เครียดค่ะ เดินหน้าก็มองไม่เห็นทาง แต่จะยอมแพ้ก็ไม่ได้

จากกระทู้ก่อนที่มีปัญหาเรื่องพ่อแม่อยากให้เราลองมองคนอื่นดูบ้าง
สุดท้ายได้ข้อตกลงว่า ถ้าแฟนมีการงานมั่นคงท่านก็จะไม่ขัดข้อง
แต่ปัญหามันเริ่มจากนี้ค่ะ...

แฟนเป็นลูกกำพร้าพ่อส่วนแม่แต่งงานใหม่ ทำให้เลี้ยงดูมาโดยปู่ย่าและมีอาเป็นที่พึ่งสุดท้าย
ซึ่งปู่ย่าได้คาดหวังไว้ตลอดว่าอยากให้แฟนได้เป็นทหารหรืออย่างน้อยก็บรรจุเป็นลูกจ้างในกรมฯ
ซึ่งอาทำงานในกรมและมีสามีที่สามารถฝากเข้าให้ได้ เพราะอาเขยเป็นทหารมียศสูงและดึงญาติพี่น้องเข้ามาทำงานในกรมหลายคนแล้ว
(ในประเด็นเรื่องเด็กเส้นเราขอข้ามไปนะคะ ยอมรับว่าเป็นเรื่องไม่ดีแต่ไม่มีทางเลือกค่ะ
เพราะหลายๆกรมถ้าไม่มีเส้นเข้าไม่ได้จริงๆค่ะและแฟนก็ไม่ใช่คนเรียนเก่งถึงขั้นที่จะสอบแข่งขันอะไรกับใครเค้าได้)
ซึ่งอานั้นเปิดบริษัทอยู่โดยที่ให้ลูกชายเป็นผู้บริหารและได้ดึงตัวแฟนเราให้มาช่วยงาน
ทำทุกอย่างค่ะตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่เรียกง่ายๆว่า GB  ตื่นตี5นอนเที่ยงคืน แต่เงินเดือนก็ยังอยู่ที่ 9,000 โบนัสไม่มีเหมือนเดิมค่ะ
หลายครั้งอยากลาออกค่ะแต่ออกไม่ได้ด้วยหวังเรื่องอนาคต  โดยที่อาก็บอกตลอดว่าถ้าเกณฑ์ทหารเสร็จเมื่อไหร่ จะให้แฟนเราเข้ากรมทันที
แฟนเราก็ยอมอดทนค่ะ ยอมให้ดุให้ด่า ทำดีไม่เคยได้ตอบแทน แต่ถ้าพลาดนิดเดียวก็โดนด่ายับ
ผิดกับเด็กเส้นอีกคนของบริษัทที่พี่ชายเป็นคนถือหาง งานแทบไม่เคยทำ อู้ตลอด ทิ้งลูกน้อง ลำเอียง  แต่เงินเดือนถึง25,000
แต่ถ้าทำผิดเรื่องใหญ่ พี่ชายก็จะบอกว่า "ช่างมันเถอะ" แล้วก็จบไป ไม่มีการตักเตือนใดๆ แต่แฟนเราก็ยังอดทน เพื่อคำว่า อนาคต
พอขอขึ้นเงินเดือนก็บอกบริษัทหนี้เยอะ ต้องช่วยกันประหยัด  แต่เจ้าของบริษัทกลับทำตรงกันข้ามทุกอย่าง
แค่อาคนเดียวใช้เงินเดือนละแสน ในบ้านมีกัน4คน แต่ซื้อรถมา5คัน แต่ละคันป้ายแดงราคาล้าน+
ส่วนพี่ชายและแฟนสาว ก็ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเดือนละใบ ทำสีผมทีเป็นหมื่นๆ มือถือเปลี่ยนตลอด ช้อปปิ้งกินเที่ยวทุกวัน
จ้างเพื่อนมาทำงานเงินเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นปลายซักคนทั้งๆที่หน้าที่ก็แทบไม่มีอะไรให้ทำ  แต่เราก็ว่าเค้าไม่ได้เพราะเงินเค้า บริษัทเค้า

