สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องลึกลับของร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่เรื่องที่ขัดกับหลักวิทยาศาสตร์แต่อย่างใดครับ
เพียงแต่ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถชี้ให้ "คนทั่วไป" มองเห็นและเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ
ผมเชื่อว่ามีนักวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงอีกหลาย ๆ ท่าน ที่เข้าใจเพียงแต่ยังหาหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้
ก็อย่างเช่น การมีอยู่ของหลุมดำ หลักฐานในระดับนี้ คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจเลยครับ แต่เพราะปัญญา เขาจึงคาดว่าน่าจะมี
แต่เขาก็ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างอื่นไป ยังศึกษาเพิ่มเติมกันอยู่เรื่อย ๆ
ตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ (และผมเองก็เห็นมากับตา) ตอนไฟไหม้ คนที่ผอมแห้งแรงน้อย กลับไม่คิดหน้าคิดหลัง
แบกตุ่มบ้าง แบกตู้เย็นบ้าง แบกลอยตัวปลิวมาเลยคนเดียวเป็นระยะทางไกล ๆ ก็ขนาดที่พอเหตุการณ์สงบลง
คนที่แบกมายังงงตัวเอง และไม่สามารถแบกกลับไปได้เลย ต้องให้คน 3-4 คนมาช่วยกันแบกกลับอย่างทุลักทุเล
ตัวผมเองที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกว่าวิ่งตัวปลิวเช่นกัน เหมือนจะเหาะได้เลย แรงมาจากไหนไม่รู้
ในทางวิทยาศาสตร์เขาก็อธิบายกันไป เคยได้ยินเรื่องพลังงานแฝง ที่ว่ามนุษย์นำมาใช้ได้ 30% แฝงอยู่ 70% อะไรนี่แหละ
เพียงแต่แม้เขาจะตั้งทฤษฎีขึ้นมา แต่มันแฝงมาจากไหน เอามาใช้อย่างไร ก็ยังไม่สามารถนำมาอธิบายให้เป็นข้อเท็จจริงได้ 100%
แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นจริง แม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ง่าย ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้ยินเรื่องนี้ก็อาจจะไม่เชื่อด้วยซ้ำ
คนเราทุกคนมีความสามารถที่หลับอยู่ครับ มีมากอย่างคิดไม่ถึง ที่เราเป็น ที่เราทำกันอยู่นี่ดูถูกตัวเองทั้งนั้น
เพราะไม่ได้รับการฝึกจิตใจอย่างถูกต้องถูกวิธี เราจึงไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่คือร่างกายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะจิตใจนั้นเป็นตัวควบคุมร่างกาย เปรียบเหมือนคนใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์หรือด้านอื่น
วัน ๆ คอมพิวเตอร์ก็เลยเป็นได้แค่เครื่องเล่นเกมส์เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่คอมพิวเตอร์มีประโยชน์มากกว่านั้นมากนัก
เรื่องร่างกายไม่เน่า ไม่ถูกเผา สามารถกระทำได้สำหรับผู้ฝึกจิตดีแล้ว โดยที่เจ้าตัวอธิษฐานกำกับไว้ ซึ่งถ้าไม่ได้อธิษฐานไว้ก็จะไหม้ตามปกติ
ไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นจะไม่มีคุณวิเศษแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วเราก็ควรสนใจในธรรมของคนผู้นั้นมากกว่าความศักดิ์สิทธิ์
เพราะบุคคลเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ด้วยธรรมที่ปฏิบัติ ไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์มาแต่เกิด ไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นผู้วิเศษมาจากไหน เพราะธรรมเท่านั้น
