการแยกมะขามพันธุ์สีทองกับพันธุ์ประกายทอง
พันธุ์สีทองฝักงอเป็นรูปตัว U ส่วนพันธุ์ประกายทองฝักตรงแบนแบบท้องปลิง
แว้นมอเตอร์ไซค์คนละคันไปสถานีรถไฟฟ้ามหหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนละ 20 บาท
สี่ทุ่มกลับไปอาคารจอดแล้วจร เสียบบัตรจอดรถใส่เครื่องคิดเงินค่าจอด ค่าจอดออกมาที่ 100 บาท
ทำตามขั้นตอนกดไปเรื่อย ๆ ยังไม่คิดเงินแฮ้ปปี้
งานเกษตรแฟร์ปีนี้มีถึงวันเสาร์ที่ 11 ตั้ง 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม
สีทองหวานมากแต่แฉะ
ต้องเอากลับมาอบที่บริษัทอีก 2 ชั่วโมงแห้งอร่อยยิ่งขึ้น
การอบนอกจากทำให้เนื้อมะขามแห้งขึ้น ยังช่วยให้เก็บได้นานไม่ขึ้นรา
พันธุ์ประกายทองเนื้อเยอะแต่มีข้อเสียที่มักมีราขาวขึ้น
แม้จะมีการออกข่าวว่าเป็นราขาวที่กินได้ถึงขนาดกินโชว์
แต่อาสามอยากอยู่ดูโลกเขียนบทความนาน ๆ ทำใจไม่ได้ไม่ขอเสี่ยงนะจ๊ะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ "เที่ยวไปกินไป by laser"
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์ ที่อาจใช้เวลาหลายปี
#กินตามอาสาม #อร่อยตามอาสาม #ตามรอยอาสาม #เที่ยวกับอาสาม
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ โรบินฮู้ด เกษตรแฟร์ 66
งานแฟร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และน่าจะในประเทศไทย
ไม่ได้ไปเพื่อจะไปซื้อมะขาม
"งานมะขามแห่งชาติ @ เกษตรแฟร์ 2013" https://ppantip.com/topic/30114670
เพราะช่วงหลังซื้อจากตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งมีขายเกือบทั้งปี
"ทำกินกันเอง by laser : ชามะระขี้นก" https://ppantip.com/topic/41787437
เลิกงานจากที่ทำงานย่านรังสิตขับรถไปจอดที่อาคารจอดแล้วจรสถานีแยก คปอ.
จากนั้นต่อรถไฟฟ้าฟรีไปสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วต่อวินมอเตอร์ไซค์
แว้นไปโซน K ฟู้ดทรัค แล้วเดินไปร้านอาหารของคณะสัตวแพทยศาสตร์
18.35 น.แจ้งน้อง ๆ หน้าร้านว่ามาสองคนน้อง ๆ พาไปนั่งโต๊ะ A47 ติดลำโพง
ลืมถ่ายรูปผู้จัดการกับวัวหัน
รายการอาหาร
น้องนิสิตแจ้งว่าโรบินฮู้ดวัวหันต้องรอรอบใหม่สองทุ่มรอไหมคะ
บอกน้องว่าสูงวัยมาไกลพาแขกต่างประเทศมายังไงก็จะรอนะจ๊ะ
แต่ยังเสียดายที่เนื้อจระเข้หมด ระหว่างรอกินไป 5 อย่างก่อน
ตำไทย 50 บาท รสเผ็ดน้อยปรุงรสได้ลงตัว
ไข่ยัดไส้ 59 บาท เจอที่ไหนต้องสั่งมาลอง
ใส่หมูสับ หอมใหญ่ มะเขือเทศและแครอทสับ ใส่ถั่วฝักยาวแทนถั่วลันเตา
ไข่ห่อนุ่มสุกกำลังดี ถูกใจไส้ที่ไม่ผัดกับซอสมะเขือเทศ
อาศัยความเปรี้ยวจากมะเขือเทศเพียงอย่างเดียว
ต้มยำกุ้งน้ำใส 89 บาท อ่อนเปรี้ยวไปนิด
ได้กุ้งก้ามกรามขนาดเล็ก 5 ตัว
กระต่ายทอดกระเทียมซอสกระเทียม 149 บาท
ที่เคยกินทุกครั้งไม่ชุปแป้งทอด เนื้อหมักนุ่มพอเหมาะ
นิสิตที่รับผิดชอบเรื่องกระต่ายเดินมาสอบถามความพึงพอใจ
เพราะมีลูกค้าบ่นว่ากระดูกเยอะ แต่จานที่กินแทบไม่เจอกระดูกเลย
