ขอแชร์เรื่องการเช่ารถขับกับบริษัทใหญ่ ๆ ก่อนรับรถควรตรวจสอบให้ละเอียด มิฉะนั้นอาจต้องจ่ายค่าน้ำมันลิตรละเกือบ 80 บาท

ผมเป็นลูกค้าของบริษัท Avis และได้ทำการจองรถกับทางบริษัทเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2557 โดยมีกำหนดการ
รับรถที่สนามบินเชียงใหม่ วันที่ 15 มี.ค. 2557 เป็นรถรุ่น Eco -car


และเมื่อไปรับรถจริง ปรากฏว่ารถรุ่นดังกล่าวจองเต็ม ทางสาขาจึง Upgrade ให้เป็นรุ่น 1.5 ให้ และเมื่อรับรถ ที่
บริเวณลานจอดรถ รถคันดังกล่าว ไฟเบรกด้านซ้าย และ ไฟถอยด้านขวา ไม่ติด พนักงานจึงเปลี่ยนอีกครั้งเป็นรถ Toyota
Altis 1.6 ให้ โดยผมได้ตรวจสภาพรอบคัน และเน้นไปที่เช็คไฟเบรกไฟถอยหลัง และได้สังเกตว่า สเกล
น้ำมันอยู่ที่ขอบล่างของเส้นชี้ตัว F


(เป็นความสะเพร่าผมจริง ๆ ที่ไม่ได้ถ่ายรูปจริง ๆ ไว้ )
ซึ่งผมไม่เคยขับรถรุ่นนี้(โดยปกติจะได้ขับรถที่เป็นมาตรวัด digital) และคิดว่าน้ำมันเต็มถังปกติของรุ่นนี้ ขีดจะชี้ตรงบริเวณดังกล่าว
จึงไม่ได้เอะใจอะไร และเมื่อขับไปได้ประมาณ 4-5 km.มาตรวัดระดับน้ำมันก็ลดลง จนสังเกตได้ชัด แต่ก็คิดว่าถังน้ำมันคงเล็ก และลูกค้าคนเก่าคงเติมมาจากปั๊มที่ค่อนข้างไกลจากสนามบิน แต่ก็คิดว่าพออนุโลมได้ และจะเติมให้เท่า ๆ กันก่อนส่งคืน

และเมื่อจะคึนรถ ผมได้ไปเติมน้ำมันบริเวณตลาดหนองหอย (พิกัดตามภาพ)


โดยระยะทางที่วิ่งได้ขณะนั้น

100,708(ไมล์ตอนรับรถ)-100,841 (ไมล์ตอนเติมน้ำมัน)  = 133 KM  


ค่าน้ำมันเต็มถัง 855 บาท( ตามภาพใบเสร็จที่แนบมา )ในราคา Gas โซฮอล์ล 91 (39.33 บาท / ลิตร)


จากการคำนวณแล้ว เท่ากับอัตราการใช้น้ำมันเท่ากับ 6.118 Km/L ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉลี่ยแล้ว อัตราการ
ใช้น้ำมันของรถรุ่นนี้ จากการค้นข้อมูลสภาพการขับจริงน่าจะอยู่ในช่วง 12-15 km/L และรถคันนี้ มีระบบ Eco ด้วย
ไม่น่าจะใช้น้ำมันมากขนาดนี้ รวมทั้งการขับรถครั้งนี้ เป็นการขับระยะยาว ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง และไม่ได้ขึ้นเขาแต่อย่างใด

ซึ่งหลังเติมน้ำมันเต็มถัง ถึงทราบว่าสเกลที่เต็มถังจริง ๆ สเกลจะชี้เลยตัว F ขึ้นไปอีก

(ภาพสเกลตอนเต็มถัง ในมุมมองตรงๆ ชัด ๆ)