หากเรามีเครื่องมือที่ดีพอที่จะเห็นกระบวนการเหล่านั้น เราก็จะเห็นชัดเจนเลยว่ามันไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน
แต่ที่ยังลึกลับซับซ้อนเพราะว่า "คนทั่วไป" ยังมองไม่เห็นเท่านั้นครับ เพราะกระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว
นักวิทยาศาสตร์จะไม่สามารถสร้างเครื่องบินได้ หากว่าในธรรมชาติไม่มีแรงกระทำเพื่อสนับสนุนการบิน เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบและนำมาใช้
มันจึงไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ ก็แค่ค้นพบสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติเท่านั้น
เพียงแต่ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถชี้ให้ "คนทั่วไป" มองเห็นและเข้าใจได้อย่างง่าย ๆ
ผมเชื่อว่ามีนักวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงอีกหลาย ๆ ท่าน ที่เข้าใจเพียงแต่ยังหาหลักฐานที่ชัดเจนไม่ได้
ก็อย่างเช่น การมีอยู่ของหลุมดำ หลักฐานในระดับนี้ คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจเลยครับ แต่เพราะปัญญา เขาจึงคาดว่าน่าจะมี
แต่เขาก็ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นอย่างอื่นไป ยังศึกษาเพิ่มเติมกันอยู่เรื่อย ๆ
ตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ (และผมเองก็เห็นมากับตา) ตอนไฟไหม้ คนที่ผอมแห้งแรงน้อย กลับไม่คิดหน้าคิดหลัง
แบกตุ่มบ้าง แบกตู้เย็นบ้าง แบกลอยตัวปลิวมาเลยคนเดียวเป็นระยะทางไกล ๆ ก็ขนาดที่พอเหตุการณ์สงบลง
คนที่แบกมายังงงตัวเอง และไม่สามารถแบกกลับไปได้เลย ต้องให้คน 3-4 คนมาช่วยกันแบกกลับอย่างทุลักทุเล
ตัวผมเองที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกว่าวิ่งตัวปลิวเช่นกัน เหมือนจะเหาะได้เลย แรงมาจากไหนไม่รู้
ในทางวิทยาศาสตร์เขาก็อธิบายกันไป เคยได้ยินเรื่องพลังงานแฝง ที่ว่ามนุษย์นำมาใช้ได้ 30% แฝงอยู่ 70% อะไรนี่แหละ
เพียงแต่แม้เขาจะตั้งทฤษฎีขึ้นมา แต่มันแฝงมาจากไหน เอามาใช้อย่างไร ก็ยังไม่สามารถนำมาอธิบายให้เป็นข้อเท็จจริงได้ 100%
แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีจริง เกิดขึ้นจริง แม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ง่าย ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนที่ได้ยินเรื่องนี้ก็อาจจะไม่เชื่อด้วยซ้ำ
คนเราทุกคนมีความสามารถที่หลับอยู่ครับ มีมากอย่างคิดไม่ถึง ที่เราเป็น ที่เราทำกันอยู่นี่ดูถูกตัวเองทั้งนั้น
เพราะไม่ได้รับการฝึกจิตใจอย่างถูกต้องถูกวิธี เราจึงไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่คือร่างกายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะจิตใจนั้นเป็นตัวควบคุมร่างกาย เปรียบเหมือนคนใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีทักษะด้านคอมพิวเตอร์หรือด้านอื่น
วัน ๆ คอมพิวเตอร์ก็เลยเป็นได้แค่เครื่องเล่นเกมส์เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่คอมพิวเตอร์มีประโยชน์มากกว่านั้นมากนัก
เรื่องร่างกายไม่เน่า ไม่ถูกเผา สามารถกระทำได้สำหรับผู้ฝึกจิตดีแล้ว โดยที่เจ้าตัวอธิษฐานกำกับไว้ ซึ่งถ้าไม่ได้อธิษฐานไว้ก็จะไหม้ตามปกติ
ไม่ได้หมายความว่าผู้นั้นจะไม่มีคุณวิเศษแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วเราก็ควรสนใจในธรรมของคนผู้นั้นมากกว่าความศักดิ์สิทธิ์