ยกเว้นกระดูกเนื้อติดหน้าแข้ง ซอสน้ำจิ้มมีกลิ่นน้ำส้มสายชูอ่อน ๆ
ทิ้งช่วงไปนานพอสมควร สำหรับไก่หมักไวน์ย่างครึ่งตัว 139 บาท
ไก่หมักหอมกลิ่นไวน์ เนื้อนุมอร่อยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มแจ่วตัดรสไวน์
19.35 น้องนิสิตเดินมาแจ้งว่าวัวหันโรบินฮู้ดเปิดรอบใหม่แล้ว
รออยูสิบนาทีตกออเดอร์สะกิดให้ไปตาม น้องรีบขออภัยไปตามมาให้ทันที
วัวย่างโรบินฮู้ด 159 บาท
เนื้อเคี้ยวสนุกสุกทั่วถึง ผิวกรอบบางชิ้น หมักและฉีดซอสระหว่างย่างจนจนหอมเข้าเนื้อ
อิ่มแล้วเดินไปแจ้งเบอร์โต๊ะที่แคชเชียร์เพื่อจ่ายเงิน
สแกนจ่ายรวมน้ำหนึ่งชวดน้ำแข็งสองแก้ว 659 บาท
จ่ายเงินแล้วแล้วรับป้ายเพื่อยืนยันการจ่ายเงินมอบให้กับนิสิตที่ทางออก
การบริการดี ขยันถามไถ่ด้วยความสุภาพ มีความเป็นมืออาชีพไม่แพ้ร้านอาหารดัง ๆ
"เจอกันใหม่ปีหน้านะน้อง ๆ แต่ใครใกล้จะจบก็รีบจบนะ"
พาผู้จัดการเดินชมงานตั้งแต่โซนร้านค้า โซนต้นไม้ โซนร้านนิสิต โซนสัตว์เลี้ยง
แวะร้านขนมครกเศรษฐี ๙ หน้า ขนมครกสิงคโปร์กล่องละ 60 บาท
ขนมครก 9 หน้ากล่องละ 80 บาท ราคาของกินจากภายนอกตามค่าเช่าที่ที่แพง
เดินไปจนถึงโซน G ฝั่งประตูถนนวิภาวดีฯ หรือโซนมะขามและกระเทียมแห่งชาติ
ร้านน้อย มะขามศรีชมพูมีร้านเดียว มะขามหมูมีร้านเดียวกิโลฯ ละ 150 บาท คนเริ่มนิยมทำให้แพง
เดิมตั้งใจจะไม่ซื้อ แต่เดินชิมกันทุกร้านแล้วเปลี่ยนใจกลับมาซื้อร้านแรก
ซื้อพันธุ์สีทองและประกายทองอย่างละกิโลฯ ๆ ละ 140 บาท ไม่ได้ซื้อกรเทียมศรีสะเกษ
ได้ความรู้จากคนขายถึงการแยกมะขามพันธุ์สีทองกับพันธุ์ประกายทอง
พันธุ์สีทองฝักงอเป็นรูปตัว U ส่วนพันธุ์ประกายทองฝักตรงแบนแบบท้องปลิง
แว้นมอเตอร์ไซค์คนละคันไปสถานีรถไฟฟ้ามหหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนละ 20 บาท
สี่ทุ่มกลับไปอาคารจอดแล้วจร เสียบบัตรจอดรถใส่เครื่องคิดเงินค่าจอด ค่าจอดออกมาที่ 100 บาท
ทำตามขั้นตอนกดไปเรื่อย ๆ ยังไม่คิดเงินแฮ้ปปี้
งานเกษตรแฟร์ปีนี้มีถึงวันเสาร์ที่ 11 ตั้ง 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม
สีทองหวานมากแต่แฉะ
ต้องเอากลับมาอบที่บริษัทอีก 2 ชั่วโมงแห้งอร่อยยิ่งขึ้น
การอบนอกจากทำให้เนื้อมะขามแห้งขึ้น ยังช่วยให้เก็บได้นานไม่ขึ้นรา
พันธุ์ประกายทองเนื้อเยอะแต่มีข้อเสียที่มักมีราขาวขึ้น
แม้จะมีการออกข่าวว่าเป็นราขาวที่กินได้ถึงขนาดกินโชว์
แต่อาสามอยากอยู่ดูโลกเขียนบทความนาน ๆ ทำใจไม่ได้ไม่ขอเสี่ยงนะจ๊ะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่เพจ "เที่ยวไปกินไป by laser"
https://th-th.facebook.com/เที่ยวไปกินไป-by-laser-458383970993701
ที่เอาไว้รวบรวมเรื่องเที่ยวเรื่องกิน ที่สั้นเกินกว่าจะนำมาลงเป็นบทความ
หรือ อยู่ระหว่างรวบรวมเป็นบทความที่สมบูรณ์ ที่อาจใช้เวลาหลายปี
#กินตามอาสาม #อร่อยตามอาสาม #ตามรอยอาสาม #เที่ยวกับอาสาม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้