..
มีเรื่องนี้อยู่จริง แต่ผมจะเปิดเผยภาพรวมให้เห็นคร่าวๆ ว่ามันเป็นยังไง
มีหนังสือ อยู่สองเล่ม เล่นหนึ่งเรียกอัลกุรอาน มนุษย์ทุกคนที่ประกาศตัวเป็นมุสลิมนั้น
ศรัทธาต่อ คัมภีร์เล่มนี้ว่า เป็นวจนะของพระเจ้า ศรัทธาที่เนื้อหาตัวอักษร และความหมาย
ความศรัทธานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้มีหน้าที่รวบรวมมันขึ้นมา เพราะผู้รวบรวมคือมนุษย์
ในคัมภีรร์บอกว่า พระเจ้าประทานความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว มีปัญหาอะไรให้ตามหาในอัลกุรอาน
หรือ ท่านศาสดา
ปัญหาคือท่านศาสดาเสียชีวิต
เอายังไงดี? ท่านศาสดาก็ไม่ได้บอกให้ทำยังไง อัลกุรอานก็ไม่ได้บอกไว้ว่าต้องทำยังไง
หนังสือเล่มที่สองคือ บันทึกเรื่องเล่ากิจกรรมของท่านศาสดา โดยคนรอบๆตัว จึงเกิดขึ้น
เพราะคิดว่า มันจะทดแทนการเสียชีวิตของท่านได้ดีที่สุด
โดยคนรอบๆตัว ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ คัดทั้งจากจำนวนความน่าเชื่อถือ ของผู้รายงาน ในประเด็นเรื่องความจำ และ"ความดี"
หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้ถูกสั่งให้สร้างขึ้น หรือมอบอำนาจให้สร้างขึ้น โดย อัลกุรอาน
แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่วางระบบที่สร้างกันขึ้นมา
เรียกว่า กฏหมายลูกบ้าง ส่วนขยายอัลกุรอานบ้าง ส่วนเติมเติมบ้าง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเป็นมุสลิมบ้าง
แรกๆใช้เป็นเพียงแนวทาง หลังๆ นำมาบังคับใช้ ชี้ขาดกันถึงชีวิต
ทุกอย่างในนี้ต้องถูกต้องหมด เอาเรื่องเพียงส่วนเดียวเช่นการละหมาด มาเคลมเรื่องอื่นๆ ที่มันแปลกๆทั้ง
การปาหิน การฆ่าคนเปลี่ยนศาสนาก็มาจากสาเหตุนี้
เล่มแรกอัลกุรอานนั้น มุสลิมทุกคนไม่มีความขัดแย้งกัน
แต่มาฆ่ากันตาย ก็เพราะเล่มที่สอง
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝั่งกุรายละเอียดขึ้นมา รับกันเอง ยืนยันกันเอง
แล้วมุสลิมก็แตกออกเป็นสายต่างๆ ด้วย ท่านศาสดาในรูปเล่มที่ตัวเองต่างอุ้มชู
บางเรื่องจริงหรือไม่จริงๆม่รุ้ แต่ เรื่องที่ปราชญ์ฝ่ายตัวเองบอกว่า จริง ก็ต้องจริง
แล้วใช้มันไล่บังคับ มุสลิมที่ ไม่เห็นด้วยทุกคน ด้วยการขู่ว่าตกศาสนาบ้าง ไม่ใช่มุสลิมบ้าง
พวกทำลายศาสนาบ้าง บลาๆ
อิสลามกลายเป็นเรื่องการเมือง และการสืบทอดบัลลังก์นับแต่นั่นเป็นต้นมา
มุสลิมเหล่านี้ไม่เคยสงสัยเลย
ทำไมพระเจ้าถึงไม่ให้อำนาจ มนุษย์สร้างท่านศาสดาร่างก๊อปปี้ขึ้นมา
ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่รุ้ ทั้งๆที่มีศพมุสลิมมากมายต้องตายภายใต้ความขัดแย้งนี้
ก็ยังไมุ่ร้?
