จากหัวข้อเรื่องของผมมันอาจจะดูเว่อร์ ๆ ไปสำหรับท่านนักปั่นทั้งหลายและไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรใน หมู่นักปั่นจักรยานนัก แต่สำหรับผมแล้ว ถือว่า เป็นเรื่อง น่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก
เพราะผมเป็นเพียงคนธรรมดา ที่ไม่เคยออกกำลังกาย เนื่องจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น ปัจจุบันผมมีอายุ 56 ปี คงออกกำลังกายได้ด้วยวิธีไม่กี่ชนิดนัก มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งชวนให้ไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น ๆ ก็ด้วยที่น้ำหนักตัวมาก และอายุมาก ก็กลัวว่าข้อเข่าจะเสื่อม วิ่งไม่ไหวเคยแค่ไปวิ่ง ๆ ตามได้แค่ 200-300 เมตร ก็เหนื่อยมาก แล้วก็พาลคิดไปว่า อยู่ดีดี จะทำให้ตัวเองเหนื่อย และ ลำบากทำไป
จนเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มีกลุ่มน้อง ๆ ที่ชอบปั่นจักรยานฟิกส์เกียร์ มาชวนไปปั่นจักรยานด้วยกัน แต่ผมไม่มั่นใจตัวเองกับฟิกส์เกียร์ และคิดว่าถ้าจะปั่นจักรยานจะชอบจักรยานพับเพราะเอาไปไหนมาไหนได้ด้วยความสะดวกสบาย น้องคนหนึ่งก็เลยหาซื้อจักรยานพับมาให้ ก่อนหน้าที่ผมจะปั่นจักรยานผมปวดเมื่อยบริเวณต้นขามาก ต้องเรียกหมอนวดมานวดให้ ประจำ หลังจากนวดไป 2-3 วัน ก็เป็นอีก หลังจากได้จักรยานมาก็พยายามปั่นมันด้วยแรงยุของน้อง ๆ ผมไม่กล้าปั่นจักรยานบนท้องถนนสักเท่าไหร่ ผมจึงนำจักรยานใส่ท้ายรถแล้วไปปั่นที่สวนสาธารณะ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งใน 1 รอบจะได้ระยะทาง 700 เมตร ในวันแรก ๆ กว่าจะผ่านไปได้ 5 รอบมันยากลำบากนัก ทั้งเมื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บก้น แต่รุ่นที่พี่วิ่งในที่เดียวกัน เขาวิ่งวันละ 8-10 รอบ แล้วผมปั่นจักรยานจะน้อยกว่านั้นได้อย่างไร ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ผมเลยปั่นวันละ ประมาณ 10 รอบสนาม นับเป็นระยะทางก็ 7 กิโลเมตร จนคิดว่า ตอนนี้ความเมื่อยความเหนื่อยเริ่มหายไป ก็เลยซื้อกางเกงปั่นจักรยานมาใส่ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามปั่นอย่างสม่ำเสมอเริ่มได้ 15 และ 20 รอบตามลำดับ ปั่นไปเรื่อย ๆ ประมาณสัก ครึ่งเดือน เริ่มมีคนทักว่า ผอมลง ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้ สนใจอะไรนักจนเมื่อครบเดือนน้ำหนักตัวผมหายไป 4-5 ก.ก. ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างท้วม เคยคิดเสมอว่า อยากลดน้ำหนักสัก 2-3 ก.ก. คิดแบบนี้มา เป็นระยะเวลา 4-5 ปี แต่ก็ไม่เคยทำได้ แม้แต่ กิโล เดียว แต่ผมแค่ปั่นจักรยานวันละ 15 ก.ม.ด้วยระยะเวลาเพียง 40 นาที ทุกวัน น้ำหนักผมหายไป 4-5 ก.ก. มันช่างวิเศษจริง ๆ
จากนั้นมาผมก็เริ่มสนุกกับการปั่น ต้นขาที่เคยปวดเมื่อย ต้องนวดทุก 2-3 วัน เริ่มหายไป ผมเพิ่มการปั่นมากขึ้นและเริ่มศึกษาว่า ควรปั่นด้วยรอบขาถี่ ๆ จึงจะเผาผลาญได้มากกว่า ปั่นให้เร็ว ด้วยเกียร์สูง ๆ เดือนที่ 2 ผมจึงปั่นด้วยเกียร์ต่ำรอบขาสูง เริ่มระยะทางจาก 20 รอบ สนามเป็น 25 รอบบ้าง 30 รอบบ้าง รวมเวลาแล้วก็ประมาณ 50-60 นาทีทุกวัน
ในภาพนี้ ภาพซ้ายมือถ่ายไว้เมื่อตอนที่เริ่มซื้อจักรยานได้สัก 1 สัปดาห์ ภาพด้านขวามือผมปั่นจักรยานมาได้ 2 เดือน 10 วัน พุงผมหายไปเยอะเลย ภายใน 2 เดือน น้ำหนักผมหายไป 7-8 ก.ก. สำหรับผมแล้ว มันเป็นเรื่อง มหัศจรรย์ ยิ่งนักครับ
จากประสบการณ์เล็กน้อยของผม หวังว่าจะทำให้คนที่กำลังคิดออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนักได้มีกำลังใจว่าขนาดคนอายุอย่างผม ปั่นไม่ได้มากมายอะไร เพียงวันละครั้ง ครั้งละ 40-60 นาที ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยจักรยานพับคันเล็ก ๆ เท่านั้นครับ