เพราะบุคคลเหล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ด้วยธรรมที่ปฏิบัติ ไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์มาแต่เกิด ไม่ใช่ศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นผู้วิเศษมาจากไหน เพราะธรรมเท่านั้น
หากเรามีเครื่องมือที่ดีพอที่จะเห็นกระบวนการเหล่านั้น เราก็จะเห็นชัดเจนเลยว่ามันไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน
แต่ที่ยังลึกลับซับซ้อนเพราะว่า "คนทั่วไป" ยังมองไม่เห็นเท่านั้นครับ เพราะกระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว
นักวิทยาศาสตร์จะไม่สามารถสร้างเครื่องบินได้ หากว่าในธรรมชาติไม่มีแรงกระทำเพื่อสนับสนุนการบิน เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบและนำมาใช้
มันจึงไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ ก็แค่ค้นพบสิ่งที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 8
แม้แต่ร่างพระพุทธเจ้ายังไหม้ไฟ ถ้าจะมาบอกว่าศักดิ์สิทธิ์จริงขลังจริง ร่างพระพุทธเจ้าก็น่าจะไม่ไหม้ไฟนะครับ
ประเด็นมันน่าจะอยู่ที่ความแรงของไฟ กับชั้นไขมันมากกว่าครับ ไม่เชื่อเชิญทดลองได้ด้วยตัวท่านเองที่ร้านหมูกระทะเลยครับ ถ้าเนื้อล้วนๆ ปิ้งไปเหอะครับ ยิ่งปิ้งยิ่งแห้ง ปิ้งนานกว่าจะดำกว่าจะเกรียม แต่ถ้าเนื้อติดมันนี่เจอไฟแรงๆแป๊ปเดียวไหม้เกรียม เผลอๆไฟลุกด้วยซ้ำ
ประเด็นมันน่าจะอยู่ที่ความแรงของไฟ กับชั้นไขมันมากกว่าครับ ไม่เชื่อเชิญทดลองได้ด้วยตัวท่านเองที่ร้านหมูกระทะเลยครับ ถ้าเนื้อล้วนๆ ปิ้งไปเหอะครับ ยิ่งปิ้งยิ่งแห้ง ปิ้งนานกว่าจะดำกว่าจะเกรียม แต่ถ้าเนื้อติดมันนี่เจอไฟแรงๆแป๊ปเดียวไหม้เกรียม เผลอๆไฟลุกด้วยซ้ำ
ความคิดเห็นที่ 31
ไม่ได้อยากจะขัดอะไร แต่ถ้าเป็นความเชื่อผมก็ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง
แต่จะลองให้ผมเผาดูไหม ผมทำให้ได้
ใครหนังเหนียวฟันแทงยิงไม่เข้าผมก็ลองให้ได้
ทุกสิ่งพิสูจน์ได้ครับ ไม่มีสิ่งใดเกินจริงไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือธรรมชาติ
บอกหลุมดำพิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีใครจบจากฮอร์ควาด เสกมันขึ้นมาสักหน่อยจริงไหม
แก่นของศาสนาไม่ใช่เรื่องบ้าบออะไรแบบนี้เลย
พระพุทธเจ้าอาจจะไม่ได้เป็นคนวิเศษ เดินบนน้ำ เหินบนอากาศได้
แต่ท่านก็มีทุกข์เหมือนคนปรกติ หาทางดับทุกข์ และพบความสุขได้
แถมยังสอนให้คนอื่นมีความสุข และพ้นทุกข์ได้อีก
นี่สิความวิเศษที่แท้จริง นี่แหละศาสนาที่ผมเชื่อ
แต่จะลองให้ผมเผาดูไหม ผมทำให้ได้
ใครหนังเหนียวฟันแทงยิงไม่เข้าผมก็ลองให้ได้
ทุกสิ่งพิสูจน์ได้ครับ ไม่มีสิ่งใดเกินจริงไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือธรรมชาติ
บอกหลุมดำพิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีใครจบจากฮอร์ควาด เสกมันขึ้นมาสักหน่อยจริงไหม
แก่นของศาสนาไม่ใช่เรื่องบ้าบออะไรแบบนี้เลย
พระพุทธเจ้าอาจจะไม่ได้เป็นคนวิเศษ เดินบนน้ำ เหินบนอากาศได้
แต่ท่านก็มีทุกข์เหมือนคนปรกติ หาทางดับทุกข์ และพบความสุขได้
แถมยังสอนให้คนอื่นมีความสุข และพ้นทุกข์ได้อีก
นี่สิความวิเศษที่แท้จริง นี่แหละศาสนาที่ผมเชื่อ
แสดงความคิดเห็น
ร่างไม่ไหม้
ปล. ผมไม่ได้ลบหลู่นะครับ แต่ต้องการรู้หลักทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น