เข้าเรื่องต่อ
"ไม่มีการบังคับให้นับถือศาสนา"
นี่คือวจนะที่ชัดเจนที่อยู่ในอัลกุรอาน สำหรับอิสลาม ศาสนาไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน เสื้อผ้าที่ใส่
ท่าทางที่กระทำ แต่อยู่ในหัวอก แน่นอน สำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้า เค้าย่อมรุ้ดีว่า พระองค์ย่อมรุ้ลงไปถึงเบื้องลึก
สุดลิ่มของการคิดคำนึง
การเป็นมุสลิมนั้น ไม่ได้หมายความว่า คุณมีทะเบียนบ้านเป็นอะไร
แต่อยู่ที่หลักศรัทธาในเบื้องลึกที่สุดของคุณ
ดังนั้น " การเปลี่ยนศาสนาหรือ การหลุดออกจากศาสนาในทางโลก มันไม่มีอยู่จริงๆ "
มันเป็นแค่การอุปโลกขึ้นมาของมนุษย์เท่านั้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ถึงไม่มีโทษทัณฑ์
ทางโลกใดๆเลยที่เขียนไว้เพื่อให้มนุษย์ใช้กับมุนษย์ ในเรื่องเหล่านี้
แต่ปัญหาตามมาคือ ดันมีเรื่องการฆ่าคนเปลี่ยนศาสนา ใน บันทึกที่เรียกว่าฮะดิษนี่ซิ
มุสลิมหลายท่านก็อ้อมแอ้มไปว่า เป็นเรื่องของการปกครอง ขบถ ไม่ใช่ประเด็นทางศาสนา
ฆ่าได้ถ้าเป็นขบถ เอ้างั้นก็ฆ่าเรื่องขบถเสียซิ จะ มาบอกว่า ฆ่าเพราะเปลี่ยนศาสนาทำไม
ลองแบบนี้ คนรุ่นหลังมันก็เอามาอ้างได้ดิ
ซึงก็อ้างจริงๆ ปัจจุบันในบางประเทศ ยังยึดถือเอาว่าการเปลี่ยนศาสนา อาจเป็นส่วนหนึ่งของการขบถ
เด็กคนหนึ่งติสเบื่อๆ อย่างเป็นเอทิสตามเพื่อน ในประเทศอาหรับ อาจถูกลากตัวไปพิจรณา ข้อหาในประเด็นขบถ ด้วย
มุสลิมบางส่วน ก็ยังบอกว่า ไม่ได้มีการบังคับให้นับถือศาสนา หมายถึง ไม่ได้ห้ามเข้า แต่ถ้าออกจากศาสนา ก็สมควรโดน
เอากับมันซิ
ไม่มีการบังคับให้นับถือศาสนา ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรแล้ว ที่จะต้องโยงเรื่องการเปลี่ยนศาสนาเข้ากับข้ออ้างอื่นๆ
ไม่มีก็คือไม่มี
จะพิจรณาโทษขบถ ก็พิจรณา ด้วยประเด็นขบถ ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนศาสนา
จะนำมารวมกับประเด็นพวกนี้ แบบนี้ ใครเปลี่ยนศาสนาพวกบ้าอำนาจก็เอา เรื่องขบถมาขู่กรรโชกได้หมด
แต่ก็นะ มันก็เป็นของมันแบบนี
ทั้งยั้งมีการผลักด้นกฏหมายเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ
แม้แต่ในประเทศไทย
ปราชญ์กลุ่มหนึ่งถ่ายทอดอำนาจทางสายเลือด กลุ่มบุคคล
สร้างกฏหมาย ด้วยฮะดิษ ปกครองด้วยฮะดิษ และ ฆ่าคนเปลี่ยนศาสนาอ้างอ้อมแอ้มว่าอาจจะขบถต่อรัฐด้วยฮะดิษ
"รวบอำนาจเบ็ดเสร็จสมบูรณ์แบบ"
นี่แหละครับโลกอิสลามยุคปัจจุบัน
เป็นเรือ่งการเมืองล้วนๆ จนหารากไม่เจอแล้วว่า
เราเป็นใคร
ขี้ข้าอาหรับ
ขี้ข้าปราชซุนนีย์
ขี้ข้าปราช์ชีอะห์
หรือ มุสลิม ซึ่งแปลว่าผู้ศิโรราบต่อพระเจ้าหนึ่งเดียว
สุดท้ายถ้าเราศรัทธาในพระองค์ เราก็ควรศรัทธาในการไม่มีคำตอบของพระองค์เช่นกัน
คุณมีศรัทธาเพียงพอหรือยัง?