จักรยานมหัศจรรย์
เพราะผมเป็นเพียงคนธรรมดา ที่ไม่เคยออกกำลังกาย เนื่องจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น ปัจจุบันผมมีอายุ 56 ปี คงออกกำลังกายได้ด้วยวิธีไม่กี่ชนิดนัก มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งชวนให้ไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น ๆ ก็ด้วยที่น้ำหนักตัวมาก และอายุมาก ก็กลัวว่าข้อเข่าจะเสื่อม วิ่งไม่ไหวเคยแค่ไปวิ่ง ๆ ตามได้แค่ 200-300 เมตร ก็เหนื่อยมาก แล้วก็พาลคิดไปว่า อยู่ดีดี จะทำให้ตัวเองเหนื่อย และ ลำบากทำไป
จนเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา มีกลุ่มน้อง ๆ ที่ชอบปั่นจักรยานฟิกส์เกียร์ มาชวนไปปั่นจักรยานด้วยกัน แต่ผมไม่มั่นใจตัวเองกับฟิกส์เกียร์ และคิดว่าถ้าจะปั่นจักรยานจะชอบจักรยานพับเพราะเอาไปไหนมาไหนได้ด้วยความสะดวกสบาย น้องคนหนึ่งก็เลยหาซื้อจักรยานพับมาให้ ก่อนหน้าที่ผมจะปั่นจักรยานผมปวดเมื่อยบริเวณต้นขามาก ต้องเรียกหมอนวดมานวดให้ ประจำ หลังจากนวดไป 2-3 วัน ก็เป็นอีก หลังจากได้จักรยานมาก็พยายามปั่นมันด้วยแรงยุของน้อง ๆ ผมไม่กล้าปั่นจักรยานบนท้องถนนสักเท่าไหร่ ผมจึงนำจักรยานใส่ท้ายรถแล้วไปปั่นที่สวนสาธารณะ ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งใน 1 รอบจะได้ระยะทาง 700 เมตร ในวันแรก ๆ กว่าจะผ่านไปได้ 5 รอบมันยากลำบากนัก ทั้งเมื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งเจ็บก้น แต่รุ่นที่พี่วิ่งในที่เดียวกัน เขาวิ่งวันละ 8-10 รอบ แล้วผมปั่นจักรยานจะน้อยกว่านั้นได้อย่างไร ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ผมเลยปั่นวันละ ประมาณ 10 รอบสนาม นับเป็นระยะทางก็ 7 กิโลเมตร จนคิดว่า ตอนนี้ความเมื่อยความเหนื่อยเริ่มหายไป ก็เลยซื้อกางเกงปั่นจักรยานมาใส่ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามปั่นอย่างสม่ำเสมอเริ่มได้ 15 และ 20 รอบตามลำดับ ปั่นไปเรื่อย ๆ ประมาณสัก ครึ่งเดือน เริ่มมีคนทักว่า ผอมลง ตอนนั้น ผมก็ไม่ได้ สนใจอะไรนักจนเมื่อครบเดือนน้ำหนักตัวผมหายไป 4-5 ก.ก. ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างท้วม เคยคิดเสมอว่า อยากลดน้ำหนักสัก 2-3 ก.ก. คิดแบบนี้มา เป็นระยะเวลา 4-5 ปี แต่ก็ไม่เคยทำได้ แม้แต่ กิโล เดียว แต่ผมแค่ปั่นจักรยานวันละ 15 ก.ม.ด้วยระยะเวลาเพียง 40 นาที ทุกวัน น้ำหนักผมหายไป 4-5 ก.ก. มันช่างวิเศษจริง ๆ
จากนั้นมาผมก็เริ่มสนุกกับการปั่น ต้นขาที่เคยปวดเมื่อย ต้องนวดทุก 2-3 วัน เริ่มหายไป ผมเพิ่มการปั่นมากขึ้นและเริ่มศึกษาว่า ควรปั่นด้วยรอบขาถี่ ๆ จึงจะเผาผลาญได้มากกว่า ปั่นให้เร็ว ด้วยเกียร์สูง ๆ เดือนที่ 2 ผมจึงปั่นด้วยเกียร์ต่ำรอบขาสูง เริ่มระยะทางจาก 20 รอบ สนามเป็น 25 รอบบ้าง 30 รอบบ้าง รวมเวลาแล้วก็ประมาณ 50-60 นาทีทุกวัน
ในภาพนี้ ภาพซ้ายมือถ่ายไว้เมื่อตอนที่เริ่มซื้อจักรยานได้สัก 1 สัปดาห์ ภาพด้านขวามือผมปั่นจักรยานมาได้ 2 เดือน 10 วัน พุงผมหายไปเยอะเลย ภายใน 2 เดือน น้ำหนักผมหายไป 7-8 ก.ก. สำหรับผมแล้ว มันเป็นเรื่อง มหัศจรรย์ ยิ่งนักครับ
จากประสบการณ์เล็กน้อยของผม หวังว่าจะทำให้คนที่กำลังคิดออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนักได้มีกำลังใจว่าขนาดคนอายุอย่างผม ปั่นไม่ได้มากมายอะไร เพียงวันละครั้ง ครั้งละ 40-60 นาที ก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยจักรยานพับคันเล็ก ๆ เท่านั้นครับ