จนมาปีนี้แฟนเราได้เกณฑ์ทหารซะที  จึงได้มีโอกาสคุยเรื่องฝากเข้ากรมกับอา (เพื่อที่จะได้ไปพ้นๆจากบริษัทนี้ซะที)
อากลับบอกว่า "ไม่ต้องรีบหรอก มีเวลาจนอายุ35" แฟนเราพยายามอธิบายให้เข้าใจว่าอายุ24แล้ว อยากมีความมั่นคงแต่อาก็ไม่ยอมฟัง
จนแฟนเราถอดใจไม่อยากอยู่ อยากจะหนีไปไกลๆ ปรึกษาปู่ย่า กลับได้คำตอบว่า ไม่ยอมให้ไปอยู่ที่อื่น ยังไงก็ต้องทน ถึงจะหลายปีก็ต้องทน
ขออย่าตำหนิในเรื่องการใช้เส้นสายของแฟนเราเลยค่ะ  เรารู้ว่าไม่ดี  แต่มันคือความหวังเดียวที่ชีวิตของเค้าจะมีความมั่นคง
แฟนเรามีความรู้แค่ ม.6 และเรื่องประตูออโต้ กล้องCCTV (เคยทำงานในบริษัทกล้องแต่สุดท้ายที่บ้านบังคับให้ลาออกมาช่วยงานที่บ้าน)
จะเรียนเพิ่มก็ไม่ได้เพราะงานหนักมาก   มากจนแทบไม่มีแม้กระทั่งเวลานอน  ไม่มีเวลาเจอเรา ได้แต่คุยโทรศัพย์กันเท่านั้น
แต่เค้าก็ตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าได้เข้ากรมก็จะเรียนต่อ ป.ตรี เพราะทำงานในกรมมันมีเวลาทำงานตายตัว ไม่เหมือนที่บ้านที่ทำงานหนัก+ไม่เป็นเวลา
แต่ถึงเค้าจะไม่โง่แต่ก็ไม่ได้เรียนเก่งพอที่จะสอบเข้ากรมได้  สิ่งเดียวที่เค้าหวังมาตลอดชีวิตคือการที่อาช่วยให้เข้าทำงานในกรม
ตอนนี้เหมือนทุกอย่างพังทลาย จะหนีไปก็ไม่ได้ด้วยปู่ย่าคาดหวังและเค้าก็อยากได้การยอมรับจากพ่อแม่ของเรา (ส่วนตัวเรายังไงก็ได้)
แต่จะให้ทนทำงานในบริษัทเค้าก็ไม่รู้จะต้องทนอยู่อย่างนี้ไปอีกกี่ปี  ต้องรอจน35จริงๆหรอ?
แต่อีกใจนึงเค้าก็ยังอยากจะเชื่อใจอาและมีความหวังเล็กๆว่าถ้ายอมอดทนอยู่ช่วยงานอาอาจจะเปลี่ยนใจยอมฝากให้ภายในปีนี้ก็ได้  
เพราะยังไงก็ครอบครัวเดียวกัน  อาคงไม่ใจดำถึงขนาดผิดคำพูดและตัดอนาคตหลาน เพียงเพื่อให้มีเบ๊ค่าแรงถูกๆไว้ใช้ในบริษัทต่อไป

อยากระบายค่ะ ตอนนี้ทุกข์ใจไม่รู้จะทำยังไงดี มืดแปดด้าน  
ต้องทนจนกว่าเค้าจะฝากให้ซึ่งก็ไม่รู้อีกกี่ปี เวลาไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่ปัญหาใหญ่คืองานที่ทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยได้ดีแถมโดนเอาเปรียบกดขี่
ทั้งที่เป็นญาติพี่น้องกันแต่กลับถือหางคนอื่น  จ้างคนอื่นแพงๆทั้งที่แทบไม่ทำอะไร ส่วนคนทำงานหนักพอขอขึ้นเงินเดือนกลับบอกว่าไม่ให้
เราก็ไม่รู้จะช่วยยังไงได้แต่ให้กำลังใจเค้า  สงสารก็สงสารแต่ก็ได้แค่ยืนดู  จะลาออกก็ไม่ได้เพราะแฟนก็ไม่มีที่ไป
ด้วยวุฒิแค่นี้จะหางานอะไรที่ได้เงินเยอะพอที่จะสร้างความมั่นคงให้ชีวิตได้  โดยที่ไม่ต้องหวังพึ่งอนาคตจากคนบ้านนี้อีกแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่