การประหารชีวิต คนเปลี่ยนศาสนาของอิสลาม
มีเรื่องนี้อยู่จริง แต่ผมจะเปิดเผยภาพรวมให้เห็นคร่าวๆ ว่ามันเป็นยังไง
มีหนังสือ อยู่สองเล่ม เล่นหนึ่งเรียกอัลกุรอาน มนุษย์ทุกคนที่ประกาศตัวเป็นมุสลิมนั้น
ศรัทธาต่อ คัมภีร์เล่มนี้ว่า เป็นวจนะของพระเจ้า ศรัทธาที่เนื้อหาตัวอักษร และความหมาย
ความศรัทธานั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้มีหน้าที่รวบรวมมันขึ้นมา เพราะผู้รวบรวมคือมนุษย์
ในคัมภีรร์บอกว่า พระเจ้าประทานความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว มีปัญหาอะไรให้ตามหาในอัลกุรอาน
หรือ ท่านศาสดา
ปัญหาคือท่านศาสดาเสียชีวิต
เอายังไงดี? ท่านศาสดาก็ไม่ได้บอกให้ทำยังไง อัลกุรอานก็ไม่ได้บอกไว้ว่าต้องทำยังไง
หนังสือเล่มที่สองคือ บันทึกเรื่องเล่ากิจกรรมของท่านศาสดา โดยคนรอบๆตัว จึงเกิดขึ้น
เพราะคิดว่า มันจะทดแทนการเสียชีวิตของท่านได้ดีที่สุด
โดยคนรอบๆตัว ส่งต่อกันมาเป็นทอดๆ คัดทั้งจากจำนวนความน่าเชื่อถือ ของผู้รายงาน ในประเด็นเรื่องความจำ และ"ความดี"
หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้ถูกสั่งให้สร้างขึ้น หรือมอบอำนาจให้สร้างขึ้น โดย อัลกุรอาน
แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่วางระบบที่สร้างกันขึ้นมา
เรียกว่า กฏหมายลูกบ้าง ส่วนขยายอัลกุรอานบ้าง ส่วนเติมเติมบ้าง สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเป็นมุสลิมบ้าง
แรกๆใช้เป็นเพียงแนวทาง หลังๆ นำมาบังคับใช้ ชี้ขาดกันถึงชีวิต
ทุกอย่างในนี้ต้องถูกต้องหมด เอาเรื่องเพียงส่วนเดียวเช่นการละหมาด มาเคลมเรื่องอื่นๆ ที่มันแปลกๆทั้ง
การปาหิน การฆ่าคนเปลี่ยนศาสนาก็มาจากสาเหตุนี้
เล่มแรกอัลกุรอานนั้น มุสลิมทุกคนไม่มีความขัดแย้งกัน
แต่มาฆ่ากันตาย ก็เพราะเล่มที่สอง
ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝั่งกุรายละเอียดขึ้นมา รับกันเอง ยืนยันกันเอง
แล้วมุสลิมก็แตกออกเป็นสายต่างๆ ด้วย ท่านศาสดาในรูปเล่มที่ตัวเองต่างอุ้มชู
บางเรื่องจริงหรือไม่จริงๆม่รุ้ แต่ เรื่องที่ปราชญ์ฝ่ายตัวเองบอกว่า จริง ก็ต้องจริง
แล้วใช้มันไล่บังคับ มุสลิมที่ ไม่เห็นด้วยทุกคน ด้วยการขู่ว่าตกศาสนาบ้าง ไม่ใช่มุสลิมบ้าง
พวกทำลายศาสนาบ้าง บลาๆ
อิสลามกลายเป็นเรื่องการเมือง และการสืบทอดบัลลังก์นับแต่นั่นเป็นต้นมา
มุสลิมเหล่านี้ไม่เคยสงสัยเลย
ทำไมพระเจ้าถึงไม่ให้อำนาจ มนุษย์สร้างท่านศาสดาร่างก๊อปปี้ขึ้นมา
ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่รุ้ ทั้งๆที่มีศพมุสลิมมากมายต้องตายภายใต้ความขัดแย้งนี้
ก็ยังไมุ่ร้?