และเมื่อผมขับไปคืนรถที่สนามบิน และแวะซื้อของ เลขไมล์ตอนคืนเป็น 100,851 ห่างจากตอนเติมน้ำมันมา 10 km เข็มไมล์ก็ยังไม่ลดลงเลย


นั่นหมายความว่า การที่ผมต้องชำระค่าน้ำมันสูงขนาดนี้เป็นไปได้ 4 กรณี
1.ลูกค้าคนก่อนเติมน้ำมันไม่เต็มถัง  หรือ
2.ลูกค้าคนก่อนเติมน้ำมันเต็มถัง แต่ขับต่อมาอีกเป็นระยะทางที่น่าจะเกิน 20-30 km
3.เครื่องยนตร์มีปัญหา มีการเผาผลาญน้ำมันเกินปกติ
4.พนักงานนำรถไปใช้ ก่อนให้ผมขับ เพราะเป็นรถที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะให้ลูกค้าใช้

เป็นความผิดของผมส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ถ่ายรูปสเกลน้ำมันตอนแรกรับ เพราะมัวแต่ตรวจสอบอย่างอื่นโดยเฉพาะไฟท้าย เพราะรถ
คันก่อนที่จะให้ผมมันเสียที่ไฟท้าย

และผมก็ไม่สามารถพิสูจน์ให้ได้ว่าใบเสร็จน้ำมันใบดังกล่าว ใช้เติมรถคันนี้ เพราะไม่รู้จะพิสูจน์ได้อย่างไร
แต่ก็ขอยืนยันว่าผมไม่มีรถยนตร์คันอื่นในจ.เชียงใหม่ เพราะถ้ามีก็คงไม่ต้องเช่ารถให้เสียเงิน

และก็ไม่รู้จะพิสูจน์ได้ยังไงว่าไม่ได้ขับขึ้นดอย หรือสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ จนน้ำมันลดลงเล่น ๆ แม้ว่าจะฟังดูไม่มีเหตุผล

ผมคงไม่สามารถเรียกร้องใด ๆ เพราะมีหลายอย่างที่ผมเองก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้ดังกล่าวข้างต้น
เพราะมาเอะใจ เมื่อตอนจะเติมน้ำมันวันที่จะคืนรถแล้ว แต่ก็ขอเป็นตัวอย่าง ให้ทางบริษัทระมัดระวังเรื่องการส่งรถให้ลูกค้า ทั้งการจัดรถให้ตรงกับรุ่นที่ลูกค้าจองล่วงหน้าเกือบเดือน และการตรวจสภาพรถให้พร้อมก่อนส่งมอบ ไม่ใช่ให้ลูกค้ามาเจอข้อบกพร่องเอง

แม้ว่าจริงแล้วตัวผมเองก็ไม่ได้เติมน้ำมันให้เต็ม(คือใช้ไปประมาณ 10 km)ก่อนส่งมอบคืนเพราะ ผมก็กะว่าจะคืนน้ำมันให้เท่า ๆ กับตอนที่รับรถที่น้ำมันพร่องไปเร็วเกินปกติ แต่ไม่คาดคิดว่า น้ำมันตอนรับรถจะถูกใช้ไปมากขนาดนี้

รวมทั้งการ  upgrade รถให้รุ่นใหญ่ขึ้น ก็ไม่ได้สร้างความพอใจให้กับลูกค้าเสมอไป เพราะนั่นหมายถึงค่าน้ำมันที่ลูกค้าจะต้องชำระเพิ่มขึ้นในเครื่องยนตร์ที่ใหญ่ขึ้น โดยที่ลูกค้าไม่ได้จำเป็นต้องใช้เครื่องยนตร์ขนาดนั้น เพราะไม่ได้ตั้งใจจะขับขึ้นดอย เข้าป่า ลุยห้วยแต่ประการใด

ฝากเป็นประสบการณ์ให้กับสมาชิกที่อาจจะต้องเช่ารถขับช่วงเดินทางท่องเที่ยว ในเร็ว ๆ นี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่