เข้าเรื่องต่อ
"ไม่มีการบังคับให้นับถือศาสนา"
นี่คือวจนะที่ชัดเจนที่อยู่ในอัลกุรอาน สำหรับอิสลาม ศาสนาไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน เสื้อผ้าที่ใส่
ท่าทางที่กระทำ แต่อยู่ในหัวอก แน่นอน สำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้า เค้าย่อมรุ้ดีว่า พระองค์ย่อมรุ้ลงไปถึงเบื้องลึก
สุดลิ่มของการคิดคำนึง
การเป็นมุสลิมนั้น ไม่ได้หมายความว่า คุณมีทะเบียนบ้านเป็นอะไร
แต่อยู่ที่หลักศรัทธาในเบื้องลึกที่สุดของคุณ
ดังนั้น " การเปลี่ยนศาสนาหรือ การหลุดออกจากศาสนาในทางโลก มันไม่มีอยู่จริงๆ "
มันเป็นแค่การอุปโลกขึ้นมาของมนุษย์เท่านั้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่ถึงไม่มีโทษทัณฑ์
ทางโลกใดๆเลยที่เขียนไว้เพื่อให้มนุษย์ใช้กับมุนษย์ ในเรื่องเหล่านี้
แต่ปัญหาตามมาคือ ดันมีเรื่องการฆ่าคนเปลี่ยนศาสนา ใน บันทึกที่เรียกว่าฮะดิษนี่ซิ
มุสลิมหลายท่านก็อ้อมแอ้มไปว่า เป็นเรื่องของการปกครอง ขบถ ไม่ใช่ประเด็นทางศาสนา
ฆ่าได้ถ้าเป็นขบถ เอ้างั้นก็ฆ่าเรื่องขบถเสียซิ จะ มาบอกว่า ฆ่าเพราะเปลี่ยนศาสนาทำไม
ลองแบบนี้ คนรุ่นหลังมันก็เอามาอ้างได้ดิ
ซึงก็อ้างจริงๆ ปัจจุบันในบางประเทศ ยังยึดถือเอาว่าการเปลี่ยนศาสนา อาจเป็นส่วนหนึ่งของการขบถ
เด็กคนหนึ่งติสเบื่อๆ อย่างเป็นเอทิสตามเพื่อน ในประเทศอาหรับ อาจถูกลากตัวไปพิจรณา ข้อหาในประเด็นขบถ ด้วย
มุสลิมบางส่วน ก็ยังบอกว่า ไม่ได้มีการบังคับให้นับถือศาสนา หมายถึง ไม่ได้ห้ามเข้า แต่ถ้าออกจากศาสนา ก็สมควรโดน
เอากับมันซิ
ไม่มีการบังคับให้นับถือศาสนา ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรแล้ว ที่จะต้องโยงเรื่องการเปลี่ยนศาสนาเข้ากับข้ออ้างอื่นๆ
ไม่มีก็คือไม่มี
จะพิจรณาโทษขบถ ก็พิจรณา ด้วยประเด็นขบถ ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนศาสนา
จะนำมารวมกับประเด็นพวกนี้ แบบนี้ ใครเปลี่ยนศาสนาพวกบ้าอำนาจก็เอา เรื่องขบถมาขู่กรรโชกได้หมด
แต่ก็นะ มันก็เป็นของมันแบบนี
ทั้งยั้งมีการผลักด้นกฏหมายเหล่านี้ให้เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ
แม้แต่ในประเทศไทย
ปราชญ์กลุ่มหนึ่งถ่ายทอดอำนาจทางสายเลือด กลุ่มบุคคล
สร้างกฏหมาย ด้วยฮะดิษ ปกครองด้วยฮะดิษ และ ฆ่าคนเปลี่ยนศาสนาอ้างอ้อมแอ้มว่าอาจจะขบถต่อรัฐด้วยฮะดิษ
"รวบอำนาจเบ็ดเสร็จสมบูรณ์แบบ"
นี่แหละครับโลกอิสลามยุคปัจจุบัน
เป็นเรือ่งการเมืองล้วนๆ จนหารากไม่เจอแล้วว่า
เราเป็นใคร
ขี้ข้าอาหรับ
ขี้ข้าปราชซุนนีย์
ขี้ข้าปราช์ชีอะห์
หรือ มุสลิม ซึ่งแปลว่าผู้ศิโรราบต่อพระเจ้าหนึ่งเดียว
สุดท้ายถ้าเราศรัทธาในพระองค์ เราก็ควรศรัทธาในการไม่มีคำตอบของพระองค์เช่นกัน
คุณมีศรัทธาเพียงพอหรือยัง?